รีวิว ASUS TUF Geforce RTX 3070 OC Edition 8GB GDDR6
สวัสดีครับ…. วันนี้เรามีกราฟิกการ์ดตัวแรงจากค่าย ASUS มาแนะนำกันอีกหนึ่งรุ่นกับเจ้า TUF GAMING Geforce RTX 3070 OC Edition 8GB GDDR6 มาแนะนำให้เพื่อนๆ พิจารณากันอีกหนึ่งรุ่น ซึ่งการ์ดรุ่นนี้ก็จะเป็นสถาปัตยกรรมใหม่ล่าสุดจากทาง NVIDIA ที่มีชื่อเรียกว่า “Ampere Architecture” ที่ผลิตชิปขึ้นมาด้วยเทคโนโลยี 8nm. เท่านั้นเอง จากเดิมของสถาปัตยกรรมเก่าอย่าง Turing GPU นั้นจะอยู่ที่ 12nm. ดังนั้นการปรับปรุงของสถาปัตบกรรมใหม่อย่าง Ampere นั้นต้องบอกเลยว่าแรงไม่ธรรมาอย่างแน่นอน…
- NVIDIA Ampere Streaming Multiprocessors: The building blocks for the world’s fastest, most efficient GPU, the all-new Ampere SM brings 2X the FP32 throughput and improved power efficiency.
- 2nd Generation RT Cores: Experience 2X the throughput of 1st gen RT Cores, plus concurrent RT and shading for a whole new level of ray tracing performance.
- 3rd Generation Tensor Cores: Get up to 2X the throughput with structural sparsity and advanced AI algorithms such as DLSS. Now with support for up to 8K resolution, these cores deliver a massive boost in game performance and all-new AI capabilities.
- Axial-tech Fan Design has been newly tuned with a reversed central fan direction for less turbulence.
- Dual Ball Fan Bearings can last up to twice as long as sleeve bearing designs.
- Military-grade Capacitors and other TUF components enhance durability and performance.
- GPU Tweak II provides intuitive performance tweaking, thermal controls, and system monitoring.
สิ่งที่ทาง NVIDIA อยากจะบอกก็คือเจ้า Ampere นั้นได้รับการพัฒนาให้ RT Core / Tensor Cores และการทำงานของชุด SM (FP32) ใหม่นั้นจะแรงกว่าใน Turing เดิมถึง 2 เท่าตัวกันเลยทีเดียว ดังนั้นแน่นอนว่าเรื่องของแสงและเงาที่ต้องใช้ Ray Tracing นั้นต้องดีขึ้นมากอย่างแน่นอน…
สำหรับเจ้า RTX 3070 นั้นก็จะถูกมาทดแทนรุ่นเก่าอย่าง RTX 2070 และ GTX 1070 ตัวเดิม ซึ่งแรงแค่ไหนนั้นลองดูกราฟประสิทธิภาพของการทดสอบ fps. เกมด้านบนนี้ดูแบบคร่าวๆ ก็แล้วกันครับว่าแรงขึ้นกว่ารุ่นเก่ามากแค่ไหน… หรือจะบอกได้ว่าแค่ RTX 3070 ก็แรงกว่า RTX 2080 Ti ตัวเดิมได้สบายเลยล่ะครับ ฮ่าๆ… ^O^ และด้านล่างนี้ก็จะเป็นตาราง Spec อย่างละเอียดของตัว NVIDIA Geforce RTX 3070 จากทาง NVIDIA Reference Card ที่ได้ออกแบบไว้ครับ
Geforce GTX 3070 Specs (NVIDIA Reference Card)
GPU Engine Specs: | NVIDIA CUDA® Cores | 5888 |
Boost Clock (GHz) | 1.73 | |
Base Clock (GHz) | 1.50 | |
Memory Specs: | Standard Memory Config | 8 GB GDDR6 |
Memory Interface Width | 256-bit | |
Technology Support: | Ray Tracing Cores | 2nd Generation |
Tensor Cores | 3rd Generation | |
NVIDIA Architecture | Ampere | |
Microsoft DirectX® 12 Ultimate | Yes | |
NVIDIA DLSS | Yes | |
PCI Express Gen 4 | Yes | |
NVIDIA® GeForce Experience™ | Yes | |
NVIDIA Ansel | Yes | |
NVIDIA FreeStyle | Yes | |
NVIDIA ShadowPlay | Yes | |
NVIDIA Highlights | Yes | |
NVIDIA G-SYNC® | Yes | |
Game Ready Drivers | Yes | |
NVIDIA Studio Drivers | Yes | |
NVIDIA GPU Boost™ | Yes | |
NVIDIA NVLink™ (SLI-Ready) | – | |
Vulkan RT API, OpenGL 4.6 | Yes | |
HDMI 2.1 | Yes | |
DisplayPort 1.4a | Yes | |
NVIDIA Encoder | 7th Generation | |
NVIDIA Decoder | 5th Generation | |
VR Ready | Yes | |
Display Support: | Maximum Digital Resolution (1) | 7680×4320 |
Standard Display Connectors | HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a | |
Multi Monitor | 4 | |
HDCP | 2.3 | |
Founders Edition Card Dimensions: | Length | 9.5″ (242 mm) |
Width | 4.4″ (112 mm) | |
Slot | 2-Slot | |
Founders Edition Thermal Power Specs: | Maximum GPU Temperature (in C) | 93 |
Graphics Card Power (W) | 220 | |
Required System Power (W) (2) | 650 | |
Supplementary Power Connectors | 1x PCIe 8-pin (adapter to 1x 12-pin included) |
NVIDIA Geforce RTX 3070 นั้นผลิตขึ้นด้วยกระบวนการ 8nm. จากทางโรงงานของ Samsung ซึ่งรุ่นนี้มีหรัส GPU ที่เรียกว่า GPU Name “GA104” Ampere Architecture | โดยตัว GPU รุ่นนี้พกเอา SM มาทั้งหมดถึง 5888 ตัวกันเลยเลยทีเดียว ซึ่งเมื่อเทียบกับ RTX 2080 Ti นั้นจะมีอย่างเพียงแค่ 4532 ตัวเท่านั้น และสำหรับความเร็วในการทำงานของตัว GPU Base/Boost Freq นั้น RTX 3070 จะอยู่ที่ 1500/1730Mhz | ส่วนแรมนั้นเป็นชนิด GDDR6 ขนาดความจุ 8GB ความเร็ว GDDR6-7000 (1,750Mhz) และมีขนาดความกว้างของ Bus Width ที่ 256-Bit ส่วนทางด้านเทคโนโลยีพิเศษด้านในอย่าง Ray Tracing Cores นั้นได้รับการพัฒนาเป็น 2nd Generation และในส่วนของ Tensor Cores นั้นเป็น 3rd Generation ซึ่งทาง NVIDIA บอกไว้เองว่ามีประสิทธิภาพที่ดีกว่าเดิมถึง 2 เท่าตัว เมื่อเทียบกับเจนก่อนหน้านี้
และส่วนของ Feature อื่นๆ ที่น่าสนใจอีกก็ได้แก่รองรับ DirectX 12 Ultimate,Vulkan RT API, OpenGL 4.6, รองรับ PCIe 4.0 มีช่องเสียบ HDMI 2.1 ที่รองรับความละเอียดของ Resolution ได้ถึง 8K 60Hz HDR ได้ด้วยสาย HDMI เพียงเส้นเดียวได้ด้วยนะเออ… จัดว่าเทพไปเลยครับ หุหุ… และในส่วนของทีเด็ดอีกอย่างที่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือทางด้าน Video Decoding ตอนนี้เป็นเจนที่ 5 แล้วซึ่งรองรับ AV1 8bit และ 10bit ได้แล้วด้วยเช่นกัน… คราวนี้เพื่อนๆ สามารถดูไฟล์หนัง AV1 8K หรือดู Youtube 8K ได้แบบไม่กระตุกอย่างแน่นอน เพราะตอนนี้ตัว GPU สามารถถอดรหัสได้ด้วยตัวของมันเองแล้ว โดยไม่ต้องพึ่งพลังของ CPU อีกต่อไป…. หรือใครจะบ้าพลังด้วยการ Stream Game ที่ 8K + HDR ด้วย AV1 ก็รองรับด้วยการ์ด NVIDIA 30-Series ได้เช่นกันนะครับ…. ^O^
TUF GAMING Geforce RTX 3070 OC 8GB
เอาล่ะครับ เรามาชมรายละเอียดของกราฟิกการ์ดในรุ่น TUF Gaming RTX 3070 OC Edition 8GB GDDR6 จากทาง ASUS ตัวนี้เลยดีกว่าว่าได้รับการปรับปรุงให้ดีกว่าการ์ด Ref. จากทาง NVIDIA อย่างไรบ้าง ไปชมพร้อมๆ กันเลยครับ โดยจุดเด่นของ TUF GAMING นั้นก็จะให้ความสำคัญไปในเรื่องของการเลือกใช้อุปกรณ์ Component ที่มีคุณภาพสูงและทนทานต่อการใช้งาน ที่เรารู้จักกันใน TUF Components
TUF Components นั้นคือการเลือกใช้เกรดอุปกรณ์ในการผลิตตัวการ์ดที่มีคุณภาพสูง มีความทนทานเป็นพิเศษ โดยตัว chokes และ MOSFETs นั้นจะเป็นเกรดเดียวกันกับที่ทางการทหารและแพทย์เลือกใช้ ส่วนการกระกอบ PCB นั้นก็จะใช้ระบบ Auto-Extreme ในการผลิตตัวการ์ดขึ้นมาด้วยเครื่องจักรอัตโนมัติ 100% เพื่อลดข้อผิดพลาดจากการกระกอบการ์ดด้วยมนุษย์นั่นเอง จึงมั่นใจได้เลยว่าการ์ดรุ่นนี้จะมีประสิทธิภาพสูงสุด และนอกจากนี้ตัวการ์ด TUF GAMING ทุกรุ่นนั้นจะต้องผ่านการทดสอบแบบทรหดด้วยการ Stress test นานกว่า 144 ชั่วโมงก่อนออกจากหน่ายทุกตัว… และทั้งหมดนี้ก็คือจุดเด่นของการ์ดในตระกูล TUF GAMING นั่นเอง
มาดูการออกแบบตัวการ์ดรุ่นนี้ต่อกันเลยดีกว่าครับ โดยตัวกรอบพัดลมของการ์ดรุ่นนี้จะเป็นชิ้นงานจากอลูมิเนียมทั้งหมด รวมถึงตัว Back plate ด้านหลังตัวการ์ดด้วยเล่นกัน โดยพัดลมระบายความร้อนจะมีมาให้ถึง 3 ตัวด้วยกัน ส่วนความเร็วในการทำงานของตัว GPU รุ่นนี้ทาง ASUS ได้ปรับแต่งให้แรกงว่าการ์ด Ref. ของ NVIDIA ขึ้นมาอีกนิดหน่อยอยู่ที่ GPU Base/Boost/Mem @1500/1815/1750MHz
GPU Engine Clock
- OC mode : 1755 MHz (Boost Clock)
- Gaming mode : 1725 MHz (Boost Clock)
บริเวณด้านหลังของตัวการ์ดจะมีการติดตั้งความแข็งแรงของตัว PCB ด้วยชุด Back Plate อลูมิเนียมขนาดใหญ่ป้อง PCB โก่งงอในการใช้งาน (รับน้ำหนักของตัวการ์ดได้ดีขึ้น)
ตัวพัดลมได้ออกแบบใหม่ให้ดีกว่าเดิม เรียกว่า Axial-tech โดยใช้แกนพัดลมแบบ Dual Ball Bearing และตัวพัดลมสามารถหยุดหมุนเองได้ เมื่ออุณหภูมิของ GPU ต่ำกว่า 55c องศาเซลเซียส เพื่อลดเสียงรบกวนในการทำงานได้แบบ 0 dBA.
ตัวการ์ดมีความหนา 2.7 Slot PCI
Dimentions
- 11.81 ” x 5 ” x 2.04 ” Inch
- 29.99 x 12.69 x 5.17 Centimeter
บริเวณด้านหลังของ Back Plate ที่มีการเจาะรูเว้นช่องว่างไว้นั้น มีเหตุผลที่ว่า สามารถให้ลมร้อนที่ระบายออกจากตัว Heatsink นั้นได้มีช่องไหลผ่านทะลุด้านหลังการ์ดออกไปได้นั่นเอง จึงช่วยให้ Air-Flow ใน Case นั้นไหลเวียนดีขึ้น ความร้อนไม่สะสมที่บริเวณตัวการ์ดมากเกินไป…
บริเวณช่องเสียบไฟเลี้ยงสำหรับการ์ดนั้นเป็นแบบ +12V 8pin จำนวน 2 ชุดด้วยกัน โดยทาง ASUS ได้แนะนำไว้ว่า ให้ใช้งานร่วมกับ PSU ขนาด 750Watt ขึ้นไปจึงจะเหมาะสม
BIOS บนตัวการ์ดนั้นมีอยู่ 2 ตัวด้วยกัน สามารถสลับไปมาด้วย Switch BIOS ที่มีมาให้ด้านข้างการ์ด (ควรเลือก BIOS Switch ก่อนที่จะเปิดเครื่อง PC นะครับ) โดยจะมีโหมดการทำงานอยู่ 2 แบบด้วยกันคือ Performance Mode (Default) และแบบ Quiet Mode สำหรับผู้ที่ต้องการทำงานแบบเงียบเป็นพิเศษ…
นอกจากนนี้ตัว Heatsink ระบายความร้อนของตัว GPU นั้นยังออกแบบมาให้ดีเป็นพิเศษ ด้วยฐาน Base ที่เรียบเป็นพิเศษ ทำจากวัสดุทองแดงเคลือบเผิวมาอย่างดี และยังสามารถระบายความร้อนในกับตัวเม็ดแรม GDDR6 และตัว Mosfet ภาคจ่ายไฟได้อีกด้วย จัดว่าเย็นทั้งการ์ดเลยก็ว่าได้…
ถ้ามองเข้าไปด้านข้างของตัวการ์ด เราจะสังเกตุเห็นได้ว่าบริเวณเม็ดแรมทุกเม็ด และภาคจ่ายไฟนั้นจะมีการติดตั้ง Thermalpad ขนาดหนา ไว้ซับความร้อนออกจากตัวชิปขึ้นไประบายความร้อนที่ตัว Heatsink ได้ด้วย โดยทาง ASUS ยังใช้ท่อ Heatpipe ขนาดใหญ่มาช่วยนำความร้อนให้อีก 4 เส้นใหญ่ๆ เลยล่ะครับ ไม่เย็นก็ให้มันรู้ไป…
ต้องยอมรับว่าการออกแบบ Heatsink และครีบระบายความร้อนของ TUF GAMING RTX 3070 ตัวนี้ออกแบบมาได้ค่อนข้างดีเลยล่ะครับ เก็บงานมาค่อนข้างดี
บริเวณด้านหลังของ Back palte นั้นมีการสกรีนคำว่า GEFOR RTX ไว้ด้วย และการืดรุ่นนี้ต้องบอกก่อนเลยว่า ไม่รองรับการทำงานแบบ NVIDIA NVLink SLI นะครับ ถ้าต้องการคงต้องขยับไปเล่นรุ่นใหญ่กว่านี้อย่าง RTX 3080 และ RTX 3090
รองรับการเชื่อมต่อแบบ PCIe4.0 x16 แต่ก็ยังสามารถต่อใช้งานร่วมกับ PCIe3.0 ได้เหมือนเดิมนะครับ ไม่ต้องกังวัลเรื่องของเมนบอร์ด
บริเวณ Logo ของ TUF GAMING นั้นจะมีไฟ RGB แสดงออกมาตอนใช้งาน ซึ่งสามารถต่อ AURA Sync ร่วมกับ Hardware ที่รองรับได้ทันที
บริเวณช่องเสียบ Display Output นั้นผมชอบตรงที่การ์ดรุ่นใหม่จาก NVIDIA เริ่มรองรับ HDMI 2.1 ที่สามารถต่อเพียงเส้นเดียว ก็สามารถขับภาพได้แบบ 8K 60Hz + HDR ได้แล้ว ซึ่งไม่ต้องง้อ DP1.4a ก็ยังได้… [Digital Max Resolution 7680 x 4320 or 8K]
Display Output ports :
- x 2 (Native HDMI 2.1)
- x 3 (Native DisplayPort 1.4a)
- HDCP Support Yes (2.3)
อุปกรณ์ต่างๆ ที่แถมมากับตัวการ์ด :
- 1 x Speedsetup manual
- 1 x Collection card
- 1 x TUF certificate of Reliability
ภาพบรรยากาศในการทดสอบในครั้งนี้ โดยเราจะทดสอบในห้องแอร์ 24-25 องศาเซลเซียส ตลอดการทดสอบ
CPU | Intel Core i9-10900K 10C/20T 14nm. (Comet Lake) |
CPU Cooler | Tt Water3.0 360 ARGB Sync |
Thermal Compound | Kingpin Cooling KPx |
Motherboard |
ASUS ROG MAXIMUS XII APEX (Z490) BIOS 0901
|
Memory |
ToughRAM RGB DDR4-3600 CL18-20-20-39 1.35V 32GB-Kit [2x16GB] |
VGA |
|
Hard Drive | Kingston KC600 1TB SATA3.0 : OS+GAMES |
PSU | Thermaltake iRGB PLUS 1200 Watt |
OS | Windows 10 Pro 64-Bit (1903) Last Update |
System Config
Base Test VGA 2021 ของเราในครั้งนี้ได้ทำการ Update ชุด Hardware ใหม่ทั้งหมดเลยนะครับ จากก่อนหน้านี้กับชุด i7-8086K + MAXIMUS X APEX (Z370) มาเป็น i9-10900K 10C/20T OC ทิ้งไว้ 5.0Ghz/Cache 4.8Ghz All Core 1.25V ทำงานร่วมกับเมนบอร์ด ROG MAXIMUS XII APEX (Z490) และแรมจากค่าย Thermaltake ToughRAM RGB DDR4-3600C18 ชุดละ 32GB (By XMP2.0 Profile) เพื่อให้ทันสมัยกับ Hardware ใหม่ๆ ดังนั้นผลการทดสอบของรีวิวฉบับนี้จะไม่สามารถนำไปเทียบกับผลการทดสอบ Graphics cards รุ่นก่อนหน้านี้ในเว็บเราได้อีกต่อไปนะครับ (Compare) ส่วนกราฟิกการ์ดที่จะนำมาทดสอบร่วมด้วยในครั้งนี้ได้แก่ AMD RADEON RX 5700 XT 8GB, ASUS TUF GAMING RX 5700OC 8GB และ MSI GTX 1080 Ti GAMING X 11GB
ASUS AURA Sync Support
การ์ดรุ่นนี้รองรับการต่อ AURA Sync กับ Hardware ที่รองรับได้ทันทีครับ โดยเราได้ใช้ Armouy Crate เป็นตัวควบคุมการ Sync ซึ่งก็สามารถทำงานได้ดีครับ โดยตัวเมนบอร์ด ROG MAXIMUS XII APEX ที่เราต่อใช้งานร่วมด้วยนี้ สามารถเห็นได้ครบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป้นตัว VGA, RAM และ AIO Cooling
AURA Sync RGB Color Showcase
VGA Card Compare
MSI GTX 1080 Ti GAMING X 11 GB
AMD RADEON RX 5700 XT 8GB
ASUS TUF GAMING RX 5700 OC 8GB
VGA Temperature & Power Consumption.
มาดูอัตราการใช้พลังงานและเรื่องความร้อนกันต่อครับ ซึ่งต้องบอกได้เลยว่าการ์ด TUF GAMING RTX 3070 OC 8GB ตัวนี้ใช้พลังงานได้ต่ำดีมากเลยล่ะครับ Idle 94.5 Watt และช่วง VGA Full Load อยู่ที่เพียง 374 Watt เท่านั้นเอง ส่วนเรื่องของอุณหภูมิในการทำงานอยู่ที่ Idle 31c และช่วง VGA Full Load อยู่ที่เพียง 61c เท่านั้นเอง ถือว่าเย็นมากๆ เลยนะครับ กับพัดลมรอบ Auto วิ่งอยู่ประมาณ 1600rpm. เงียบมากๆ แทบไม่ได้ยินเลยก็ว่าได้
Power Consumption.
VGA : Idle
VGA : Full Load
จากการเปรียบเทียบการใช้พลังงานนั้นต้องบอกเลยว่า น่าสนใจมากจริงๆ สำหรับ RTX 30-Series รุ่นนี้ ซึ่งเราจะเห็นได้ชัดเจว่า ใช้พลังงานต่ำกว่า GTX 1080 Ti เสียอีก… โดยใช้น้อยกว่าราวๆ 41watt ครับ
VGA Temperature Test
VGA : Idle
มาดูกันต่อในเรื่องของความร้อนผมต้องบอกไว้เลยเลยว่า เรื่องความร้อน แทบไม่ต้องกังวลอะไรเลยนะครับ ปล่อยให้มันทำงานแบบ Fan Auto ไปเลย ไม่ดังและไม่ร้อนด้วย แต่ถ้าอยากเย็นชุ่มฉ่ำตลอดเวลาและไม่ดังจนเกินไป ผมแนะนำใช้ GPU Tweaker II ปรับรอบพัดลมทั้ง 2 ชุดไว้ที่ 50% ก็เย็นลงอีกหลายองศาเซียลเซียส และเสียงไม่ดังเกินไปด้วย
VGA : Full Load
เมื่อเทียบความร้อนกับการ์ดรุ่นอื่นๆ แล้วผมมองว่า มันเป็นอะไรที่เย็นมากจริงๆ เลยสำหรับ TUF Gaming ในยุคนี้…
Benchmark
ด้านล่างนี้จะเป็นผลการทดสอบ Benchmark ต่างๆ โดยจะประกอบไปด้วย PassMark GPU Score และในส่วนของ 3DMARK Version ต่างๆ ครับ ลองพิจารณาดูกันได้เลย
Passmark GPU
3DMARK DirectX Raytracing Feature test
3DMARK ส่วนนี้ต้อง Update OS Windows 10 เป็นตัวล่าสุด 20H2 ด้วยนะครับ ภาพสวย และโหดมากๆ x_x….
3DMARK Port Royal
3DMARK Time Spy
Compare
3DMARK Time Spy
3DMARK Fire Strike
3DMARK Night Raid
3DMARK Wild Life
Gaming Performance
และต่อด้วยผลการทดสอบเกมต่างๆ ของเราทั้งหมด 7 เกมทดสอบด้วยกันด้านล่างนี้เลยนะครับ ส่วนสรุปผลนั้นขอคุยกันช่วงท้ายรีวิวทีเดียวเลย ลองพิจาณาจากผลการทดสอบของเราชุดนี้ก่อนเลยครับ บอกได้เลยว่า แรงจริงๆ… กับเจ้า TUF GAMING RTX 3070 OC 8GB ที่ใช้พลังงานน้อยลง แต่แรงขึ้นเยอะเลย แถมยังไม่ร้อนอีกด้วย หุหุ…
CSGO : Workshop Benchmark
Battlefield V
DEUS EX Benchmark
Far Cry 5 Benchmark
Horizon Zero Dawn Benchmark
Shadow of The Tomb Raider Benchmark
Ghost Recon Wildlands Benchmark
Overclock Results
และทิ้งท้ายผลการทดสอบแบบ Overclock ตัวการ์ด TUF GAMING RTX 3070 OC 8GB ตัวนี้กูก็พบว่า สามารถ Overclock ได้แบบเต็มที่ด้วยการระบายความร้อนด้วยอากาศ Heatsink เดิม + ปรับรอบพัดลม 100% ทั้ง 2 ชุด ก็พบว่าสามารถทำการ Benchmark ผ่านได้แบบไม่มีปัญหาใดๆ ที่ความเร้วสูงสุดของ GPU Boost/Mem @ 2160/2100Mhz ส่วนจะแรงขึ้นแค่ไหนนั้น ลองพิจารณาดูจากผลการทดสอบด้านล่างนี้ได้….
OC Config By ASUS GPU Tweaker II
- GPU Boost : 2160Mhz (Internal clock) | default @1995Mhz
- Mem : 2100Mhz (GDDR6-8400) | default @1750Mhz (GDDR6-7000)
- Power Target 112%
- Temp Target 90c
- GPU Voltage +100%
- Fan Speed 100%
3DMARK Compare Chart
3DMARK Overclock Result
3DMARK Port Royal
3DMARK Time Spy
3DMARK Fire Strike
3DMARK Night Raid
3DMARK Wild Life
เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับประสิทธิภาพของกราฟิกการ์ด ASUS TUF GAMING Geforce RTX 3070 OC Edition 8GB GDDR6 ตัวนี้ที่มีจุดเด่นในเรื่องของการออกแบบของรูปลักษณ์ของหน้าตา และประสิทธิภาพการระบายความร้อนของตัวการ์ดที่ทำออกมาได้ค่อนข้างดีมากเลยทีเดียว คือความร้อนจากการทำงานของตัวการ์ด ร้อนน้อยกว่าที่ผมคิดไว้เยอะเลยกับ NVIDIA RTX 30-Series ส่วนเรื่องของประสิทธิภาพการทำงานด้าน 3D นั้นก็ต้องบอกเลยว่า RTX 3070 นั้นค่อนข้างแรงมากเลยทีเดียว ถึงจะเป็นระบบ บน-ล่าง เล็กที่สุด ณ เวลานี้ แต่ก็แรงกว่า RTX 2080 Ti อย่างแน่นอน ซึ่งผลการทดสอบในความละเอียดหน้าจอ 1920x1080p กับเกมต่างๆ ในครั้งนี้ก็จัดว่าแรงใช้ได้เลยล่ะ โดยแรงกว่า GTX 1080 Ti ที่เรานำมาเทียบในครั้งนี้ได้อยู่ราวๆ 7-30fps+ในบางเกมเลยล่ะครับ ดังนั้นใครที่จะนำมาต่อเล่นเกมจอ Monitor Gaming 1080p ความถี่ระดับ 120-144Hz นั้นผมมองว่ากำลังดีเลยล่ะครับ ถ้าต้องการปรับภาพสวยๆ ด้วย
ส่วนถ้าปรับภาพแบบ Low Graphics Quality นั้นผมมีลองกับเกม Call of Duty Modren Warfare ในโหมดของ Multi-Player ไว้ด้วยนะครับ แต่ไม่ได้นำมา Compare เป็นกราฟให้ชม เพราะตัวเกมมีเฟรมเรทที่ค่อนข้างแกว่ง เลยไม่ขอนำมา Benchmark และเชื่อไหมครับกับเฟรมเรทที่ได้ที่ความละเอียดหน้าจอ 1080p + Low Graphics นั้นเล่นเกมในโหมดของ Multi-Player ได้ถึงระดับ 200-280fps เฉลี่ยได้เลยนะครับ คือยังไงก็ไม่ต่ำกว่า 200fps เลยล่ะ… ดังนั้นใครมีจอ 1920x1080p 144-165Hz หรือระดับ 240-280Hz ผมมองว่า TUF GAMING RTX 3070 OC 8GB ตัวนี้น่าจะพอดีกับช่วง Refresh Rate ของจอพอดีเลย… และถ้าปรับแต่ง OC แรมและ CPU ให้แรงขึ้นอีกนิด ก็มีเห็น 220-300fps+ ได้ในหลายๆ ฉากเลยล่ะครับ จัดว่าแรงมากจริงๆ ^O^
เรื่องของการใช้พลังงานนั้น ถ้าใช้งานเล่นเกมทั่วไปก็อยู่ในช่วง 300-370Watt ทั้งระบบ และถ้า OC VGA ไปด้วยก็มีเห็น 420Watt+ ครับ แต่ก็ไม่ถึง 500Watt แน่นอน ดังนั้นผมมองว่าประสิทธิภาพต่อการใช้พลังงานของ RTX 3070 นั้นทำออกมาได้ดีมากๆ กินไฟไม่เยอะ แต่ได้ประสิทธิภาพดีกว่าการ์ดรุ่นเก่าอยู่พอสมควร….
และในส่วนของ Video Decoding นั้นก็มีจุดเด่นที่ออกมารองรับ AV1 8Bit และ 10Bit ได้แล้วนะเออ….. คราวนี้ดู Youtube 8K ก็จัดมาครับ สบายๆ ไม่ต้องรบกวน CPU ทำงานหนักอีกต่อไป และยังมีช่องเสียบ HSMI 2.1 ที่รองรับการปล่อยภาพแบบ 8K 60Hz + HDR ด้วยสาย HDMI เพียงเส้นเดียว จัดว่าเป็นอีกหนึ่งทีเด็ดของการ์ด NVIDIA RTX 30-Series เลยล่ะครับ
ส่วนข้อติชม ผมมองว่าตัวการ์ดค่อนข้างหนาไปด้วยล่ะครับ คือหนาราวๆ 2.7 Slot PCI ดังนั้นหากใครนำไปติดตั้งใน Case Mini ITX ก็อาจจะต้องดู Spec ของตัว Case ด้วยว่าใส่ได้หรือไม่ ส่วนถ้าเป้น Case ขนาดปกติก็ไม่น่ากังวลอะไร ส่วนอีกเรื่องคือไฟ RGB อาจจะมีจุดโชว์แสงน้อยไปหน่อย แต่ก็ยังดีที่สั่ง AURA Sync ได้ครับ ^^”
สำหรับผู้ที่สนใจ TUF GAMING RTX 3070 OC Edition 8GB GDDR6 ตัวนี้อยู่ก็ลองพิจารณาดูกันได้ครับ โดยราคาขายก็น่าจะอยู่ราวๆ 2x,xxx.- ต้นๆ เท่านั้น
Special Thanks
Power By Clock’Em UP Team
- Facebook : https://www.facebook.com/clockemup/
- Youtube : Clock’EM UP Channel