2018 ASUS Technical Seminar

     เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2018 ที่ผ่านมาทาง Clock’EM UP ได้เกียรติรับเชิญจากทาง ASUS ประเทศไทยให้เข้าร่วมงาน 2018 ASUS Technical Seminar เพื่อรับข้อมูลข่าวสารใหม่ของเมนบอร์ดรุ่นใหม่ล่าสุดที่ใช้ชิปเซ็ต Intel Z390 Chipset ซึ่งครั้งนี้ทาง ASUS ก็ได้ขนกองทัพเมนบอร์ด Z390 มาโชว์กันเพียบเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นในตระกูล ROG (Republic Of Gamer), TUF Gaming, Prime และ WS (Workstation)

     และที่เด็ดกว่านั้นเลยก็คือทาง ASUS ได้เริ่มทำชุดน้ำ AIO เป็นของตัวเองแล้วในรุ่น ROG RYUJIN 240, 360 และ RYUO 120, 240 ซึ่งแต่ละรุ่นที่ทำออกมานั้นช่างน่าโดนจริงๆ สำหรับสาวก ROG  และยังไม่หมดแค่นั้นครับ… ครั้งนี้ทาง ASUS ก็ยังเปิดตัว Power Supple Unit หรือ PSU ในตระกูล ROG ในรุ่น THOR 1200 Watt ที่มาพร้อมกับความพิเศษ สามารถโชว์ Watt ได้แบบ Realtime ด้านข้าง PSU และรองรับการต่อใช้งานแบบ AURA Sync ได้อีกด้วย สรุปแล้วงานในครั้งนี้มีของเล่นให้สาวก ROG ได้เสียตังค์กันเพียบเลยทีเดียว ฮ่าๆ…

 

    เอาล่ะครับก่อนที่เราจะไปชมเมนบอร์ด Z390 รุ่นต่างๆ จากทาง ASUS นั้นเราไปชมของเล่นใหม่ๆ ที่ทาง ASUS ทำออกมาเพื่อสาวก ROG โดยเฉพาะเลยล่ะครับ จะมีอะไรบ้างนั้นไปชมกันเลยครับ ^^”

 

System ชุดนี้ใช้เมนบอร์ด ROG MAXIMUS XI FORMULA และต่อชุดระบายความร้อนด้วยน้ำแบบ AIO รุ่นใหม่ล่าสุดจากทาง ASUS ที่มีชื่อรุ่นว่า ROG RYUJIN 360

  • 1.77” color OLED for real-time system stats and personalized logos or animations
  • ROG-designed radiator fans for optimized airflow and static pressure
  • LiveDash one-stop control center for lighting and OLED display
  • Individually addressable RGB and NCVM coating pump cover accentuates the sleek, modern aesthetics
  • Styled to complement ROG motherboards, at the center stage of your build
  • Reinforced, sleeved tubing for increased durability

 

     PSU รุ่นใหม่สุดเท่ห์จาก ROG ในรุ่น THOR 1200Watt 80 Plus Platinum รองรับ AURA Sync, สามารถดู Watt การใช้งาน OLED Panel ด้านข้าง PSU แบบ real-time display ได้อีกด้วย ส่วนตัวพัดลมนั้นจะทำงานเมื่ออุณหภูมิสูงกว่า 50c องศาเซลเซียสขึ้นไป ถ้าต่ำกว่านี้จะทำงานแบบ Silent 0dBA และที่สำคัญมีการรับประกันยาวนานกว่า 10 ปีกันเลยทีเดียว หุหุ… (OEM Seasonic)

 

จัดเต็มเรื่องของระบบแสงสี ASUS AURA Sync กันทั้งระบบกันเลยทีเดียว ยุคนี้อะไรๆ ก็ RGB !!!

 

มาเมนบอร์ดรุ่นใหม่ๆ จากทาง ASUS กันเลยครับเริ่มจากทางตระกูล ROG “Republic Of Gamer” กันก่อนเลยครับ หลักๆ แล้วดูเหมือนว่าเมนบอร์ดที่มีแรม 4xDIMM นั้นทาง ROG จะปรับให้สามารถทำงานร่วมกับแรมความเร็ว DDR4-4266Mhz ถึง DDR4-4400Mhz ได้ทั้ง 4xDIMM นั้นง่ายขึ้นดด้วยเทคโนโลยี OPTIMEM II

 

ROG MAXIMUS XI FORMULA

 

ROG MAXIMUS XI CODE

 

ROG MAXIMUS XI HERO

    และทั้งหมดนี้ก็เป็น ROG MAXIMUS XI ทั้ง 3 รุ่นที่พร้อมโชว์ในไทยอย่างเป็นทางการได้แก่ตัว FORMULA, CODE และ HERO ส่วนรุ่นอื่นๆ อย่าง MAXIMUS XI EXTREME, MAXIMUS XI APEX และ MAXIMUS XI GENE นั้นยังไม่นำออกมาโชว์ ณ ตอนนี้ครับ ต้องมีทีเด็ดอะไรอย่างแน่นอน โดยเฉพาะในรุ่น APEX ที่ยังไม่มีใครได้เห็นโฉมมันเลย ว่าหน้าตาจะออกมาเป็นอย่างไร แต่ว่ามีชัว ดังนั้นผู้ที่ชื่นชอบการ Overclock อดใจรอกันสักนิดนะครับ เผื่อจะได้เห็นเมนบอร์ดที่ Overclock แรมได้ในระดับ DDR4-4800Mhz ถึง DDR4-5000Mhz+ ได้แบบนิ่มๆ ก็อาจจะเป็นไปได้ครับ ^^”

 

ROG STRIX Z390-E GAMING

ต่อกันเลยในตระกูล STRIX Series นั้นก็ได้เปลี่ยนโฉมใหม่เช่นกัน ทั้งการออกแบบตัว Heatsink ระบายความร้อน และจุดแสดงแถบ RGB Color นั้นทำออกมาได้โดเด่นมากกว่าเดิมที่บริเวณ Cover Back I/O

 

 

ROG STRIX Z390-F GAMING

 

ROG STRIX Z390-H GAMING

 

ROG STRIX Z390-I GAMING

     ส่วนรุ่นนี้คือทีเด็ดของตระกูล STRIX Series เลยก็ว่าได้ เหมือนกับว่าทาง ASUS ออกแบบมาให้เหมือนตัว Impact เลยก็ว่าได้กับเจ้า ROG STRIX Z390-I GAMING เมนบอร์ดขนาด Mini-ITX ที่ทาง ASUS ออกตัวแรงว่าสามารถรองรับ DDR4 แบบ Overclocking Module ที่ความเร็วระดับ DDR4-4600Mhz (OC)+ ได้เลยทีเดียว และเราก็ได้ลองรีวิว Live สดให้ชมกันไปแล้วเมื่อวันก่อนว่าสามารถ Overclock แรมได้ถึงระดับ DDR4-4700Mhz+ ได้แบบนิ่มๆ เลยล่ะครับ จัดว่าไม่ธรรมดาจริงๆ

 

ด้านหลังของ STRIX รุ่นใหม่นี้จะมาพร้อมกับ Pre-Mounted Back I/O ทุกตัวเลยครับ

 

TUF Z390-PRO GAMING

ส่วนในรุ่น TUF นั้นทาง ASUS ได้นำมาจัดแสดงทั้งหมด 2 รุ่นด้วยกันคือ TUF Z390-PRO GAMING และ TUF Z390M-PRO GAMING

 

TUF Z390M-PRO GAMING

 

PRIME Z390-A

ส่วนในตระกูล PRIME นั้นเอามาโชว์เพียงรุ่นเดียว ได้แก่รุ่น PRIME Z390-A ที่มาพร้ออมกับชุด Cover สีขาวสุดอลังการกว่าเดิม พร้อมจุดแสดง RGB Color ที่โดดเด่น

 

PRIME Z390-PRO WS

     และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือรุ่น PRIME Z390-PRO WS ที่ออกแบบไว้สำหรับคนทำงานด้าน WorkStation โดยเฉพาะ จุดเด่นคือการใช้งานของ PCIE3.0 x16 ทั้ง 4 ช่องที่สามารถต่อใช้งานแบบ 4 Way Multi-GPU ได้ แบบ x8+x8+x8+x8 กันเลยทีเดียว เพราะทาง ASUS ได้ใส่ชิปเสริม PCIE3.0 Lane เข้าไปนั่นเอง ส่วนบริเวร M.2 Socket นั้นก็มี Heatsink ระบายความร้อนขนาดใหญ่ให้ทั้ง 2 ช่อง

 

 

GAMING Zone

ส่วนทางด้านนี้ก็จะจัดการแสดงเครื่อง Live Demo สำหรับ  Gaming ที่ใช้กราฟิกการ์ด NVIDIA Geforce RTX

 

ASUS Geforce RTX 2080Ti Series

สำหรับกราฟิกการ์ดรุ่นหลักๆ นั้นมีอยู่ด้วยกัน 3 รุ่น ได้แก่ ASUS RTX 2080 Ti TURBO, ASUS RTX 2080Ti DUAL และ ROG STRIX RTX 2080Ti

 

ASUS Fast Networking Solution

ส่วนด้านนี้ก็มีการจัดโชว์อุปกรณ์ทางด้าน Network ตัวแรงๆ จากทาง ASUS ให้ชมกันด้วยครับ

 

    และทั้งหมดนี้ก็เป็นในส่วนที่ทาง ASUS ได้นำ Hardware มาจัดแสดงให้พวกเราได้ชมกันในงาน 2018 ASUS Technical Seminar ในครั้งนี้ครับ โดยรวมแล้วก็ประทับใจในการออกแบบของตัวเมนบอร์ดในตระกูล ROG MAXIMUS XI Series ที่ทำออกมาได้ดูดุดันมากกว่าเดิม ด้วยโทนสีทีดูเข้มขึ้น และการออกแบบเรื่องของแสงสีแบบ RGB นั้นก็ทำได้อย่างมีสไตล์มากกว่าเดิม คือไม่ฟุ้งจนเกินไป  ส่วนในรุ่น STRIX SERIESนั้นผมก็มองว่าสวยงามขึ้นมาอีกนิดหนึ่งครับ และชอบตรงที่ใส่ Pre-Mounted Back I/O Panel มาให้ทุกรุ่นเลยเนี่ยล่ะครับ เด็ดมากๆ

 

ASUS Z390 MOTHERBOARD SERIES

และสำหรับช่วงท้ายนี้เราก็มีรายละเอียดใหม่ๆ ของเมนบอร์ด Z390 จากทาง ASUS ว่ามีการปรุงแต่งอะไรมาพิเศษบ้าง เริ่มกันที่รุ่นยอดฮิตอย่างตระกูล ROG กันก่อนเลยครับ

 

     ระบบ AI Overclocking นั้นได้ถูกใส่ไว้ใน UEFI BIOS แล้วเป็นที่เรียบร้อย ด้วยความฉลาดของ AI ที่เขียนไว้ให้สามารถตรวจสอบคุณภาพของ CPU ว่าสามารถ Overclock ได้ดีระดับไหนด้วยการเช็คคุณภาพของ Silicone บนตัว CPU จากนั้นมันจะตรวจสอบระบบ Cooler ว่าเย็นในระดับไหน แล้วจึงจะทำการ Overclock หาค่าความเหมาะสมทั้งในส่วนของ Voltage และชุดระบายความร้อนของ CPU  Cooler ครับ

 

     เรื่องของการ Overclock แรมเพื่อให้รองรับแรม DDR4 ที่ความเร็วสูงขึ้นนั้นทาง ASUS ได้ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถต่อใช้งานร่วมกับแรม DDR4 ความเร็วสูงในระดับ DDR4-4266Mhz ได้ทั้ง 4 ช่อง ผ่านทาง XMP Profile หรือแม้แต่การ Overclock แบบ Manual ให้ไกลมากที่สุด และทีเด็ดในครั้งนี้เลยก็คือระบบ XMP Profile ที่มีให้เลือก 2 แบบคือ XMP I และ XMP II ซึ่งจะปรับแต่งได้ 2รูปแบบคือเน้นประสิทธิภาพ และแบบเน้นบูทขึ้นมาง่ายๆ แต่ CL ต่างๆ จะหลวมมาก….

 

OPIMEM II

Reimage from the ground up

เทคโนโลยีนี้เองที่เป็นหัวใจสำคัญต่อการ Overclock แรม DDR4 ของทาง ASUS ที่สามารถรองรับแรมความเร็วสูงๆ ได้ในระดับ DDR4-4266Mhz+ ในเมนบอร์ด Z390 แทบทุกรุ่น เพราะระบบ Optimem II นั้นได้จัดการเกี่ยวกับ Ground Trace ใหม่ที่ช่วยนำสัญญาณของแรมได้ดีขึ้น

 

     ด้วยการออกแบบร่วมกับเทคโนโลยี T-Topology แล้วจะช่วยให้ ASUS Optimem II นั้น Overclock แรม DDR4 ได้ดีขึ้นได้ถึงระดับ 4400Mhz ทั้ง 4 ช่องได้เลย เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีก่อนหน้านี้อย่าง ASUS Optimem ตัวแรก ช่วยให้ OC แรมได้ในระดับ 4133Mhz ทั้ง 4 ช่อง ส่วนการออกแบบที่ไม่มี Optimem นั้นอาจจะทำงานได้แค่ DDR4-3866Mhz เท่านั้นเอง

 

MEMOK! II

      ระบบนี้เองจะเข้ามาช่วยเราในเรื่องของการ retraining ของแรม DDR4 เมื่อมีการ Oveclock หรือปรับ CL แน่นๆ แล้วทำให้บูทยาก ต้องคอยเปิดปิดคอมบ่อยๆ คู่กับ Retry Switch แต่ครั้งนี้ระบบ MemOK! II นั้นจะมาแบบเป็น Switch ให้เลือกเลยว่าจะเปิดใช้งานหรือไม่ และมีไฟ LED แสดงขึ้นมาด้วยว่า กำลังแก้เรื่อง retraining อยู่…. ข้อดีคือ ถ้ามันยังพอบูทระบบได้ มันอาจจะแค่ลดอัตราทดแรมลงระดับหนึ่ง และลดไฟเลี้ยงแรม DRAM, VCCIO และ VCCSA ไปในระดับที่เหมาะสม แล้วทำการบูทระแบบขึ้นมาให้เรา จะไม่เหมือนกับการกดปุ่ม MemOK ในยุคก่อนคือจะแกลดความเร็วแรมลงที่ 2133Mhz อย่างเดียวเพื่อที่จะให้ระบบกลับมาบูทได้  แต่สำหรับ MemOK !! นั้นมันจะเขียนให้เมนบอร์ดพยายาม retraining แรมจนกว่าจะบูทได้

 

สำหรับเมนบอร์ด ROG MAXIMUS XI Series ทุกรุ่น ดูเหมือนว่าจะให้ความสำคัญกับช่องเสียบ RGb Header มากขึ้น โดยแต่ละรุ่นจะให้ช่องเสียบสาย RGB Strip มาให้ทั้งแบบ 3-Pin ADD_Header จำนวน 2 ช่อง และแบบ 4-Pin RGB Header อีก 2 ช่อง รวมแล้วมีทั้งหมด 4 ช่องด้วยกันครับ

 

ในรุ่น ROG MAXIMUS XI EXTREME นั้นออกแบบมาให้สามารถติดตั้ง M.2 Socket 32Gb/s ได้ทั้งหมดถึง 4 ช่องด้วยกัน โดยผ่านตัว DIMM.2 จำนวน 2 ช่อง และบนเมนบอร์ดอีก 2 ช่อง

 

และนอกจากนนี้ ROG DIMM.2 รุ่นใหม่ ยังมาพร้อมกับ Heatsink ระบายความร้อนให้ M..2 ทั้ง 2 ด้านอีกด้วยครับ จัดว่าไม่ธรรมดาจริงๆ

 

TUF-GAMING

ในส่วนของ TUF-GAMING นั้นครั้งนี้ออกแบบมาทั้งหมด 3 รุ่นครับ ได้แก่ TUF Z390-PRO GAMING, TUF Z390 PLUS GAMING (WIFI) และ TUF Z390M-PRO GAMING

 

ครั้งนี้ TUF ได้ปรับปรุงเรื่องของระบบระบายความร้อนของภาคจ่ายไฟใหม่ดีกว่าเดิม โดยติดตั้ง Thermalpad ให้ทั้งในส่วนของ Mosfet และบริเวณ Choke เพื่อที่จะได้ดึงความร้อนไประบายความร้อนยัง Heatsink ระบายความร้อนต่อไป….

 

แม้แต่ขั่วเสียบของชุดไฟเลี้ยง +12V 8-Pin ยังให้ความสำคัญอย่างมาก ด้วยการเลือกใช้ Pin แบบหนา ไม่กลวง ช่วยให้รับ Load ได้มากกว่าเดิมในระดับ Min/Max @ 432/480Watt กันเลยทีเดียว เมื่อเทียบกับขั่วแบบธรรมดาทั่วไปที่รับได้เพียง 384Watt max เท่านั้น

 

โอ้ว์แม่จ้าว…. TUF ยังรองรับแรม DDR4 ความเร็ว 4266Mhz ได้ทั้ง 4 แถวเชียวนะ ด้วยเทคโนโลยี ASUS Optimem II ส่วนจะใช้งานได้จริงรึป่าว ก็อีกเรื่องครับ ฮ่าๆ ไว้ได้ลองแล้ว จะมาแจ้งให้ทราบ ^^”

 

นี่เลยครับเทคโนโลยีที่ช่วยให้ดันแรมบัสสูงๆ 4266Mhz ได้ทั้่ง 4 แถวด้วยเทคโนโลยี Optimem II ที่มีชั้น Ground Ring แยกเป็นชั้นๆ และทำงานร่วมกับเทคโนโลยี T-Topology ช่วยให้การรับส่งข้อมูลของแรมได้ดีขึ้นเมื่อทำงานที่ความถี่สูงๆ  หรือพูดได้อีกอย่างว่าช่วยให้ Overclock แรมได้ไกลขึ้นพร้อมกันทั้ง 4 แถวนั่นเอง

 

PRIME Series

สำหรับในรุ่น PRIME Series นั้นรู้สึกว่าจะมีมาโชว์เพียงรุ่นเดียว คือ PRIME Z390-A และดูเหมือนตัว Prime จะหดหายไปเรื่อยๆ นะผมว่า แต่ก็ยังทำออกมาได้สวยงามมากกว่าเดิม ไปชมกันเลยครับ

 

     ครั้งนี้เมนบอร์ดในรุ่น PRIME Z390-A นั้นจะมาพร้อมกับ Dr.MOS Power stage ที่เป็นแบบ Single Package เม็ดเดียวรวมเอาทั้งตัว High-side และ Low-Side Mosfet รวมทั้งตัว Dirver เข้าไปไว้ในชิปเม็ดเดียวกัน ช่วยให้อุณหภูมิในการทำงานนั้นลดลง และจ่ายกระแสไฟได้มากขึ้น สรุปแล้วยุคนี้เมนบอร์ดรุ่นใหม่ๆ เริ่มขยับมาใช้ Mosfet แบบ Single Package กันหมดแล้ว…. เพราะจะได้รับมือเจ้า CPU Intel Gen9 ในรุ่น Core i9-9900K 8C/16T ได้อยู่หมัดนั่นเอง….

 

เทคโนโลยี ASUS Optimem II นั้นได้ถูกนำไปใช้กับเมนบอร์ดในรุ่นนี้ด้วยจึงทำให้ PRIME Z390-PRO นั้นสามารถรองรับแรม DDR4-4266Mhz ได้ถึง 4 ช่องกันเลยทีเดียว

 

ช่วยลด Crosstalk ได้มากถึง 69% กันเลยนะ เมื่อเทียบกับ Optimem ตัวแรก จัดว่าไม่ธรรมดามากๆ ครับ

 

และสำหรับเมนบอร์ดรุ่นนี้ก็ยังมีช่องเสียบแบบ 4-Pin RGB Header มาให้ถึง 2 ช่องกันเลยทีเดียว

 

ระบบเสียงนั้นเป็น Crystal Sound3 ที่เลือกใช้ Realtek S1220A 120db NSR โดยครั้งนี้ระบบเสียงทาง ASUS จะเน้นไปที่รองรับ DTS Headphone ได้แล้วครับ

 

     มาต่อกันที่การออกแบบพัดลมรุ่นใหม่ของกราฟิกการ์ดในรุ่น ROG STRIX ในครั้งนี้จะมีการปรับปรุงครั้งใหญ่อีกเช่นกันครับ ด้วยการออกแบบพัดลมแบบ Axtial-Tech Fan ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม และแข็งแรงมากขึ้น ด้วยก้านบนพัดที่เชื่อมต่อกันทั้งหมด ช่วยในการเพิ่มแรงอัดอากาศที่มากกว่าเดิม ช่วยให้ลมทิศทางเป็นแนวตรง ไม่กระจายตัวออกเหมือนพัดลมในรุ่นก่อน และยังเป็นพัดลมที่ผ่านมาตราฐาน IP5X กันฝุ่นได้อีกด้วย

 

0dB Technology เมื่ออุณหภูมิของตัว GPU ต่ำกว่า 55c องศาเซลเซียส พัดลมจะหยุดหมุนอัตโนมัติ เพื่อลดเสียงรบกวนในการทำงาน

 

การ์ดรุ่นนี้ยังคงรองรับระบบ AURA Sync อยู่เหมือนเดิมครับ แต่เพิ่มเติมมาคือปุ่มกด Strealth Mode ที่เป็น Switch กดด้านหลังเมนบอร์ด เพื่อกดปิดไฟ LED ทั้งหมดบนตัวการ์ด โดยไม่ต้องปรับผ่าน Software อีกต่อไป

 

Max Contact Technology นั้นได้ปรับปรุงให้บริเวณฐาน Base นั้นมีความเรียบมากกว่าเดิมถึง 2 เท่าเพื่อให้การนำความร้อนออกจากตัว GPU ได้ดีที่สุด

 

ส่วนการรับประกันนั้นทาง ASUS ก็เริ่มมาใช้ระบบ 3+1 เท่ากับ 4 ปีแล้วนะครับสำหรับกราฟิกการ์ดทั้ง 4 รุ่นบน RTX Series เยี่ยมไปเลย….

 

Conclusion.

เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับการกลับมาของเมนบอร์ด ROG โฉมใหม่ที่มาพร้อมกับชิปเซท Intel Z390 โดดเด่นด้วยเมนบอร์ดในตระกูล ROG MAXIMUS XI Series ที่ชูงโรงด้วยรุ่น MAXIMUS XI FOMULA ที่จัดเต็มเรื่องของชุด Cover + ชุดระบายร้อนด้วยน้ำที่ Mosfet ภาคจ่ายไฟของ CPU อยู่เช่นเดิม ส่วนในรุ่น MAXIMUS XI CODE นั้นก็จะเป็นรุ่นที่รองลงมาจากตัว FORMULA ซึ่งหน้าตาจะคล้ายๆ กัน  ส่วนเมนบอร์ดรุ่นที่ยังไม่ยอมเอามาให้พวกเราได้ชมตัวเป็นๆ ได้แก่ MAXIMUS XI EXTREME และเจ้าตัวเล็ก MAXIMUS XI GENE ตัวแรงที่โชว์ลากแรม DDR4-4800Mhz แบบ XMP จากโรงงานของแรมที่รองรับได้เลย ผมนี้รอชมตัวจริงเลยครับ ถึงแม้ครั้งนี้จะยังไม่นำมาจัดแสดง รวมถึงตัว Sample ก็ยังไม่มีกำหนดเข้า

     ส่วนอีกหนึ่งรุ่นที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ ROG MAXIMUS XI APEX เมนบอร์ดที่เกิดมาเพื่อ Overclock โดยเฉพาะ ซึ่งยังไม่ยอมเผยโฉมและข้อมูลใดๆ เลยแม้แต่น้อยว่า รูปร่างหน้าตานั้นเป็นอย่างไร ? และมีประสิทธิภาพในการ Overclock ที่ดีกว่าเดิมไหม ? ก็ยังไม่มีใครตอบได้ ณ เวลานี้ครับ… หรือมันอาจจะยังทำไม่เสร็จ ? หรือกำลังรอทุบสถิติโลกร่วมกับ CPU Gen.9 รุ่นใหม่อยู่ ? ก็คงต้องรอช่วงปลายๆ เดือน ตุลาคม 2018 นี้คงมีข่าวหลุดออกมาบ้างล่ะครับว่า สรุปแล้ว APEX จะกลับมาแรงเหมือนเดิมหรือไม่ ?

     และสำหรับผมเองนั้นก็ได้ลองเล่นในรุ่น ROG STRIX Z390-I GAMING เมนบอร์ดขนาดเล็ก mini-ITX ที่มีประสิทธิภาพในการ Overclock แรม DDR4 ได้ดีมากๆ ในระดับ DDR4-4700Mhz+ นั้นทำได้จริงอย่างที่ทาง ASUS กล่าวไว้จริงๆ งานนี้ต้องยกนิ้วให้ทีมงาน R&D ของทาง ASUS ที่พัฒนาระบบ Optimem II มาให้เราสามารถ Overclock แรมได้ไกลขึ้นและเสถียรภาพขึ้น และหากใครพลาดชม Live เทปเมื่อวานสามารถกลับไปชมกันได้ที่นี่สำหรับ “เล็กพริกขี้หนู ROG STRIX Z390-I GAMING + DDR4-4700Mhz CL18” ย้อนหลังได้ครับ

     และส่วนของเมนนบอร์ดใน Series อื่นๆ ที่นำมาจัดแสดงนั้นก็ได้แก่ TUF-Gaming, PRIME Series และ PRIME WS สำหรับงาน WorkStation ซึ่งก็จะโดดเด่นในเรื่องของการนำเอาระบบ Optimem II มาใช้กับเมนบอร์ดของตัวเอง ให้สามารภทงานแบบ 4 แถว Dual Channel ที่รับความเร็วแรมสูงๆ ได้ในระดับ DDR4-4266Mhz กันเลยทีเดียว และเรื่องของแสงสี RGB นั้น ถ้าในตระกูล ROG MAXIMUS XI Series นั้นก็จะให้หัวเสียบแบบ 4-Pin RGB Header มาให้ 2 ช่อง และแบบ 3-Pin ADD_Header อีก 2 ช่อง แบบจัดเต็มชุดใหญ่ไฟกระพริบกันเลยทีเดียวครับ ฮ่าๆ

     ของเล่นใหม่ที่น่าสนใจได้แก่ชุดน้ำแบบสำเร็จรูป AIO ในรุ่น ROG RYUJIN 360 และ RYUO 240 ที่ทาง ASUS ได้นำมาจัดแสดงโชว์ในครั้งนี้ ซึ่งมีความสวยงามเป็นอย่างมาก และในรุ่น ROG RYUJIN นั้นทาง ASUS เลือกใช้พัดลมคุณภาพสูงจากทางค่าย Noctua ในรุ่น IPPC Fan 2000rpm. สีดำมาให้เลยนะเออ…. ส่วนตัว Block นั้นด้านในมีตัวพัดลมช่วยกระจาย Air-Flow บริเวณรอบๆ ปั้มให้มีลมกระจายไปรอบๆ ภาคจ่ายไฟ VRM ของ CPU ให้เย็นได้อีกด้วยครับ ดังนั้นผมแนะนำเลยว่าตัวชุดน้ำ ROG RYUJIN 240 และ 360 นั้นน่าโดนมากๆ สำหรับสาวก ROG โดยราคาคร่าวๆ ของรุ่น 360 จะอยู่ที่ประมาณ 9,900.- บาทครับ พร้อมขายช่วงงาน Commart ต้นเดือน พฤศจิกายน 2018 นี้ครับ

     และที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งเลยก็คือ Power Supply Unit ของทาง ASUS ในรุ่น ROG THOR 1200Watt 80Plus Platinum ที่รับประกันยาวนานถึง 10 ปีเต็มกันเลยทีเดียว จุดเด่นคือระบบ AURA Sync ร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ และสามารถแสดงค่า Watt แบบ Real-Time ได้ด้านข้าง PSU พร้อมทั้งการออกแบบ Heatsink ระบายความร้อนคุณภาพสูงในกัย Mosfet จ่ายไฟที่อยู่ด้านใน PSU และเลือกใช้พัดลมแบบ WING-BLADE FAN ขนาด 135mm. และสามารถกันฝุ่นได้แบบ IP5X dust-resistance อีกด้วยครับ ส่วนการทำงานของพัดลมนั้น เมื่ออุณหภูมิของ PSU ต่ำกว่า 50c พัดลมสามารถหยุดหมุนแบบ 0dBA ได้อีกด้วยครับ หุหุ….

     สุดท้ายนี้ที่ผมจะพูดถึงเลยก็คือกราฟิกการ์ดรุ่นใหม่จากทาง ASUS ที่ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง GPU รุ่นใหม่ล่าสุดจากค่าย NVIDIA RTX 2080 Ti ที่นำมาโชว์อยู่ทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกันได้แก่ ASUS RTX 2080Ti TURBO, ASUS RTX 2080Ti DUAL และ ROG STRIX RTX 2080Ti ซึ่งรุ่นนี้จะโดดเด่นในเรื่องของการปรับปรุงพัดลมแบบใหม่ให้มีประสิทธิภาพและทนทานมากกว่าเดิม และออกแบบ Heatsink ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นพี้อมฐานทองแดงที่ Lapping มาให้เรียบกว่าที่เคยทำมากว่า x2 เท่าตัว เพื่อให้ประสิทธิภาพในการนำความร้อนจากตัว GPU นั้นมีประสิทธิภาพดีที่สุด และยังออกแบบให้มีปุ่มกดปิดแสง LED บนตัวการฟิกการ์ดได้โดยตรง ไม่ต้องผ่าน Software ได้อีกด้วยครับ  ส่วนการรับประกันของการ์ด RTX 2080 และ RTX 2080 Ti ของทาง ASUS ตอนนี้ก็เป็นแบบ 3+1 = 4 ปีแล้วนะครับ สุดยอดไปเลยฮ่าๆ…. และสำหรับรายละเอียดของผลการทดสอบรีวิวต่างๆ ของตัวเมนบอร์ดและกราฟิกการ์ดรุ่นใหม่ๆ จากทาง ASUS นั้นก็สามารถติดตามจาก Clock’EM UP ทั้งในส่วนของหน้าเว็บ clockemup.comYoutube Channel และ Live Steam ผ่านทาง Facebook Fanpage ของเราได้เร็วๆ นี้…. สวัสดีครับ ^____^

 

Special Thanks

Power By Clock’Em UP Team