รีวิว HYPERX SAVAGE EXO Portable SSD 480GB USB3.1 Gen2
สวัสดีครับ วันนี้เรามีตัว Portable SSD จากค่าย HyperX ในรุ่น Savage EXO ขนาดความจุ 480GB มาแนะนำกันอีก 1 รุ่น โดยเป็นการพัฒนาให้การใช้ External Drive นั้นมีความเร็วในการส่งถ่ายข้อมูลได้แรงขึ้นไปอีกหนึ่งระดับ เนื่องด้วยปัจจุบันไฟล์ข้อมูลจำพวกมีเดียต่างๆ ในความคมชัดและรายละเอียดที่สูงขึ้น และรวมถึงไฟล์เกม 3D ในยุคใหม่ก็ต่างมีขนาดไฟล์ใหญ่ขึ้นไปในระดับ 40-80GB+ ขึ้นไปแล้ว ดังนั้นหากตัว External Drive หรือตัวเก็บข้อมูลภายนอก มีความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูลที่ไม่เร็วพอ ก็อาจจะทำให้ผู้ใช้เสียเวลาในการ Copy ไฟล์เกม/ISO ต่างๆ นั้นใช้เวลาที่นานมาก ซึ่งไม่มีใครปรารถนาที่จะรอคอยอย่างแน่นอน….
และสำหรับเจ้า HyperX Savage EXO นั้นก็จะเป็น Portable SSD ที่มีความเร็วในการ Seq Read/Write อยู่ที่ 500/480MB/s หรือความเร็วที่แรงพอๆ กับ SSD SATA3.0 ตัวหนึ่งเลยก็ว่าได้ครับ โดยทางHyperX ได้เลือกใช้ชิป NAND เก็บข้อมูลด้านในแบบ 3D-NAND ดังนั้นจึงทำให้สามารถหาซื้อได้ตั้งแต่ขนาดความจุ 480GB และ 960GB กันเลยล่ะครับ ส่วนการเชื่อมต่อนั้นก็จะผ่านทาง Interface USB3.1 Gen2 ความเร็ว 10gbps ซึ่งบอกได้เลยว่าแรงเกิน Spec ตัว NAND ไปเลยล่ะครับ ฮ่าๆ… วิ่งเต็มไม่อั้นแน่นอน โดยเขาจะให้สายต่อแบบ USB3.1 Gen2 Type-C to Type-C และ Type-C to Type-A มาให้ใช้งานอย่างละเส้นครับ…
Feature :
- Lightning-quick transfer speeds
- Simple connectivity for Windows and Mac
- Compatible with XBOX One and PS4 via USB 3.1 Gen 2
- Light, portable, and compact
- External 3D NAND SSD
- Plug N Play
External Drive รุ่นนี้ออกแบบมาให้เบาและพกพาได้อย่างสะดวก เพราะมีขนาดเล็กมาก และมีน้ำหนักเพียง 56g. เท่านั้นเอง แต่มันมาพร้อมกับรวดเร็วในการโอนถ่ายข้อมูลและขนาดความจุถึง 480GB กันเลยทีเดียว และนอกจากการออกแบบที่กระทัดรัดแล้ว มันยังออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้ทั้งเครื่อง PC และ MAC ได้อีกด้วยครับ และยังรวมไปถึงเครื่องเล่นเกม Console ไม่ว่าจะเป็น Xbox One และ Playstation 4 ก็สามารถนำไปต่อใช้งานได้ด้วยเช่นกัน…
Tech Spec.
ภายในกล่องบรรจุภัณฑ์ก็จะมีตัว Portable SSD, สาย Cable สำหรับเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ ที่รองรับแบบ USB3.1 Gen2 Type-C to Type-C จำนวน 1 ชุด และแบบ Type-C to Type-A อีกหนึ่งชุด และก็มี HyperX สติ๊กเกอร์แถมให้อีก 1 ชิ้นครับ
แนบข้อมูลเกี่ยวกับความเร็วในการส่งข้อมูลของสาย USB แต่ละ Gen มาให้ชมกันครับว่าต่างกันอย่างไรบ้าง…
นี่คือหน้าตาของเจ้า HyperX Savage EXO ขนาดความจุ 480GB External Drive แบบ 3D-NAND SSD โดยรุ่นที่เราได้มาทำการทดสอบนั้นเป็นรุ่นขนาดความจุ 480GB มีตัว Body สีเทาเข้มตัดกับขอบสีดำ มาพร้อม HyperX Logo
จุดนี้คือบริเวณเชื่อมต่อช่องเสียบแบบ USB3.1 Gen2 Type-C และไฟ LED แสดงสถาณะการทำงานของตัว SSD ครับ
บริเวณฉลากด้านหลังของตัว SSD ก็จะระบุรุ่น SHSX100/480GB หรือขนาดความจุ 480GB ไว้อย่างชัดเจน
ผมชอบตรงที่ยังให้สายแบบ USB3.1 Gen2 Type-C ล้วนๆ และแบบยังมีแปลงเป็น USB3.1 Gen2 แบบ Type-A มาให้ต่อใช้งานได้อยู่ เพราะว่าเครื่อง PC หรือ Mac ทุกรุ่นจะเป็น Port แบบ Type-C ซะทีเดียว ดังนั้นหากเครื่องใครไม่มีที่เสียบแบบ Type-C ก็ให้ใช้สายแปลงแบบ Type-C to Type-A แทนครับ ซึ่งความเร็วก็เท่ากัน ต่างแค่ Interface การเชื่อมต่อเท่านั้นเอง….
เทียบให้ชมถึงขนาดของตัว HyperX Savage EXO เทียบกับ SSD 2.5″ ในรุ่น HyperX FURY RGB Series และมือถือ Samsung S8+ ซึ่งเราจะเป็นได้ว่าตัว Savage EXO นั้นยังมีขนาดเล็กกว่ามือถือเสียอีก และยังมีนำหนักเบามากเพียง 56g. เท่านั้นเอง จึงเหมาะที่จะพกพาไปไหนได้อย่างสะดวก
ขนาดความยาวของมันก็จะประมาณหนึ่งฝ่ามือของเราพอดีครับ
Installation
ผมได้ทดลองต่อผ่านช่องเสียบ USB Type-C ของมือถือ S8+ ก็พบว่าสามารถเชื่อมต่อกับตัว HyperX Savage EXO 480Gb ตัวนี้ได้เช่นกันครับ เยี่ยมไปเลย…
ตรวจสอบดูขนาดของ SSD Drive เก็บข้อมูลก็พบว่าอยู่ที่ประมาณ 447GB สรุปแล้วคือต่อกับมือถือรุ่นนี้ได้ด้วยครับ ฮ่าๆ…
ตัวอย่างการต่อใช้งานผ่านช่องเสียบ Back I/O ด้านหลังของเมนบอร์ดที่เป็นแบบ USB3.1 Gen2 Type-C ซึ่งเราก็ยังสามารถที่จะเอาไปใส่กับ USB3.1 Gen1 ได้เช่นกัน และข้อดีของสายไฟเสียบแบบ Type-C ก็คือจะพลิกด้านไหนเสียบก็ได้ ทำให้สะดวกขึ้นอย่างมากในตอนเสียบสาย
Hardware Spec.
CPU |
Intel Core i9-9900K 8C/16T Coffeelake 14nm. (Gen.9)
|
CPU Cooler |
Noctua NH-U12A |
Motherboard | ROG MAXIMUS XI APEX (Z390) |
Memory |
T-Force Xcalibur RGB DDR4-3200 CL18-20-20-44 16GB-Kit [8GBx2] |
VGA | ROG STRIX GTX1660 Ti OC 8GB |
Hard Drive | WD_BLACK SN750 NVMe SSD M.2 PCIe3.0 x4 1TB (OS + DATA) |
PSU | CoolerMaster V1200 Platinum |
OS | Windows 10 Pro 64 bit [Last Update] 1809 |
System Config
รายละเอียดของชุด Hardware ที่เราจะใช้ทดสอบในวันนี้ครับ โดยจะเป็น CPU Intel Core i9-9900K 8C/16T ต่อใช้งานร่วมกับเมนบอร์ด ROG MAXIMUS XI APEX ชิปเซ็ต Intel Z390 Express โดยจะต่อตัว HyperX Savage EXO 480GB ผ่านช่องเสียบ USB3.1 Type-C ด้านหลังของเมนบอร์ดแล้วทำการทดสอบ Benchmark วัดความเร็วของตัว SSD รุ่นนี้มาให้ชมกันครับ
ภาพตัวอย่างการต่อใช้งานผ่านช่องเสียบ USB3.1 Gen2 Type-C บริเวณด้านหลัง Back I/O Panel ของเมนบอร์ด ROG MAXIMUS XI APEX ครับ
Benchmark Results
มาชมผลการทดสอบของ HyperX Savage EXO 480GB Portable SSD รุ่นนี้กันเลยดีกว่าครับ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง
AS SSD Benchmark
สำหรับ AS SSD นั้นก็สามารถทดสอบค่า Seq Read/Write ได้ในระดับ 515/356MB/s แต่การอ่านไฟขนาดเล็กอย่าง 4K Read นั้นทำได้ไม่ค่อยดีนักที่ระดับ 24.41MB/s แต่ก็ไม่ได้น่าเกลียดจนเกินไป ซึ่งผมเดาว่า เขาน่าจะทำ Firmware มาต่างจาก SSD ที่ใช้ทำเป็น OS ดังนั้นผลการทดสอบบางอย่างก็น่าจะเทียบกับ SSD 2.5″ ทั่วไปไม่ได้แน่นอน เพราะอย่าลืมว่ามันใช้ทำเป็น External Drive เพื่อโอนถ่ายข้อมูล หรือเก็บข้อมูลเป็นหลัก ไม่ได้เอามาเป็นตัว Boot OS
CrystalDiskMark
สำหรับ CrystalDiskMark นั้นก็แรงใช้ได้เลยครับสำหรับค่าการทดสอบ Seq Read/Write ในระดับ 500MB/s ++
Anvil’s
ส่วน Anvil’s นั้นก็ทดสอบค่า Seq Read/Write ได้ออกมาที่ 508/481MB/s ตาม Spec ที่ให้มาเลยครับ
ATTO
ส่วน ATTO ก็ทดสอบออกมาได้แรงตาม Spec เช่นกัน
Copy File Test
และผลการทดสอบลอง Copy File Game จากห้อง Origin ราวๆ 204GB จากตัวก็พบว่าความเร็วช่วงแรก Cache อยู่ที่ราวๆ 350MB/s และลงมานิ่งที่ราวๆ 130-150MB/s โดยใช้เวลา Copy ลงไปในตัว Savage EXO 480GB ลูกนี้ก็ใช้เวลาไปทั้งหมด 30 นาทีพอดีครับ
with Mac OS
และมีผลทดสอบที่ต่อเข้ากับเครื่อง Mac จากท่าน Zaleng มาให้ชมกันสักเล็กน้อยครับ ซึ่งเราจะเห็ไดนชันว่าต่อใช้งานกับ Mac OS ได้แน่นอน
ลองทดสอบผ่านโปรแกรม Disk Speed Test ก็ได้ผลการทดสอบของค่า Read/Write ออกมาที่ 397.3/321.1MB/s ครับ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับรีวิวเจ้า HyperX Savage EXO ขนาดความจุ 480GB เป็นอุปกรณ์ External 3D NAND SSD ที่มีความเร็วในการอ่านเขียนของ Seq Read/Write อยู่ที่ 500/480/MB/s และเชื่อมต่อผ่าน Interface แบบ USB3.1 Gen2 Type-C ช่วยให้สะดวกในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ device ต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น PC/Mac/Xbox/PS4 และมือถือที่เราได้ทดลองต่อใช้งานก็คือ Samsung S8+ ก็สามารถมองเห็นเจ้า HyperX Savage EXO ได้ด้วยเช่นกันครับ
ส่วนประสิทธิภาพในการทำงานนั้น ถ้าเป็นส่วนของการทดสอบหัวข้อ Seq Read/Write นั้นก็ทำได้ใกล้เคียงตาม Spec ที่ให้มาแทบทุกโปรแกรม Benchmark และใส่วนของการโอนถ่ายข้อมูลจริงๆ นั้นจะช้าเร็ว ก็ขึ้นอยู่กับชนิดและขนาดไฟล์ของข้อมูลที่เราทำการโอนถ่ายข้อมูล อย่างเช่นการทดสอบของเราที่ทดสอบ copy ไฟลืเกมจากห้อง Origin ขนาด 204GB ก็ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีให้ความเร็วในการโอนถ่ายอยู่ที่ 130-150MB/s ก็ไม้ไดถือว่าเร็วอะไรมากนัก แต่ก็คงได้ทำได้เต็มที่แล้วล่ะมั้งครับของ External ตัวนี้
และจุดเด่นอีกอย่างของมันเลยก็คือขนาดและรูปทรงที่เล็กกระทัดรัด นำหนักเพียง 56g จึงทำให้สะดวกต่อการพกพาไปไหนได้สบายเลย สุอท้ายนี้ก็ต้องขอฝากเพื่อนๆ พิจารณาเจ้า HyperX Savage EXO ขนาด 480GB Portable SSD รุ่นนี้ดูกันด้วย สวัสดีครับ ^^”
Special Thank