CPU 6 หัว ไม่ค่อยไหวแล้วหรือ? กับเกม Call of Duty Modern Warfare ในโหมด Multi Player

     สวัสดีครับ วันนี้เรามีข้อมูลที่น่าสนใจให้กับเหล่าเกมเมอร์ได้พินจารณาดูกันอีกสักหนึ่งเรื่อง โดยวันนี้ขอเกี่ยวกับเกม Call of Duty Modern Warfare ก่อนนะครับ ตามหัวข้อเลยก็คือ CPU 6 คอร์รุ่นใหม่ๆ ณ เวลานี้ ขับพลังกราฟิดการ์ดใหม่ๆ ออกมาได้หมดจดไหม ?  ตัวตัวกราฟิกการ์ดในวันนี้คือ TUF RTX 3070 8GB OC Edition นั่นเอง…

     ส่วนประเด็นหลักเลยก็คือในน้อง(SlottieS)ในกลุ่มที่เล่นเกม COD MW ในโหมด Multi-Player และ Warzone มีความสงสัยว่าช่วงหลังๆ เมื่อเกมได้ Update มาเรื่อยๆ ก็เริ่มรู้สึกว่า CPU ของตัวเองที่ใช้อยู่ตอนนี้กับ Core i5-9600K 6C/6T OC@5Ghz/Cache 4.8Ghz+ DDR4-4400 16-18-18-38 นั้นเริ่มเอาไม่อยู่… เล่นกับการ์ด RX 5700 XT  เฟรมแกว่งๆ 120-200fps [1920x1080p] และมีอาการกระตูกบ้างในบางฉาก (เริ่มสะดุดบ่อย) เพราะ CPU เริ่มกิน 90%++ แล้วนั่นเอง  น้องจึงขอให้ผมลองเอา 10900K มาลองปิดหัวเหลือ 6 Core ดูว่าจะเป็นเหมือนกันไหม ???

     ผมเองก็สงสัยเช่นกัน จึงได้ทำการลองทันที… โดยจับ i9-10900K มาทำการปิดหัวปิดเทรด จาก 10C/20T เหลือเพียง 6C/6T (HT Off) แล้วลองกลับไปเล่นเกมดูที่ความละเอียด 1080p + Low Quality ผมปรับ effect ในเกมต่างๆ  Low หมดเลยนะครับเน้น fps. เยอะๆ (จะหนักไปทาง CPU) ซึ่งปกติแล้วผมเล่นแบบ ไม่ปิดหัวเฟรมเรทตอนเล่นจะอยู่ในช่วง 190-250fps++ หรือเห็นเฟรม 200-220 แช่ได้นานๆ ในโหมด Multi-Player แต่หลังจากที่ผมได้ลองปิดหัว CPU เหลือ 6C/6T แล้วพบว่าเฟรมตอนเล่นเกมลดลงมาเหลือแค่ 90-120fps เท่านั้นเอง !!! มันหายไปเยอะมากเลยนะครับ…..

เลยทำการทดสอบแบบเปิดหัวเพิ่มทีละนิดเป็น 8C/8T แล้วเล่นเกมดูเหมือนเดิม พบว่าเฟรมเรทขยับเพิ่มครับ เห็นในช่วง 130-160fps และไม่สามารถแตะถึง 200fps+ ได้เลย

     และสำหรับการเปิดเป็น 6C/12T (HT on) พบว่า CPU 12 Threads นั้นเริ่มเพียงพอสำหรับเกมนี้ครับ กล่าวคือเฟรมเรทเริ่มกลับมาเห็น 200fps+ ได้ใกล้เคียงกับการเล่นแบบ 10C/20T เลย  ดังนั้นสรุปได้เลยว่าเกม Call of Duty Modern Warfare ในโหมด Multi-Player และ Warzone นั้นการเลือกใช้ CPU 6 คอร์กับกราฟิกการ์ดรุ่นกลางบนขึ้นไป อย่าง RTX 3070 8GB ที่เราทดสอบอยู่ในวันนี้ บอกได้ชัดเจนว่า ขวดแน่นอน… ดันเฟรมเรทได้ไม่สุด เนื่องจาก Thread ในการประมวลผลที่ตัวเกมเลือกใช้ไม่พอนั่นเอง โอ้ว์…. นี่ผมก็ไม่ได้สนใจเรื่องขวดๆๆ อะไรพวกนี้มานานแล้วนะ…. ก็ไม่คิดว่า CPU 6 คอร์ กับเกมนี้จะขับพลังการ์ดได้ไม่หมดจริง…. ซึ่งเฟรมเรทหายไปเป็นหลัก 90-100fps+ นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แน่นอน…. สรุปแล้วผมว่า CPU เกิน 10-12 Thread ขึ้นไปสำหรับเกมนี้ถือว่าเริ่มพ้นจุดขวดครับ…. (อ้างอิงที่ 1080p + Low Setting)

 

Hardware Setup

รายละเอียดของ Hardware ที่เราใช้ทดสอบในครั้งนี้ครับ ได้แก่ CPU Intel Core i9-10900K, เมนบอร์ด ROG MAXIMUS XII APEX (Z490) แรมเป็นของ ViperSteel DDR4-4400C19 แต่ผมปรับให้ทำงานเพียง DDR4-3200C14-14-14-34 กราฟิกการ์ดเป็นของ TUF RTX 3070 8GB

 

Spec.
 CPU  Intel Core i9-10900K 10C/20T 14nm. (Comet Lake) ผ่ากระดองแล้ว Kpx
 CPU Cooler  CoolerMaster LiquidMaster ML360 SUB-ZERO AIO Cooler
 Thermal Compound  Kingpin Cooling KPx
 Motherboard
 ASUS ROG MAXIMUS XII APEX (Z490) BIOS 0901
 Memory
 ViperSteel DDR4-3200CL14-14-14-34 16GB-Kit
 VGA
Hard Drive Kingston KC600 1TB SATA3.0 : OS+GAMES
 PSU  bequit! Dark Power Pro 1200Watt 80Plus Platinum
 OS  Windows 10 Pro 64-Bit (2004) Last Update

System Config

     สำหรับรายละเอียดการปรับแต่ง Hardware นั้นได้เพิ่มประสิทธิภาพบูสของ CPU Core i9-10900K ตัวนี้ด้วย Velocity Boost ระดับ +2 ของเมนบอร์ดที่มีการ Optimize เป็นโปรไฟล์มาให้ คือ + Boost สูงสุดจากของเดิม ที่ 5.3Ghz สูงสุด เพิ่มขึ้นอีก 2 ระดับ คือที่ความเร็ว 5.5Ghz Max ในแบบ Single Core และแช่แข็ง CPU ด้วยชุด ML360 Sub-Zero AIO Cooling ของค่าย Cooler Master โดยช่วงตอนเล่นเกมจริงๆ มันจะแช่ Boost All Core ที่ 5.1Ghz ตลอดเวลาครับ ส่วนความเร็วของ Cache Speed นั้นผมไม่ได้ปรับแต่งอะไร อยู่ที่4.3Ghz ตลอดเวลา

 

Game Play

     และสำหรับผลการทดสอบด้านล่างนี้ คือ Clip Video ตอนเล่นเกมที่ผมได้อัดไว้ให้ดูกันทั้งในส่วนของ CPU Config แบบ 6C/6T, 8C/8T และ 6C/12T ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนเลยว่าการเล่นเกมที่ 6 คอร์เพียวๆ นั้น เฟรมเรทหายไปเยอะมากจริงๆ เหลือเพียง 90-120fps เท่านั้นเอง และ CPU Time ขึ้นไปแตะในระดับ 9-11ms.  (หมายเหตุ. Link Video ไม่ได้เปิดเป็นสาธารณะ จะมีแต่ผู้ที่ทราบ Link เท่านั้นที่เข้าชมได้)

Core/Thread : 6C/6T


Core/Thread : 8C/8T

ส่วนการเล่นเกมที่ 8C/8T นั้นดีขึ้นมาระดับหนึ่ง คือได้เฟรมเฉลี่ย 130-160fps และค่า CPU Time อยู่ที่ระดับ 6-9ms.  แต่เฟรมเรทก็ไม่ทะลุ 200fps+ ได้เลย.. ดังนั้น 8 คอร์ ก็คงยังรีดออกมาได้ไม่หมดจริงๆ…


Core/Thread : 6C/12T

     และการปรับแต่งแบบ 6C/12T นั้นรู้สึกว่าทุกอย่างจะใกล้เคียงกับการเล่นเกมที่ 10C/20T เลยล่ะครับ คือเห็นเฟรมเรทระดับ 190-250fps. ได้ตามที่ควรจะเป็น และค่า CPU Time อยู่ที่ 4-5ms. เท่านั้นเอง สรุปแล้วเกมนี้ ถ้าใครใช้การ์ดรุ่นใหญ่ๆ แล้วต้องการดันเฟรมแบบสุดๆ คงต้องหา CPU ที่มีอย่างน้อย 10-12 Thread ขึ้นไปถึงจะขับการ์ดได้อย่างสมบูรณ์แบบ  และอย่าลืมนะครับ ว่าผมอ้างอิงค่าการปรับแต่งเกมที่ 1920x1080p + Low Setting เป็นหลัก…. ซึ่งตรงนี้มันจะวัดใจ CPU ล้วนๆ…

   ผลการทดสอบทั้งหมดนี้ อ้างอิงแค่การทดสอบของชุด Hardware ของเราในวันนี้เท่านั้นนะครับ โดยจากการทดสอบของเราก็เห็นชุดเจนว่า CPU 6 คอร์นั้นเริ่มจะขับการ์ดรุ่นใหญ่ๆ ได้ไม่สุดแล้วจริงๆ โดยทั้งนี้และทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับเกมต่างๆ ด้วยนะครับ ซึ่งวันนี้ก็คงต้องอ้างอิงเกม COD MW ตัวนี้เป็นหลักเช่นกัน…. ส่วนเกมอื่นๆ อาจจะ Optimize ได้ดีกว่านี้ก็อาจจะไม่เห็นผลแตกต่างแบบนี้ก็เป็นได้ ส่วนใครที่ใช้ CPU 6 หัวอยู่แล้วเล่นกับการ์ด RTX 3070 แบบผมอยู่แล้วรู้สึกว่าดันเฟรมมาไม่หมดจริงๆ ก็ไม่ต้องแปลกใจครับ อยากแรงคงต้อง Upgrade CPU ขึ้นไปเป็น 6C/12T เป็นอย่างต่ำแล้วล่ะสำหรับเกมนี้…. ^O^

Power By Clock’EM UP Team