รีวิวกราฟิกการ์ดตัวจิ๋ว ASUS PHOENIX GTX1660 OC 6GB
สวัสดีครับ วันนี้ทาง Clock’EM UP.COM ก็มีกราฟิกการ์ดตัวเล็กน่ารักจากทาง ASUS มาแนะนำกันอีกหนึ่งรุ่น นั่นคือ ASUS PHOENIX Gefroce GTX 1660 OC EDITION 6GB GDDR5 ซึ่งจัดว่าเป็นกราฟิกการ์ดระดับกลาง-ล่าง ในช่วงราคาประมาณ 7,xxx.- บาทเท่านั้นนั่นเอง แต่ประสิทธิภาพนั้นบอกได้เลยว่า ถ้าเพื่อนๆ เล่นเกมแค่ระดับหน้าจอ 1080p เหลือเฟือมาก… แถมยังใช้พลังงานที่ต่ำมากอีกด้วยเพราะเจ้า GTX 1660 ตัวนี้ผลิตขึ้นด้วยกระบวนการ 12nm. ภายใต้สถาปัตยกรรม “TU116” ส่วนโครงสร้างการ์ดหลักของตัว GPU นั้นมันก็คือ NVIDIA Turing GPU ที่ผลิตออกมาลดต้นทุนเพื่อแข่งขันในตลาดกลาง-ล่าง… โดยการตัด Ray Tracing ทาง Hardware ออกไป… จุดนี้เองที่ทางกราฟิกการ์ดตระกูล GTX 16 Series นั้นเป็นรองให้กับการ์ดรุ่นใหญ่อย่างตระกูล RTX 20 Series ถึงแม้จะใช้สถาปัตยกรรมเดียวกันก็ตาม….
Feature :
- GeForce® 1660 Series graphics cards are built with the breakthrough graphics performance of the award-winning NVIDIA Turing™ architecture.
- Broadcast your Gameplay: Get great performance and image quality while livestreaming to Twitch or YouTube. The GTX 1660 Series dedicated hardware encoder delivers 15% improved efficiency over prior generation graphics cards and is optimized for Open Broadcaster Software (OBS).
- GeForce Experience: Capture and share videos, screenshots, and livestreams with friends. Keep your drivers up to date and optimize your game settings. GeForce Experience lets you do it all, making it the essential companion to your GeForce graphics card.
- Wing-blade fan design incorporates drooped tips on each blade to reduce drag.
- IP5X dust resistance offers protection from particle ingress for better durability.
- Dual ball fan bearings can last up to twice as long as sleeve bearing designs.
- Auto-Extreme Technology uses automation to enhance reliability.
- GPU Tweak II provides intuitive performance tweaking, thermal controls, and system monitoring.
สำหรับรายละเอียดทางด้านเทคนิคนั้นเจ้า ASUS PHOENIX Geforce GTX1660 OC 6GB GDDR5 ตัวนี้ก็จะมาพร้อมกับชิป GPU จากค่าย NVIDIA Geforce GTX 1660 ผลิตขึ้นด้วยสถาปัตยกรรม Turing รหัส “TU116” ที่กระบวนการผลิต 12nm. โดยพวกเอาชุด CUDA ในกระประมสลผลทางด้าร 3D มาทั้งหมด 1408 Units ความเร็วในการทำงาน GPU Clock/Boost @1500/1800Mhz (Gaming Mode) และทำงานร่วมกับแรม GDDR5 ขนาดความจุ 6GB ที่มี Interface 192-Bit ความเร็ว 8,000Mhz และรองัรบ API DirectX12 และ OpenGL 4.6 พร้อมกับการเชื่อมต่อผ่านทาง Interface PCIe3.0 x16
Engine Clock :
- OC Mode – GPU Boost Clock : 1830 MHz , GPU Base Clock : 1530 MHz
- Gaming Mode (Default) – GPU Boost Clock : 1800 MHz , GPU Base Clock : 1500 MHz
NVIDIA Card Reference Spec.
ส่วนภาพด้านบนนี้ก็จะเป็นคุณสมบัติเปรียบเทียบกันของ NVIDIA Geforce GTX 1660 Ti และ GTX 1660 ซึ่งหลักๆ เลยนั้นทั้งสองรุ่นจะต่างกันที่จำนวนของ CUDA Core ที่ทางรุ่น GTX 1660 Ti จะมีเยอะกว่าที่ 1536 ตัวและในรุ่น GTX 1660 นั้นจะมีอยู่ 1408 ตัว หรือต่างกันเพียง 128 ตัวเท่านั้นเอง…. ส่วนเรื่องแรมนั้นก็ต่างกันที่ GTX 1660 Ti เลือกใช้แรมรุ่นใหม่กว่าคือ GDDR6/12Gbps/192-Bit ส่วนในรุ่น GTX 1660 นั้นจะใช้กับแรม GDDR5/8Gbps/192-Bit ส่วนเรื่องอัตราการใช้พลังงานนั้นการืดทั้งสองรุ่นอยู่เท่ากันเลยครับที่ TDP 120W และกราฟิกการ์ดรุ่นเล็กรุ่นน้อยของ nVIDIA ในยุคหลังๆ นี้จะไม่รองรับเทคโนโลยี NVIDIA SLI Multi-GPU แล้วนะครับ อาจจะเป็นเพราะต้องการเลี่ยงปัญหาการออกแบบ Driver และกราฟิกกาณืดในยุคปัจุบัน ก็พัฒนาในแรกพอที่จะขับการเล่นเกมในระดับ 1080 และ 2K Gaming ได้แบบชิวๆ ด้วยการ์ดใบเดียวได้แล้วนั่นเอง…
สำหรับเข้า GTX 1660 รุ่นนี้จากค่าย ASUS ก็จะออกแบบมาด้วย PCB ขนาดเล็กมาก โดยขนาดของการืดอยู่ที่เพียง 17.4 x 12.1 x3.9cm. เท่านั้นเอง หรือใหญ่กว่าฝ่ามือของเราไปนิดเดียวเองฮ่าๆ…. แบบนี้เอาไปประกอบเป็นเครื่องเล่นเกมขนาดจิ๋วคู่กับเมนบอร์ด Mini-ITX กำลังเหมาะเลยนะผมว่า… เพราะมีความหนาของการ์ดเพียง 2-Slot PCI เท่านั้น และการต่อไฟเลี้ยงเสริมของการ์ดก็เป็นแบบ 12V 8-Pin เพียงชุดเดียว (TDP 120W)
พัดลมระบายความร้อนขนาดใหญ่ 1 ตัวที่เป็นแกนแบบ Dual Ball-Bearing และยังได้รับมาตราฐาน IP5X Dust Resistance ป้องกันฝุ่นละอองเข้าไปสะสมในแกนพัดลมได้อีกด้วยนะเออ… ไม่ทนให้รู้ไปครับ ^^”
บริเวณด้านล่างของตัว Heatsink นั้นถ้าเรามองเข้าไป จะเห็นว่าทาง ASUS ได้ติดตั้ง Thermal Pad ซับความร้อนให้กับเม็ดแรม GDDR5 ขึ้นไปยังครีบระบายความร้อนของ Heatsink หลักด้วยนะครับ… ก็ดูแปลกๆ ดี ไม่แน่ใจเหมือนกันนะว่ามันจะช่วยดึงความร้อนออกจากเม็ดแรมได้ดีสักแค่ไหน ???
สังเกตุได้ว่าเม็ดแรมทุกเม็ดจะมี Thermal Pad ซับความร้อนขึ้นสู่ตัวครีบระบายความร้อนทุกจุด….
ส่วนทางด้านช่องเสียบ Display Output นั้นเราก็สามารถที่จะต่อผ่านออกไปยังจอแสดงผลได้ทั้งในรูปแบบสายสัญญาณ DVI-D, HDMI 2.0b และ DP Port 1.4 ได้อย่างละ 1 ช่อง พร้อมกับการรองรับต่อใช้งานแบบ Multi-Monitor 3 จอได้อีกด้วย…. และยังรองรับการต่อใช้งานร่วมกับจอ Monitor Gaming ที่มี NVIDIA G-Sync HDR ได้ด้วยนะเออ….
Display Output :
- DVI Output : Yes x 1 (Native) (DVI-D)
- HDMI Output : Yes x 1 (Native) (HDMI 2.0b)
- Display Port : Yes x 1 (Native) (DisplayPort 1.4)
- HDCP Support : Yes (2.2)
- Digital Max Resolution:7680×4320
กราฟิกการ์ดรุ่นนี้เชื่อมต่อผ่านทาง PCIe3.0 x16 ครับ
ส่วนอุปกรณ์อื่นๆ ที่แถมมากับตัวการ์ดนั้นก็จะมีเพียงแค่คู่มือและ DVD Driver ให้อย่างละชุดเท่านั้นครับ…
ภาพบรรยากาศในการทดสอบของเราในครั้งนี้ ก็จะยังคงทดสอบในห้องแอร์อุณหภูมิ 24-25c ตลอดการทดสอบพร้อมกับชุดทดสอบ VGA Base Test เดิมเพื่อที่จะสามารถเอาผลการทดสอบไป Compare กับการ์ดรุ่นอื่นๆ ได้
CPU |
Intel Core i7-8086K @5.0Ghz/4.8Ghz (Coffee Lake 14nm.)
|
CPU Cooler | Tt Water3.0 360 ARGB Sync |
Thermal Compound | Kingpin Cooling KPx |
Motherboard |
ASUS ROG MAXIMUS X APEX ( Z370)
|
Memory |
T-FORCE Xcalibur RGB DDR4-3600Mhz CL18 16GB-Kit By XMP |
VGA | ASUS PHOENIX GTX1660 OC 6GB |
Hard Drive |
-XPG GAMMIX S11 M.2 PCIe3.0 x4 NVMe SSD 480GB (OS) x1
-WD Blue 1TB HDD (Game Drive) x1
|
PSU | Thermaltake iRGB PLUS 1200 Watt |
OS | Windows 10 Pro 64-Bit (1903) Last Update |
System Config
รายละเอียดของชุด System ในการทดสอบครั้งนี้กับชุด i7-8086K @5.0Ghz/Cache 4.8Ghz + DDR4-3600CL18 และ Windows 10 Pro 1903 Update ล่าสุดครับ
VGA Temperature & Power Consumption.
อันดับแรกเรามาชมเรื่องความร้อนของตัวการ์ดกันก่อนเลยที่ว่าเป็นอย่างไรบ้าง และจากการทดสอบของเราก็พบว่าช่วง Idle นั้นอุณหภูมิอยู่ที่ 36c และช่วง Full Load จากการ Stress Test อยู่ที่ 84c องศาเซลเซียสสูงสุดครับ
GPU : Idle
GPU : Full Load
Power Consumption.
: Idle
: Full Load
ส่วนเรื่องอัตราการใช้พลังงานนั้นอยู่ที่ช่วง Idle 73.1 Watt และช่วง Full Load กอินไฟประมาณ 215Wat Peak เท่านั้นเองนะครับ ถือว่าน้อยมาก…
Benchmark
ผลการทดสอบวัดประสิทธิภาพจากทางค่าย 3DMARK รุ่นต่างๆ ครับ
3DMARK Night Raid
3DMARK Fire Strike
3DMARK Time Spy
3DMARK Time Spy Extreme
3DMARK Port Royal
3D Gaming Performance
เอาล่ะครับมาชมถึงประสิทธิภาพการทดสอบเรื่องการเล่นเกมและ Benchmark วัดประสิทธิภาพจากตัวเกมต่างๆ กันดีกว่าครับ ซึ่งโดยภาพรวมแล้วในหลายๆ เกมทดสอบนั้นเจ้า ASUS PHOENIX Geforce GTX 1660 OC 6GB ตัวนี้มีประสิทธิภาพที่เหนือกว่า RX 590 อยู่ราวๆ 2-7 fps. เฉลี่ยรวมในหลายๆ เกมทดสอบ และก็มีบางเกมอย่าง BFV นั้นเจ้า RX 590 กลับทำเฟรมเรทเฉลี่ยได้ดีกว่าราวๆ 2.67fps. เฉลี่ย และถ้ามองโดยภาพรวมถึงประสิทธิภาพ/อัตราการใช้พลังงานด้วยแล้ว ดูเหมือน GTX 1660 จะกินขาดเลยล่ะครับ โดยที่มันกินไฟน้อยกว่า RX 590 มากถึง 120watt กันเลยทีเดียว ฮ่าๆ….
Battlefield 1
Battlefield V
Crysis 3
DEUS EX
The Division Benchmark
The Division 2 Benchmark
Ghost Recon Wildlands
Fry Cry 5 Benchmark
Rise of the Tomb Raider Benchmark
Shadow of the Tomb Raider Benchmark
สรุปเรื่องการเล่นเกมโดยรวมแล้ว ผมมองว่าถ้าเล่นเกมแค่ 1080p ปลเวปรับรายละเอียดสุดๆ ก็ยังพอเล่นไหวนะครับสำหรับ GTX 1660 6GB ตัวนี้ เพราะเฟรมเรทเฉลี่ยในแต่ละเกม AAA หลายค่ายได้ในระดับ 60-80fps เฉลี่ยได้นี่ผมว่า ok เลยนะครับกับการ์ดใบละ 7,xxx.- บาทเท่านั้นเอง และยังกินไฟต่ำมากอีกด้วย หุหุ…
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับกราฟิกการ์ดตัวเล็กๆ จากค่าย ASUS PHOENIX Geforce GTX 1660 OC EDITION 6GB GDDR5 ตัวนี้ที่มีประสิทธิภาพในการเล่นเกมที่ความละเอียด 1080p + Preset ในเกมระดับ Max Setting แล้วยังสามารถทดสอบออกมาได้เฟรมเฉลี่ยโดยรวม 45-80fps+ กันเลยทีเดียว จัดว่าไม้ธรรมดาเหมือนกันนะสำหรับการ์ดระดับกลางของ NVIDIA ในยุดนี้ ที่เน้นไปที่เรื่องประสิทธิภาพ/พลังงานที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว จุดเด่นอื่นๆ ก็คือสามารถเอาไปประกอบร่วมกับเคสเล็กๆ อย่าง Mini-ITX ได้อย่างลงตัวเลยนะเออ…
เอาล่ะครับใครที่มี GTX1050 หรือ GTX1050 Ti ตัวเก่าอยู่แล้วอยาก Upgrade ขึ้นมาเล่น GTX 16 Series ผมมองว่าในงบประมาณระดับ 7,xxx.- บาทนั้นการ์ดรุ่นนี้คุ้มค่ากับการ Upgrade แน่นอน เพราะผมดูจาก Scale เทียบกันระดับ GTX 1050Ti และ GTX 1660 แล้วมันต่างกันมากถึงเกือบ 30-40%+ ได้เลยนะครับ เพราะบางเกมผลการทดสอบต่างันถึงระดับ 34fps เฉลี่ยกันเลยทีเดียว ดังนั้นใครที่ไม่ได้หมกมุ่นเรื่อง Ray Tracing เน้นเล่นเกมทั่วไป ผมมองว่า GTX 1660 6GB รุ่นนี้ค่อนข้างตอบโจยท์ได้มากสำหรับการเล่นเกม 1080p และในส่วนเรื่องความร้อนนั้นอาจจขะดูสูงมากนิดหนึ่งช่วง Burn-in เพราะด้วยขนาดของตัว Heatsink ที่มีขนาดเล็ก จึงเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับอุณหภูมิแบบ Stress test ส่วนการเล่นเกมทั่วไปก็ไม่ได้ร้อนมากมายขนาดนั้นครับ….
สุดท้ายนี้ก็ต้องขอฝากพิจาราณากันด้วยสำหรับ ASUS PHOENIX Geforce GTX 1660 OC 6GB ตัวนี้กันด้วยนะครับ พบกันใหม่ รีวิวฉบับหน้า สวัสดีครับ ^^”
Special Thanks
Power By Clock’Em UP Team
- Facebook : https://www.facebook.com/clockemup/
- Youtube : Clock’EM UP Channel