รีวิว GALAX GTX1660 Ti 6GB 1-Click OC

      วันนี้มาลองเล่นกราฟิกการ์ดระดับกลาง Mid-Range รุ่นใหม่ล่าสุดจากค่ายเขียว NVIDIA Geforce GTX 16 Series รุ่นใหม่ล่าสุดจากทาง GALAX ตัวนี้ดูกันดีกว่าครับ โดยวันนี้เราก็มีโอากาสได้สัมผัสกับการ์ด Series นี้เป็นตัวแรกของ LAB เราเลยกับเจ้า GALAX Geforce GTX 1660 Ti 6GB GDDR6 1-Click OC ที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมใหม่ล่าสุดแบบเดียวกับตัว RTX Series ใน Code Name “Turing” รหัส “TU116” Rev.A1 โดยการ์ดรุ่นนี้จะผลิตที่กระบวนการ 12nm. เท่ากับการ์ดใน RTX 20 Series เพียงแต่จะถูกตัดในส่วนของ RT Core และ Tensor Core ออกไปเท่านั้นเอง ดังนั้นเรื่องของการประมวลผลแสงด้วย Hardware อย่าง Ray Tracing และระบบ AI Tensor Core ที่ช่วยในการประมวลผลการลบรอยหยักนั้นจะถูกตัดออกไป  แต่ก็ยังสามารถเปิดใช้งาน Real-Time Ray Tracing ได้อยู่นะครับ เพราะตอนนี้ Driver รุ่นใหม่ของทาง NVIDIA สามารถเปิดให้การ์ดในตระกูล GTX 10 Series สามารถใช้งาน Real-Time Ray Tracing ได้แล้ว ตั้งแต่ในรุ่น GTX 1060 ขึ้นไป แต่ประสิทธิภาพก็คงสู้รุ่นใหญ่ใน RTX Series ไม่ได้ ฮ่าๆ….

 

Turing 12th Gen GPU Architecture

     สำหรับสถาปัตยกรรมของ Geforce GTX 1660 Ti นั้นก็จะทำขึ้นใหม่แบบเดียวกับ RTX Series เพียงแต่จะทำการตัดชุดประมวลผล RT Core และ Tensor Core ออกไป ส่วนจำนวนของ Streaming Multiprocessors หรือ SMs นั้นจะมีทั้งหมด 24 ชุด โดยแต่ละชุดจะมีหน่วยประมวลผล Shader 64 ตัว รวมแล้วทั้งหมดก็จะเท่ากับจำนวนของ Shader Unit ทั้งหมด  1536 ตัวตาม Spec ของ GTX 1660 Ti นั่นเองครับ ส่วนขนาด Cache ของ L2 ก็จะมีขนาดใหญ่ 4MB และในรุ่น GTX 1660 Ti นั้นจะต่อใช้งานร่วมกับแรม GDDR6 เท่านั้น โดยจะมีขนาดความจุ 6GB ที่มีขนาด Interface 192-Bit  ส่วนรายละเอียดทางด้านเทคนิคและความเร็วในการทำงานของ GPU Base/Boost/Mem สามารถดูได้จากตารางด้านล่างนี้ครับ

Tech Spec.

GeForce RTX 2080 Ti FE (Ref.) RTX 2080 FE (Ref.) RTX 2070 FE (Ref.) GALAX GTX 1660 Ti  1-Click OC
GPU Nane TU102 TU104 TU106 TU116
Technology (TSMC) 12 nm. FFN
Die size 754mm² 545mm² 445mm² 445mm²
Shader cores 4352 2944 2304 1536
Transistor count 18.6 Billion 13.6 Billion 10.8 Billion 6.6 Billion
L2 Cache Size
5632 KB 4096 KB 4096 KB 4096 KB
Base frequency 1350 MHz 1515 MHz 1410 MHz 1500 Mhz
Boost frequency 1635 MHz (OC) 1800 MHz 1710 MHz 1785 Mhz
Memory 11GB GDDR6 8GB GDDR6 8GB GDDR6 6GB GDDR6
Memory frequency 14 Gbps 14 Gbps 14 Gbps 12 Gbps
Memory bus 352-bit 256-bit 256-bit 192-bit
Memory bandwidth 616 GB/s 448 GB/s 448 GB/s 288 GB/s
RT cores 68 46 36
Tensor cores 544 368 288
Texture units 272 184 144 96
ROPs 96 64 64 48
TDP 260Watt 225Watt 185Watt 120Watt
Power connector 2x 8 Pin 8+6 Pin 8 Pin 8 Pin
NVLink (SLI) Yes Yes No No

 

     เอาล่ะครับมาดูสินค้าตัวจริงกันเลยดีกว่าครับกับ GAXLAX GTX 1660 Ti 6GB GDDR6 ในรุ่น 1-Click OC โดยรุ่นนี้จะมาพร้อมกับ Feature ใหม่จากทาง Galax ที่ทำขึ้นมาเพื่อเพิ่มประสิทธภาพให้กับตัวกราฟิกการ์ดด้วย Software XTREME Tuner ด้วยการสั่งกดปุ่ม 1-Click OC เพียงครั้งเดียวก็แรงกันได้แล้ว (ทำให้ง่ายขึ้นสำหรับหมือใหม่ที่อยาก oc แต่ไม่มีความรู้)  ส่วนอุปกรณ์ Bundle ต่างๆ ที่แถมมาให้ในกล่องนั้นก็จะประกอบไปด้วยคู่มือจนำนวน 1 ชุดและแถมสายแปลง Molex 4-Pin to 12V 8-Pin VGA ให้อีก 1 ชุด

 

ตัวการ์ดนั้นออกแบบเองทั้งในส่วนของ PCB แบบ Custom รวมถึงชุดระบายความร้อนที่ออกแบบใหม่ด้วยพัดลมระบายความร้อนขนาด 90mm. จำนวน 2 ตัว ที่สามารถหยุดหมุนได้เมื่อทำงานไม่หนักมาก เพื่อลดเสียงรบกวนได้แบบ 0dBA.

 

ส่วนตัว Heatsink ระบายความร้อนหลักนั้นจะเป็นชิ้นงานจากอลูมิเนียมเป็นส่วนหลัก และเสริมด้วยท่อทองแดง Heatpipe นำความร้อนอีก 2 เส้นครับ

Spec.

  • GPU Engine Specs:
  • CUDA Cores 1536
  • Boost Clock (MHz) 1785
  • 1-Click OC Clock (MHz) 1800 (by installing Xtreme Tuner Plus Software and using 1-Click OC)
  • Memory Specs:
  • Memory Speed 12 Gbps
  • Memory Interface Width 192-bit GDDR6
  • Memory Bandwidth (GB/sec) 288
  • Display Support:
  • Multi Monitor 3 Displays
  • Standard Display Connectors DP 1.4, HDMI 2.0b, Dual Link-DVI
  • Standard Graphics Card Dimensions:
  • Dimensions(with Bracket) 228*131.5*41.5 mm
  • Dimensions(without Bracket) 214*118.65*38.6 mm
  • Power Specs:
  • Maximum Graphics Card Power (W) 120W
  • Minimum System Power Requirement (W) 450W
  • Supplementary Power Connectors 8-pin

 

ตัวกรอบครอบ Cover ของ Heatsink ด้านบนและตัวพัดลมนั้นจะเป็นสีดำทั้งหมด

 

นี่คือหน้าตาของตัวพัดลมขนาด 90mm. จำนวน 2 ตัวที่ออกแบบมาให้บริเวณใบพัดมีร่องดักอากาศให้เป็นทิศทางแนวตรงมากขึ้น น่าจะช่วยเพิ่มแรงอัดอากาศได้ดีกว่าแบบใบพัดแบนๆ ที่ใช้ทั่วไป  และที่สำคัญถ้าตัวการ์ดไม่ร้อนมาก หนือช่วง Idle พัดลมทั้ง 2 ตัวสามารถหยุดการทำงานได้แบบอัตโนมัติครับ

 

 

เราจะเห็นได้ชัดเจนว่ามีท่อ Heatpipe ทองแดงจำนวน 2 เส้นขนาดใหญ่ โผล่ออกมาบริเวณใต้พัดลม

 

ตัวการ์ดมีความหนาเพียง 2 Slot PCI เท่านั้น และเราจะสังเกตุได้ชัดเจนว่าตัว Heatsink นั้นจะขึ้นรูปมาเป็นชิ้นเดียว สามารถระบายความร้อนได้ทั้งตัว GPU, Memory GDDR6 และบริเวณภาคจ่ายไฟของ GPU โดยทุกจุดจะมีการติดตั้ง Thermal Pad ซับความร้อนมาทั้งทั้งตัว Memory และ Mosfet

 

การ์ดรุ่นนี้มีจุดเช็คไฟเลี้ยงต่างๆ ไว้ให้เรียบร้อยครับ แจ่มมากๆ ทั้งสาย OC และสำหรับช่างเอาไว้ตรวจเช็คการ์ด

 

การ์ดรุ่นนี้ต้องการเสียบไฟเลี้ยงแบบ +12V  8-Pin จำนวน 1 ชุด

 

เชื่อมต่อกับ PC ด้วย Interface PCIe3.0 x16

 

บริเวณ Display Outout ประกอบไปด้วย DisplayPort 1.4a, HDMI 2.0b และ Dual Link-DVI ให้อย่างละ 1 ช่องครับ  ส่วน Resolution สูงสุดที่ปล่อยสัญญาณภาพออกมาได้คือ 8K (7680×4320 @120Hz) ผ่านทางช่องเสียบ DisplayPort 1.4a

  • 4K 12-bit HDR at 144Hz or 8k 12-bit HDR at 60Hz over one DisplayPort 1.4 connector (with DSC).
  • DisplayPort 1.4a Ready, DSC 1.2 Ready.

Video Encode and Decode GPU Support Matrix
 : การเข้ารหัสและถอดรหัส ของ NVENC และ NVDEC

 

ภาพบรรยากาศในการทดสอบครั้งนี้ โดยเราจะทดสอบในห้องแอร์ 24-25c ตลอดการทดสอบครับ

System Spec.
 CPU
 Intel Core i7-8086K @5.0Ghz/4.8Ghz (Coffee Lake 14nm.)
 CPU Cooler  Tt Water3.0 360 ARGB Sync
 Thermal Compound  Kingpin Cooling KPx
 Motherboard
 ASUS ROG MAXIMUS X APEX ( Z370)
 Memory
 T-FORCE Xcalibur RGB DDR4-3600Mhz CL18 16GB-Kit
 VGA
 -ASUS RTX2080 Ti Turbo 11GB GDDR6
 -ASUS RTX2070 DUAL 8GB
 -MSI GTX1080 Ti GAMING X 11GB GDDR5
 -ASROCK Phantom Gaming X RX590 OC 8GB
 Hard Drive
 -XPG GAMMIX S11 M.2 PCIe3.0 x4 NVMe SSD 480GB (OS) x1
 -WD Blue 1TB HDD (Game Drive) x1
 PSU  Thermaltake iRGB PLUS 1200 Watt
 OS  Windows 10 Pro 64-Bit Last Update (1809)

 

System Config

รายละเอียดของ System ทดสอบของเราในครั้งนี้ครับ

 

VGA Temperature & Power Consumption.

มาชมผลการทดสอบในเรื่องความร้อนของตัว GPU รุ่นนี้กันก่อนเลยครับว่าเป็นอย่างไรบ้าง โดยเราจะทดสอบ Burn-In ด้วยโปรแกรม Furmark GPU Stress test เป็นระยะเวลา 7 นาทีแล้วเก็บผลการทดสอบเรื่องความร้อน และรวมถึงอัตราการใช้พลังงานของตัวการ์ด

 

GPU : Idle

 

GPU : Full Load

สำหรับผลการทดสอบเรื่องความร้อนของการ์ดตัวนี้ก็พบว่าช่วง Idle นั้นอยู่ที่ราวๆ 33c โดยพัดลมหยุดทำงานนะครับ 0dBA.  และเมื่อ Full Load ต่อเนื่องเป้นเวลา 7 นาที ก็พบว่าอุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ระดับ 72c ครับ


Power Consumption.

: Idle

 

: Full Load

ส่วนเรื่องของอัตราการบริโภคพลังงานของตัวการ์ดใบนี้ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีมากครับ โดยวัดไฟทั้งระบบช่วง Idle กินไฟอยู่เพียง 71.2 Watt เท่านั้น และช่วง Full Load นั้นจะอยู่ที่ 229 Watt Peak สูงสุด จัดว่ากินไฟต่ำมากเลยทีเดียวครับ ^^”

 

Benchmark Results

ก่อนอื่นก็ชมผลการทดสอบของ 3DMARK Version ต่างๆ กันไปก่อนครับ ส่วนกราฟทกสอบเทียบของ 3DMARK ขอเวลาเก็บ Base ให้เยอะกว่านี้ แล้วจะนำมาเทียบให้ชมกันครับ ^^”

 

3DMARK Night Raid

 

3DMARK Fire Strike

 

3DMARK Time Spy

 

3DMARK Port Royal

สำหรับ 3DMARK Port Royal นั้นตอนนี้ทาง NVIDIA ได้เปิด Driver ให้มันรองรับ DXR ได้แล้วสำหรับการ์ดอื่นๆ ที่นอกเหลือจาก RTX Series โดยเราสามารถทดสอบ 3DMARK Port Royal ได้ตั้งแต่การ์ดในรุ่น Geforce GTX 1060 ขึ้นไปด้วย Driver ตัวล่าสุดจากทาง NVIDIA ครับ  และยังรวมถึงเกมใหม่ๆ ที่รองรับ DXR ก็สามารถใช้งานได้แล้วเช่นกัน ^^”

 

Gaming Performance

     ผลการทดสอบประสิทธิภาพทางด้าน 3D Gaming มาแล้วครับ จากความรู้สึกของผมที่ได้สัมผัสการ์ดรุ่นนี้ ตอนแรกก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากเลยว่ามันจะแรงสักแค่ไหน หรือพูดง่ายๆ ผมแทบไม่ได้ตามความเคลื่อนไหวของการร์ดในตระกูล GTX 16 Series เพราะดูจากข่าวแล้วก็เป็นการ์ดระดับกลางรุ่นหนึ่งของ NVIDIA ที่ตัด RT Core และ Tensor Core ออกก็แค่นั้น……  แต่หลังจากได้ลองเล่นเกมแบบจริงจังดูแล้วที่ความละเอียด 1080p พบว่าความแรงของมันนั้น ไม่ธรรดาจริงๆ สำหรับการเล่นเกมในระดับความละเอียดหน้าจอ 1920×1080 ด้วยการปรับรายละเอียด Quality ภายในเกมให้สุดทั้งหมด พบว่ามันเป็นกราฟิกการ์ดระดับกลางอีกรุ่นหนึ่งที่มีประสิทธิภาพที่เกินตัวจริงๆ โดยผมลองเล่นเกมต่างๆ ได้เฟรมเฉลี่ย 50-90fps+ และให้ความไหลลื่นมากจริงๆ โดยเฉพาะเกมใหม่ๆ อย่าง The DIvision 2 ผมปรับ 1080p + Ultra Preset ได้เฟรมเฉลี่ยจากตัว Benchmark มากถึง 74 fps กันเลยทีเดียว เหมาะมากสำหรับการเป็นกราฟิกการ์ดระดับกลาง Mid-Range เพื่อเล่นเกมระดับ 1080p แบบไหลลื่น….

ส่วนเกมอื่นๆ ก็ลองพิจารณาดูจากกราฟด้านล่างนี้เลยนะครับ ผมมองว่ามันเหลือๆ จริงๆ สำหรับเกม 1080p

 

Battlefield 1

 

Battlefield V

 

Crysis 3

 

DEUS EX

 

The Division

 

The Division 2

 

Ghost Recon Wildlands

 

Fry Cry 5

 

Rise of Tomb Raider

 

GALAX XTREME TUNER

เสริมความแรงของกราฟิกการ์ดด้วยโปรแกรม XTREME TUNER ที่มี UI ขนาดใหญ่ ใช้งานง่ายดี แต่ผมว่า UI บางทีมันก็ดูใหญ่เกินไปนะเออ…

 

ใครอยาก OC แบบง่ายๆ ก็เข้าไปที่เมนูของ 1-Click OC เพื่อสั่งให้กราฟิกการ์ด Overclock แบบง่ายๆ เพียงกด 1 Click จริงๆ ครับ พบ Apply เสร็จมันก็จะ OC ให้เองอัตโนมัติ จากความเร็ว GPU Boost 1785Mhz เป็น 1800Mhz ครับ

 

ส่วนความเร็วของ Boost ภายในก็คือ 1935Mhz เมื่อสั่งรัน 3D


Overclock Results

     และลอง Overclock แบบ Manual เองก็พบว่าการปรับแรงดันไฟเลี้ยงของการ์ดให้สุดและรอบพัดลมแบบ 100% ก็พาการ์ดรุ่นนี้ไปวิ่งได้ที่ GPU Boost @ 2085Mhz สูงสุดและความเร็ว Memory GDDR6 @ 1700-1725Mhz หรือราวๆ 13.8Gbps กันเลยทีเดียว โดยความร้อนของ GPU ที่ปรับรอบสูงสุดของพัดลมนั้นอยู่ที่ 56c สูงสุดเท่านั้นเองครับ ไม่ได้ร้อนอะไรเลย แต่ TDP น่าจะจำกัดเสียก่อน.. ถ้าปลดได้ผมว่าน่าจะมีเห็น 2100Mhz+ แบบ Mhz ไม่ Drop อย่างแน่นอนครับ ซึ่งการทดสอบของเราก็พบว่ามีบางช่วงที่ความเร็วลดลงเองมาเหลือ 2050-2070Mhz ซึ่งก็ควบคุมเรื่องนี้ได้ยาก นอกเสียจากว่าจะปลด TDP และทำให้การ์ดเย็นที่สุดก็จะช่วยให้ความเร็วของ GPU นั้นนิ่งขึ้นและ OC ได้ไกลขึ้นครับ ^^”

 

: 3DMARK Fire Strike

 

: 3DMARK Time Spy

 

Conclusion.

     เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับความแรงของน้องเล็ก NVIDIA Geforce GTX 1660 Ti 6GB GDDR6 จากค่าย GALAX ในรุ่น 1-Click OC ซึ่งหลังได้สัมผัสมันแบบจริงจังแล้ว พบว่ามันแรงเกินความคาดหมายของผมจริงๆ แถมยังมีประสิทธิภาพ/อัตราการใช้พลังงานที่ออกมาได้ดีมากอีกด้วย  ซึ่งน่าจะได้มาจากอานิสงของสถาปัตยกรรม Turing 12nm. ล้วนๆ เลยล่ะครับ  ลองคิดดูว่าความเร็วของ GPU Boost เดิมๆ ที่ให้มาก็ระดับ 1770Mhz+ กันแล้วนะครับ  และสำหรับการ์ดรุ่นนี้ Boost เดิมๆ ของ GPU อยู่ที่ 1785Mhz และเปิดใช้งาน 1-Click OC จะเร่งความเร็วขึ้นไปที่ 1800Mhz ส่วนความเร็วของแรมนั้นจะยืนพื้นที่ความเร็ว 1500Mhz (GDDR6 12Gbps) และ Overclock ได้อีกนิดหน่อยได้ราวๆ 1700Mhz+ นิดๆ ซึ่งผมมองว่าก็ ok ไม่เลวครับ สำหรับการ์ดรุ่นนี้จากทาง GALAX

     กราฟิกการ์ดรุ่นนี้เหมาะกับผู้ใช้งานแบบไหน  ถ้าตอบคำถามนี้ก็ง่ายๆ เลยครับ คือการ์ดรุ่นนี้ เป็นการ์ดระดับกลาง Mid-Range โฟกัสที่การเล่นเกมในความละเอียด 1920x1080p ด้วยการปรับรายละเอียดของเกม Quality และ Effect ภายในเกมในระดับ High ไปจนถึง Ultra แล้วยังสามารถเล่นเกมในความละเอียด 1080p ได้แบบไหลลื่น โดยเฟรมเฉลี่ยในหลายๆ เกมทดสอบของเรา ผมว่าน่าจะเล่นเกมได้ 60fps+++ ได้แทบทุกเกมเลยนะครับ  เพียงแค่อาจจะมีบางเกมที่ Optimize ตัว Engine ของเกมไม่ค่อยดีเท่าไรนัก จึงทำให้ตัวการ์ดดึงประสิทธิภาพออกมาไม่สุด  และส่วนเกมที่เขียน Engine เกมเข้ากันได้ดีกับเจ้า GTX 1660 Ti ตัวนี้ ก็บอกได้เลยว่าเล่นเกมได้ไหลๆ ในระดับ 75-90fps เฉลี่ยกันเลยล่ะครับ

สุดท้ายนี้ก็ขอฝาก GALAX Geforce GTX 1660 Ti 6GB GDDR6 รุ่น 1-Click OC ตัวนี้ไว้พิจารณาดูกันด้วยนะครับ โดยรุ่นนี้ใบละ 9,xxx.- บาทเท่านั้นเอง   สวัสดีครับ ^^”

 

Special Thanks

  • Ascenti Resources Co., Ltd | ARC
  • Website: www.ascenti.co.th
  • Head office: 0-2961-7297