รีวิว ASUS RTX2060 SUPER DUAL 8GB EVO V2 OC Edition

     มาแล้วครับรีวิวกราฟิกการ์ด ASUS Geforce RTX 2060 Super DUAL 8GB ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ยังอยู่กับความละเอียดหน้าจอ 1080p ที่ต้องการความสดใหม่ของเทคโนโลยีจากทางค่าย NVIDIA ที่โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี Ray Tracing การเรนเดอร์แสงเงาที่สวยสมจริงที่สุดในช่วงเวลานี้กับสถาปัตยกรรม NVIDIA “Turing” ที่ประกอบไปด้วยชุดประมวลผลทั้งหมด 3 ชุดได้แก่ CUDA Cores, RT Cores และ Tensor Cores แยกประมวลผลในเรื่องของแสงเงาและการลบรอยหยักที่มีการเรียกใช้ AI เข้ามาช่วยได้อย่างชาญชลาด และสำหรับเรื่องลึกของสถาปัตยกรรมนั้นผมคงไม่ขอลงลึกมาก เดี่ยวรีวิวจะยึดยาว เพราะหลักๆ แล้วมันก็คือสถาปัตยกรรม Turing นั่นล่ะครับ เข้าชมรีวิวอย่างละเอียดในรีวิวขิง ASUS RTX 2080 Ti Turbo ได้ที่นี่….

 

NVIDIA Turing GPU

     และสำหรับเจ้า RTX 2060 Super นั้นประเด็นหลักๆ เลยก็คือทำออกมาเพื่อเป็นตัวเลือกสำหรับผู้ที่ยังมีกราฟิกการ์ดรุ่น GTX1060 หรือ GTX1070 ตัวเก่าอยู่ที่อยากจะทำการ Upgrade ให้แรงขึ้นกว่าเดิมในงบประมาณ $399 USD หรือราวๆ 1x,xxx.- บาท… โดยจากข้อมูลของ NVIDIA ที่ให้มาเกี่ยวกับประสิทธิภาพนั้นเข้า RTX 2060 Super สามารถที่จะเล่นเกมในความละเอียดหน้าจอ 1080p กับเกม AAA ในยุคใหม่นี้ได้ถึง 60-144fps+ ได้เลยล่ะครับ ดังนั้นการจับคู่กับ Gaming Monitor 1080p + 144Hz นั้นกำลังดูดีเลยล่ะครับสำหรับเข้า RTX 2060 Super

 

DUAL-RTX2060S-O8G-EVO-V2O

     มาดูตัวกราฟิกการ์ดของทาง ASUS ในรุ่น Geforce RTX 2060 Super ตัวนี้กันเลยดีกว่าครับ โดยรุ่นนี้จะเป็นแบบพัดลมคู่หรือรุ่น DUAL ตัวใหม่ล่าสุดที่มีรหัส EVO V2 ต่อท้ายรุ่นนั่นเอง จัดเด่าก็น่าจะเป็นการปรับปรุงเรื่องของพัดลมระบายความร้อนที่เปลี่ยนมาใช้แบบเดียวกับของทาง STRIX Series แล้วนั่นเอง  โดยทาง ASUS เรียกพัดลมรุ่นใหม่นี้ว่าแบบ AXIAL-Fan Design นั่นเอง

 

ASUS RTX 2060 Super รุ่นนี้จะมาพร้อมกับจำนวนของ CUDA Cores ทั้งหมด 2176 ตัวกันเลยนะครับ เมื่อเทียบกับ RTX 2060 ตัวเดิมจะอยู่ที่ 1920 ตัวครับ ดังนั้นจึงไม่แปลกใจที่เจ้า 2060 Super จะมีประสิทธิภาพที่เหนือกว่าแบบไม่ต้องสงสัย…. ส่วนในเรื่องของแรม GDDR6 ก็ขยับขึ้นมาใช้บนขนาดความจุ 8GB/256-Bit ด้วยความเร็ว 14Gbps จึงทำให้มันน่าสนใจเข้าไปอีก….

Engine Clock :

  • OC Mode – 1725 MHz (Boost Clock)
  • Gaming Mode (Default) – GPU Boost Clock : 1695 MHz , GPU Base Clock : 1470 MHz

ส่วนความเร็วในการทำงานของตัวการ์ดนั้นเดิมๆ ตั้งไว้คือ Gaming Mode ทำงานที่  GPU/Boost/Mem @1470/1695/1750Mhz และถ้าเลือกปรับเป็น OC Mode ในโปรแกรม GPU Tweaker II แล้วจะได้ความเร็วของ Boost Clock ขึ้นมาที่ 1725Mhz จากเดิมที่ 1695Mhz ครับ  ปล. รุ่นนี้คือแบบ OC Edition นะครับ

 

ด้านหลังการ์ดมีการติดตั้ง Backplate อลูมิเนียมไว้ด้านหลังการ์ดแบบเต็มใบ เพื่อป้องกัน PCB โก่งงอ และป้องกันอุปกรณ์อื่นๆ มาโดนบริเวณด้านหลังการ์ดที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายได้ โดยเฉพาะช่วงที่มีการติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ลงไป PC Case

 

     พัดลมรุ่นใหม่ AXIAL-TECH Fan Disign เน้นเรื่องของ Air-Flow และแรงอัดอากาศทีั่เป็นทิศทางที่ตรง ลมไม่ฟุ้งกระจาย ให้ประสิทธิภาพในการทำงานที่สูงกว่าพัดลมรุ่นเดิมแบบชัดเจน และยังเป็นแกนแบบกันฝุ่น IPX5 อีกด้วยจึงทำให้อายุการใช้งานของพัดลมนั้นยาวนานยิ่งกว่าเดิมครับ  และนอกจากนนี้ตัวพัดลมยังออกแบบมาให้หยุดหมุนทำงานได้เมื่อมีอุณหภูมิต่ำกว่า 55c แบบ 0dBA ไร้เสียงรบกวน

 

บริเวณด้านท้ายการ์ด

 

การ์ดรุ่นนีมีไฟ LED สีขาวแสดงออกมาเป็นแถบเล็กๆ บริเวณด้านหน้าตัวอักษร GEFORCE RTX

 

ความหนาของการ์ดนั้นอยู่ที่ 2.5 Slot ครับ

 

บริเวณจุดเสียบไฟเลี้ยง VGA แบบ 12V 8-Pin  โดย PSU ที่ทาง ASUS แนะนำไว้นั้นควรเป็น 550Watt แท้เป็นอย่างต่ำ  ส่วนการออกแบบของทาง NVIDIA นั้นบอกไว้ว่าการ์ดรุ่นนี้จะใช้ไฟประมาณ 175Watt ครับ

 

RTX 2060 Super นั้นก็ยังไม่สามารถรองรับการต่อใช้งานแบบ Multi-GPU SLI ได้เช่นเดียวกับ RTX 2060 ตัวเดิม  หากต้องการใช้งาน NV-LINk SLI นั้นต้องเป็นรุ่น RTX 2070 Super ขึ้นไปถึงจะรองรับ…

 

กราฟิกการ์ดรุ่นนี้เชื่อมต่อผ่านทาง Interface PCIe3.0 x16

 

อุปกรณ์ที่แถมมากับตัวการ์ดนั้นผมเห็นแค่เพียงคู่มือ Quick Guide ให้เพียง 1 ชุดเท่านั้น

 

บริเวณจุดต่อสาย Display Output ต่างๆ นั้นมีทั้งหมด 5 ช่องด้วยกัน ประกอบไปด้วย DVI-D x1 ช่อง, HDMI2.0b x2 ช่อง และ Display Port 1.4 อีก 2 ช่องครับ

Display Output :

  • Digital Max Resolution : 7680×4320
  • DVI Output : Yes x 1 (Native) (DVI-D)
  • HDMI Output : Yes x 2 (Native) (HDMI 2.0b)
  • Display Port : Yes x 1 (Native) (DisplayPort 1.4)
  • HDCP Support : Yes (2.2)

 

ภาพบรรยากาศในการทดสอบครั้งนี้ครับ

 

System Spec.
 CPU
 Intel Core i7-8086K @5.0Ghz/4.8Ghz (Coffee Lake 14nm.)
 CPU Cooler  Tt Water3.0 360 ARGB Sync
 Thermal Compound  Kingpin Cooling KPx
 Motherboard
 ASUS ROG MAXIMUS X APEX ( Z370)
 Memory
 T-FORCE Xcalibur RGB DDR4-3600Mhz CL18 16GB-Kit By XMP
 VGA  ASUS RTX 2060 SUPER DUAL OC 8GB
 Hard Drive
 -XPG GAMMIX S11 M.2 PCIe3.0 x4 NVMe SSD 480GB (OS) x1
 -WD Blue 1TB HDD (Game Drive) x1
 PSU  Thermaltake iRGB PLUS 1200 Watt
 OS  Windows 10 Pro 64-Bit (1903) Last Update

 

System Config

 

 

VGA Temperature & Power Consumption.

มาดูเรื่องความร้องของตัวการ์ดที่ปลดปล่อยออกมาจากช่วงที่มีการ Burn-In หนักๆ กันเลยดีกว่าครับ โดยจากการทดสอบของเราด้วยโปรแกรม Furmark ตัวล่าสุดนั้น ช่วง Idle อุณหภูมิการ์ดนั้นอยู่ประมาณ 36c ต่ำสุด และช่วง Full Load จะอยู่ที่ 65c สูงสุดครับ จัดว่าเป็นอุณหภูมิที่ไม่สูงเลยนะครับ เมื่อเทียบกับการ์ดรุ่นอื่นๆ…

 

GPU : Idle

 

GPU : Full Load


Power Consumption.

: Idle

 

: VGA Full Load

อัตราการบริโภคพลังงานนั้นถือว่าน่าสนใจอย่างมากด้วยเช่นกัน โดยช่วง Full Load นั้นอยู่ที่ประมาณ 283 Watt เท่านั้นเอง

 

Benchmark

ผลการทดสอบของ 3DMARK รุ่นต่างๆ ครับลองพิจารณาดูกันได้เลย…

 

3DMARK Night Raid

 

3DMARK Fire Strike

 

3DMARK Time Spy

 

3DMARK Port Royal

 

3D Gaming Performance

     มาดูประสิทธิภาพที่แท้จริงจากการทดสอบ ASUS RTX 2060 Super DUAL 8GB ตัวนี้กันเลยดีกว่าครับว่าเป็นอย่างไรบ้าง  ซึ่งจากผลการทดสอบจากเกม AAA ต่างๆ แล้วพบว่ามันสามารถเล่นได้ในระดับ 60-144fps เฉลี่ยได้ในหลายๆ เกมที่เราทำการทดสอบไว้ จัดว่าไม่ธรรมดาเหมือนกันนะครับสำหรับกราฟิกการ์ดระดับกลางในยุคนี้ที่ให้ประสิทธิภาพ/ต่อการใช้พลังงานที่คุ้มค่ามากจริงๆ (แรงและประหยัดไฟ)  ลองพิจารรณาผลการทดสอบของเกมต่างๆ ได้เลยครับ บอกเลยว่าไม่ธรรมดาแน่นอน  บางเกมจะแอบแรงกว่า RTX 2070 เสียอีก….   (ตอนแรกผมนึกว่าทดสอบอะไรผิดรึป่าว ??? แต่ไปดู Scale ทดสอบจากเมืองนอกแล้ว ก็พบว่ามีผลการทดสอบที่ RTX 2060 Super แรงกว่า RTX 2070 ธรรมดาอยู่หลายเกมเหมือนกัน)

 

Battlefield 1

 

Battlefield V

 

Crysis 3

 

DEUS EX Benchmark

 

The Division Benchmark

 

The Division 2 Benchmark

 

Ghost Recon Wildlands Benchmark

 

Far Cry 5 Benchmark

 

Rise of the Tomb Raider Benchmark

 

Shadow of the Tomb Raider Benchmark

 

Conclusion.

      จัดว่าแรงไม่ธรรมดาจริงๆ สำหรับ ASUS Geforce RTX 2060 Super DUAL 8GB ตัวนี้ ซึ่งในตอนแรกผมก็ไม่คิดนะว่ามันจะแรงแบบนี้ แต่หลังจากที่ได้ลองเล่นหลายๆ เกมในความละเอียดหน้าจอ 1920×1080 ดูแล้วผมมองว่ามันเล่นกันได้สบายๆ เลยนะ โดยส่วนมากเฟรมในเกมจะแตะๆ 100fps+ เฉลี่ยอยู่แล้ว  เหมาะกับเอามาเล่นกับ Gaming Monitor 144Hz อย่างมากเลยทีเดียว  ดังนั้นหากใครต้องการกราฟิกการ์ดที่คุ้มประสิทธิภาพในการเล่นเกมบนหน้าจอ 1080p ผมมองว่า RTX 2060 Super นั้นตอบโจทย์ได้ดีอย่างแน่นอน…  เพราะประสิทธิภาพเกินตัวไปแล้วจริงๆ

     ส่วนการ์ด DUAL จาก ASUS ในครั้งนี้เป็นแบบ EVO V2 ซึ่งได้รับการปรับปรุงตัวพัดลมเสียใหม่ให้เป็นแบบเดียวกับที่ใช้บน STRIX Series นั่นคือพัดมแบบ AXIAL-Tech นั่นเอง เงียบและมีประสิทธิภาพสูง  แกนใบพัดกันฝุ่นได้บนมาตราฐาน IPX5 ทนทานแน่นอน และยังสามารถทำงานแบบไร้เสียงรบกวน 0dBA ได้อีกด้วย เมื่ออุณหภูมิต่ำกว่า 55c พัดลมจะหยุดหมุนเองอัตโนมัติ  และในส่วนของอุณหภูมิการทำงานนั้นก็สามารถทำได้ดีอย่างมาก โดยช่วง Full Load นั้นอยู่ที่เพียง 60-65c เท่านั้นเอง ถือว่าเย็นมากๆ สำหรับกราฟิกการ์ดในยุคนี้ที่ระบายความร้อนด้วยอากาศ

     สุดท้ายนี้ก็ต้องขอฝาก ASUS RTX 2060 Super DUAL 8GB ตัวนี้ไว้พิจารณาสำหรับเหล่าเกมเมอร์ดกันด้วย พบกันใหม่รีวิวฉบะบหน้า สวัสดีครับ ^^”

 

Special Thanks

Power By Clock’Em UP Team