รีวิวเคสสุดคุ้ม Antec NX500 และ NX600 ที่มาพร้อมกับพัดลม ARGB แบบจัดเต็ม

October 3, 2019October 7, 2019 Audigy 15666 Views

สวัสดีครับ วันนี้นาย Audigy มีเคสขนาด Mid-Tower จากทาง Antec มาแนะนำให้เพื่อนๆ อยู่ 2 รุ่นด้วยกันครับ กับเจ้า Antec NX500 และ NX600 โดยจุดเด่นของ Case ทั้งสองรุ่นนี้เลยก็คือการแถมไฟ ARGB มาให้ Sync กับเมนบอร์ดพร้อมกับราคาขายที่เร้าใจสุดๆ โดยรุ่น NX500 จำหน่ายอยู่ที่ 1,590.- และรุ่น NX600 ที่มาพร้อมกับพัดลม ARGB อีก 4 ตัวนั้นจำหน่ายอยู่ที่ 1,990.- บาทเท่านั้นนะเออ…. และนอกจากไฟ ARGB สุดสวยแล้วยังแถมฝาข้างแบบ Tempered Glass มาให้อีกด้วยครับ และสำหรับรายละเอียดของการรีวิวในครั้งนี้เราจะเน้นเทียบให้ชมกันเลยว่าเจ้า Case ทั้งสองรุ่นนี้ต่างกันอย่างไรบ้าง… ไปชมพร้อมๆ กันเลยครับ ^^”

ขนาดของกล่องและตัว Antec NX 500 และ NX600 นั้นจะทำออกมาเท่าๆ กันเลยนะครับ ต่างแค่การออกแบบบางส่วน และรวมถึงจำนวนของพัดลมที่แถมมา โดยรุ่น NX500 จะแถมพัดลม ARGB มาให้เพียง 1 ตัว และในรุ่น NX600 นั้นจะแถมมาให้มากถึง 4 ตัวกันเลยทีเดียว สำหรับขนาด Size นั้นเจ้า Case ทั้ง 2 ตัวนี้มาในขนาด Mid-Tower ครับ

ตัวถังจะเน้นไปที่โดนสีดำด้านทั้ง 2 รุ่น โดยรุ่น NX500 ฝาด้านหน้าจะเป็นพลาสติกและมีแถบกระจกเรื่องแสงไฟ ARGB มาให้ด้านข้าง ส่วนในรุ่น NX600 นั้นฝาด้านหน้าจะมีกระจก Tempered Glass แผ่นใหญ่มาให้บริเวณด้านหน้าพร้อมกับลวดลายรังผึ้งที่เอาไว้แสดงไฟ ARGB และยังมีแถบทางด้านซ้ายที่เป็นลายเคฟล่าคาร์บอนมาใหเอีกด้วยนะเออ…

มุมมองด้านข้างและด้านหลังของ NX 500 และ NX600 ครับ ซึ่งแทบจะเหมือนกันเลย ต่างแค่การออกแบบ Design และวัสดุในบางส่วนครับ โดยทั้ง 2 รุ่นจะมีฝาใสด้านข้างที่เป็นกระจก Tempered Glass สีชามาให้ทั้ง 2 รุ่น ส่วนฝาด้านหลังเหล็กสีดำล้วนเหมือนกัน…

บริเวณด้านบน Case สามารถติดตั้งพัดลมหรือหม้อน้ำขนาด 120mm และ 140mm ได้ 2 ตัวเลยนะครับ แถมยังมีตะแกรงแถบแม่เหล็กที่สามารถถอดไปทำความสะอาดได้เหมือนกันทั้ง 2 รุ่น

รองรับการติดตั้งพัดลม ด้านหน้า 3 x 120mm / 3 x 140mm
รองรับการติดตั้งพัดลม ด้านบน 2 x 120mm / 2 x 140mm
รองรับการติดตั้งพัดลม ด้านหลัง 1 x 120mm

ฝาข้างเป็นแบบ Tempered Glass สีชาพร้อมกับน๊อตยึดทั้ง 4 มุม โดยแต่ละมุมมียางพลาสติกนิ่มๆ รองทั้ง 2 ด้านของกระจกครับ (แผ่นยางจะติดตั้งที่รูเคสและบริเวณน๊อต)

การออกแบบบริเวณจุด PSU Cover นั้นก็จะเหมือนกันทั้ง 2 รุ่นครับ ช่วยให้เราเก็บซ่อนสายไฟและ SSD/HDD ได้ดีมาก แต่มีข้อเสียก็คือ ถ้ามี PSU ที่เป็นไฟ RGB/ARGB จะทำให้มองไม่เห็นนั่นเอง ฮ่าๆ… เพราะตัว Cover ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถถอดออกได้ครับ แต่บริเวณด้านล่างนั้นมีแผ่นตะแกรงกรองฝุ่นให้กับ PSU เหมือนกันทั้งคู่

โครงสร้างด้านในนั้นจะต่างกดันเพียงเล็กน้อยครับ ในส่วนของแถบเก็บสายไฟบริเวณด้านหลัง Case ส่วนตำแหน่งของการจับยึดพัดลมทั้งในส่วนด้านหน้า ด้านบน และด้านหลังนั้นเหมือนกันทุกประการ และรวมถึงตำแหน่งของการติดตั้ง PSU ด้วย

บริเวณด้านหลัง Case ทั้ง 2 รุ่นครับ ซึ่งจะเห็นได้ว่า ค่อนข้างต่างกันมากพอสมควรของตำแหน่งการเกินสายไฟ และจุดเก็บสายไฟใรจุดต่างๆ เราจะเห็นได้ชัดเจนว่าตัว NX 600 นั้นมีกรอบ Cover ปิดเพื่อเก็บสายไฟได้ดีกว่าในรุ่น NX 500 ครับ ส่วนการติดตั้ง SSD 2.5″ นั้นทำได้ 2 ตัวเหมือนกัน โดยเอามาแปะไว้ด้านหลังของเมนบอร์ด และในส่วนของช่องเสียบ HDD 3.5″ นั้นใส่ได้ 2 ตัวอยู่ด้านล่างของตัว Case โดยช่อง Bay 3.5″ นี้สามารถรองรับการติดตั้งได้ทั้งตัว SSD 2.5″ หรือ HDD 3.5″

บริเวณจุดติดตั้ง SSD/HDD 3.5″ และกล่องเก็บอุปกรณ์ของ NX 500 ครับ

ส่วนในรุ่น NX 600 นั้นจะมีลูกเล่นพิเศษตรงที่มีกรอบ Cover เก็บสายไฟมาให้ด้วยนั่นเองครับ โดยผู้ใช้จำเป็นต้องถอดออกมาก่อน เพื่อเก็บสายไฟและทำการติดตั้ง HDD

กล่องเก็บอุปกรณ์และ SSD/HDD 3.5″ Bay ของ NX 600 ครับ ซึ่งจะสามารถใส่ได้เท่ากัน 2 ตัวเหมือนกับ NX 500 ทุกประการ

ตัวอย่างการติดตั้ง SSD 2.5″ / HDD 3.5″ ในตัว Bay และในส่วนของถาดติดตั้ง SSD ในตำแหน่งด้านหลังของเมนบอร์ดครับ

ตัวอย่างการติดตั้ง SSD/ HDD

ในรุ่น NX 600 นั้นจะแถมตัว Controller พัดลมพร้อมไฟ ARGB มาให้ 1 ชุดครับ โดยปลายสายอีกด้านจะเป็น 5V 3-Pin ARGB เอาไว้เสียบกับเมนบอร์ดที่รองรับ โดยปลายสาย ARGB มีอยู่ 2 แบบ สามารถใส่กับเมนบอร์ดได้ทั้งแบบ 3 รูห่าง และแบบ 3 รูชิดกัน

Case ทั้ง 2 รุ่นออกแบบมาให้มีปุ่มควบคุมไฟ ARGB อยู่ด้านหน้า Case เพื่อเปลี่ยน Mode การทำงานของไฟ ARGB ได้โดยไม่จำเป็นต้องต่อ Sync กับเมนบอร์ด เหมาะอย่างมากสำหรับเมนบอร์ดที่ไม่มีช่องเสียบ 5V 3-Pin Addressable (ARGB) ครับ

บริเวณด้านหน้าของตัว Case ในรุ่น NX 600 นั้นจะถูกติดตั้งพัดลม 120mm. ARGB มาให้พร้อมใช้งานเลยครับ โดยจะใส่มาให้ด้านหน้า 3 ตัว และด้านหลังอีก 1 ตัว

พัดลมด้านหลังขนาด 120mm ARGB อีก 1 ตัวครับ

ทำการติดตั้งเมนบอร์ดลงไปครับ ^^” โดยภาพตอนแระกอบผมจะขอเน้นไปที่รุ่น NX 600 นะครับ ส่วนตอนประกอบเสร็จแล้วเราจะมีภาพเทียบให้ชมกันระหว่าง NX 500 และ NX 600 ครับ

ประกอบเรียบร้อยแล้วนะครับสำหรับ Antec NX 600 ก็ต้องบอกได้เลยว่าเคสรุนนี้ประกอบและเก็บสายไฟได้ง่ายกว่าที่ผมคิด โดยใช้เวลาประกอบ 30-45 นาทีรวมเก็บสายไฟ ก็เรียบร้อยแล้ว…

ประกอบเสร็จแล้วก็มาดูแสงสีกันเลยดีกว่าครับว่าจะสวยงามสักแค่ไหน และภาพที่เห็นอยู่นี้ก็เป็นการเทียบกันระหว่างรุ่น NX 500 และ NX 600 ซึ่งบอกเลยว่ามันก็สวยงามกันไปคนละแบบ แต่ถ้าเอาสวยเลยนั้นผมว่าในรุ่น NX 600 กินขาดครับเพราะให้ไฟ ARGB และออกแบบฝาด้านหน้าออกมาได้สวยกว่ามาก…

ภาพเทียบกันตอนเก็บสายด้านหลัง Case ครับ ทำได้ดีเลย และพื้นที่ก็ค่อนข้างกว้าง ปิดฝาหลังก็ง่าย..

มุมมองด้านข้างตอนเปิดเครื่องครับ ชอบตัวไหนก็จัดไปตามใจชอบ ถ้างบถึงผมว่าไป NX 600 เลยครับ แต่ถ้าชอบเรียบๆ ก็คงต้องอยู่กับ NX 500

ส่วนตัวแล้วผมชอบรุ่น NX 600 มากทั้งในส่วนของจุดเก็บสายไฟที่ทำออกมาได้ดี ซ่อนได้เยอะมาก และการออกแบบฝาหน้าที่มาพร้อมกับกระจก Tempered Glass + ลายแบบรังผึ้ง ที่มีแสงไฟ ARGB ของพัดลมสว่างออกมา มันดูสวยงามมากจริงๆ ครับ ส่วนตำแหน่งของการดูดลมเข้านั้นจะอยู่ที่แถบทางด้านซ้ายมือของ Case แต่ในรุ่น NX 500 นั้นจะดูดลมได้ทั้งด้านขวาและด้านซ้ายของตัว Case

Antec NX 500 & NX 600 ARGB LED Showcase

ชอบรุ่นไหนก็ลองเลือกดูกันได้ครับระหว่าง NX 500 และ NX 600 ที่มีการออกแบบต่างกันเพียงแค่หน้าตาเท่านั้นเอง ส่วนเรื่องโครงสร้างหลักแล้ว ทั้ง 2 รุ่นแทบจะเหมือนกัน โดยต่างกันที่จุดเก็บสายไฟเท่านั้นที่ทาง NX 600 ทำออกมาได้ดีกว่า

Conclusion.

ก็เรียบร้อยไปแล้วนะครับสำหรับการรีวิวแนะนำเคสราคาประหยัด ที่มาพร้อมกับแสงสี ARGB แบบจัดเต็มทั้งในรุ่น NX 500 และ NX 600 ซึ่งทั้ง 2 รุ่นจำหน่ายในราคา 1,590.- และ 1,990.- บาทตามลำดับ ซึ่งถือว่าถูกมากๆ เลยนะครับสำหรับการออกแบบและไฟ ARGB ที่ให้มาทั้งส่วนของพัดลมและฝาด้านหน้า Case ถ้าไม่คุ้มนี่ผมก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วล่ะ ซึ่งโดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบแสงไฟ ARGB ผมมองว่าน่าจะโดนใจสุดๆ…

ส่วนจุดเด่นอื่นๆ นั้นก็น่าจะเป็นเรื่องของการจัดสายไฟและพื้นที่เก็บสายที่ทำออกมาได้ค่อนข้างดีมากเลยทีเดียว สามารถเก็บสายไฟได้แบบเนียนมาก โดยเฉพาะรุ่น NX 600 นั้นทำเป็นแผง Cover เก็ยซ่อนสายไฟอยู่ด้านหลัง และด้านหน้าให้อีกด้วยครับ จึงทำให้มันดูเป็นระเบียบอย่างมาก ส่วนในรุ่น NX 500 นั้นก็พอที่จะเก็บสายไฟได้อยู่นะครับ แต่คงต้องเน้นใช้ Cable Tie ไล่มัดเก็บสายตามแนวของจุดเก็บสายไฟ ซึ่งก็มีมาให้ค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว และยังให้พื้นที่เก็บสายด้ายหลังที่กว้างมาก ปิดฝาด้านหลังง่ายทั้ง 2 รุ่นครับ จุดนี้ผมมองว่า OK… และอีกจุดหนึ่งที่เก็บซ่อนสายไฟได้เยอะเลยก็คือบริเวณด้านใต้ของ PSU Cover นั้นสามารถซ่อนสายไฟได้เต็มที่เลยครับ (แต่ข้อเสียอย่างหนึ่งเลยก็คือ ไม่สามารถติดตั้ง PSU ที่มีขนาดยาวๆ ได้นะครับ เพราะมันจะไปติด HDD Bay ด้านหน้า)

ข้อเสียก็จะพอมีอยู่บ้างครับ หลักๆ เลยก็น่าจะเป็นความบางของเหล็ก โดยเฉพาะโครงด้านหลัง เวลาขันน็อตยึดเมนบอร์ดและกราฟิกการ์ดไปแล้วดูเหมือนว่าแผงพัดลมด้านหลังจะมีการบิดงอไปบ้าง ก็คงเป็นเพราะต้องการลดต้นทุนในการผลิต ดังนั้นจะขันยึดอะไร ก็ดูกันให้ดีๆ หน่อยนะครับ และไม่ต้องยึดในบางจุดแน่นเกินไป ส่วนมุมอื่นๆ ผมว่ามันก็แข็งแรงดีครับ ยกเว้นตำแหน่งพัดลมด้านหลัง Case ที่ผมกล่าวไว้

สุดท้ายนี้ก็ต้องขอฝากเคสสุดคุ้มแห่งยุค Antec NX500 และ NX600 ที่มาพร้อมกับพัดลม ARGB สุดสวยทั้ง 2 รุ่นนี้ให้เพื่อนๆ พิจารณาดูกันด้วย… พบกันใหม่รีวิวฉบับหน้า สวัสดีครับ ^^”