WD BLACK NVMe M.2 SSD 1TB 3D NAND Review

Video Review

สวัสดีครับ วันนี้นาย Audigy มี NVMe SSD ตัวแรงรุ่นใหม่ล่าสุดจากค่าย Western Digital มาแนะนำให้เพื่อนๆ ได้พิจารณากันอีกหนึ่งรุ่น  และต้องขอบอกตรงนี้ก่อนเลยว่า การกลับมาของ WD Black NVMe SSD โฉมปี 2018 น่าสนใจมากเลยทีเดียว และเป็นครั้งแรกที่ทาง Western Digital เริ่มนำเทคโนโลยีในการผลิตเม็ด NAND Flash เก็บข้อมูลในรูปแบบ 3D NAND Technology ที่มีความสามารถในการเขียนได้ถึงระดับ 600TBW และอายุการใช้งานกว่า 1.75 ล้านชั่วโมงกันเลยทีเดียว พร้อมการรับประกันกว่า 5 ปีเต็ม  และยังได้รับการปรับปรุงในเรื่องของการจัดการพลังงานที่ดีขึ้นอีกด้วย กล่าวคือมีประสิทธิภาพในการทำงานที่เร็วขึ้น, แรงขึ้น และใช้พลังงานลดลง รวมทั้งระบบควบคุมเรื่องของความร้อน เพื่อการทำงานที่ราบรื่นในการใช้งาน (Power management/ Thermal throttling) ทั้งหมดนี้จึงทำให้ WD Black NVMe SSD รุ่นใหม่นี้มีความน่าสนใจอย่างมาก….

 

เห็น Spec ตอนแรกแล้วแทบร้อง…..ความเร็วรุ่นนี้มีค่า Seq Read/Write อยู่ที่ระดับ 3400/2800MB/s กันเลยทีเดียว และยังขับเคลื่อนผ่านทาง Interface M.2 PCIe 3.0 x4 32Gb/s ด้วย Host แบบ NVMe Interface อีกด้วย จัดว่าไม่ธรรมดาจริงๆ

 

Specification.     และสำหรับรายละเอียดทางด้านเทคนิคนั้น WD Black NVMe SSD โฉมปี 2018 ใหม่นี้จะผลิตออกมาทั้งหมด 3 ความจุด้วยกัน ได้แก่ 250GB, 500GB และ 1000GB หรือ 1TB นั่นเอง โดยทั้ง 3 รุ่นจะเป็นแบบ M.2 PCIe3.0 x4  ขนาด Type 2280 (ยาว 80mm.) ที่ส่งข้อมูลวิ่งผ่าน NVMe Interface รวดเร็วและมีคิวการจัดเรียงข้อมูลได้เยอะกว่าแบบ SATA Host หลายเท่าตัว และตัว NVMe SSD ยังมีการติดต่อสื่อสารถึงตัว CPU โดยตรงเพราะมันวิ่งผ่าน PCIe Controller จึงทำให้มีค่า Latency ที่ต่ำลงมาก ส่งผลให้มีความรวดเร็วในการประมวลผลของข้อมูลต่างๆ  และสำหรับ WD Black NVMe SS ที่เราได้ทำมาการรีวิวในวันนี้คือขนาดความจุ 1TB ที่มีความเร็วในการอ่าน/เขียน Sequential Read/Write อยู่ที่ระดับ 3400/2800MB/s กันเลยทีเดียว พร้อมกับค่า TBW ที่มากถึง 600TBW และอายุการใช้งานในระดับ 1.75 ล้านชั่วโมง พร้อมการรับประกัน 5 ปีเต็มจากทาง Western Digital

 

     เรามาดูถึงตัวสินค้ากันเลยดีกว่าครับกับเจ้า WD BLACK NVMe SSD ที่เป็นแบบ M.2 PCIe.3.0 x4 ขนาด Type-2280 โดยรุ่นนี้ที่เราได้นำมารีวิวทดสอบนี้คือขนาดความจุ 1TB ที่มีความเร็วในการเขียนอ่านที่ Read/Write @ 3400/2800MB/s จุดเด่นอีกอย่างเลยก็คือการขยับมาใช้เทคโนโลยีในการผลิตแบบ 3D NAND ช่วยให้ตัว SSD มีประสิทธิภาพในการทำงานและความทนนานมากขึ้น

 

     ขนาดของตัว M.2 รุ่นนี้ก็จะมีในขนาดมาตราฐาน Type 2280 ขนาดของตัว M.2 ที่ 22x80mm. นั่นเอง โดยจะต่อใช้งานร่วมกับ M.2 Socket ที่เป็นแบบ PCIe3.0 x4 32Gb/s ซึ่งเมนบอร์ดรุ่นใหม่ๆ ก็ต่างรองรับหมดแล้ว  (อย่าเอาไปใส่ในช่อง M.2 SATA Controller นะครับ มันจะมองไม่เห็น)  ส่วนรหัสรุ่นบนฉลากนั้นคือรุ่น Western Digital Black PC SN700 / WDS100T2X0C-00L350

 

บริเวณด้านหลังของ M.2 ครับก็จะเป็น PCB โล่งๆ โดยตัวชิปต่างๆ จะติดตั้งไว้ที่ด้านหน้าด้านเดียวเท่านั้น

 

เมื่อแกะฉลากด้านบนออก เราจะเห็นได้ว่า บริเวณตรงกลางจะมี Controller จากทาง SanDisk เป็นตัวคอยจัดการควบคุมเม็ด 3D NAND Flash ขนาด 512GB จำนวน 2 ตัว พร้อมกับชิปแรมที่ทำหน้าที่เป็น Cache ให้กับตัว M.2 รุ่นนี้จากค่า SK Hynix รหัส H5A8G6NAFR – UHC ถ้าดูจากข้อมูลไม่ผิด… น่าจะเป็นแรมชนิด DDR4-2400Mhz CL17-17-17 (แต่ไม่รู้เขาตั้งความเร็วทำงานจริงไว้เท่าไร เพราะไม่ได้ระบุไว้) ความจุ 512MB จำนวน 1 เม็ดครับ จัดว่าเด็ดมิใช่น้อยเลยสำหรับ Cache ขนาด 512MB บน NVMe SSD ขนาดความจุ 1TB ตัวนี้…

 

ภาพเปรียบเทียบกันระหว่าง WD Black NVMe SSD แบบ M.2 PCIe3.0 x4 และ WD Green 120GB SSD แบบ SATA 3.0 ขนาด 2.5″  ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีปัจจุบันนั้นมีขนาดเล็กลง มีขนาดความจุที่มากขึ้นด้วย รวมถึงความเร็วที่เทียบกันระกว่า SSD ทั้ง 2 แบบนี้ต่างกันถึง 6.8 กันเลยทีเดียวสำหรับการอ่าน