ROG STRIX FUSION 500 RGB 7.1 Gaming Headset Review

Unboxing

 

ROG STRIX Fusion 500 RGB 7.1 Gaming Headset ตัวนี้จากค่าย ASUS จัดว่าเป็นหนูฟังสำหรับเล่นเกมอีกรุ่นหนึ่งที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว ซึ่งได้รับรางวัล IF Design Award ปี 2018 มาด้วยนะครับ จุดเด่นที่นอกจากเรื่องของแสงสีแบบ RGB Color ที่รองรับเทคโนโลยี ASUS AURA Sync แล้วมันยังมาพร้อมกับขุมพลังที่ช่วยขับเคลื่อนระบบเสียงอย่างการเลือกใช้ ESS ES9018 DAC และ SABRE 9601K เป็น Amp ตัวขับหูฟัง ให้รายละเอียดเสียงในระดับ 24-bit/96kHz lossless playback กันเลยทีเดียว ส่วนเทคโนโลยีการจำลองระบบเสียง 7.1 Virtual Surround Sound นั้นยังทำการพัฒนา Developed ร่วมกับทาง Bongiovi Acoustics อีกด้วย บอกแล้วว่าไม่ธรรมดาจริงๆ

 

Feature

ยุคนี้อะไรๆ RGB ดังนั้นจัดเต็มแน่นอนสำหรับระบบ ASUS AURA Sync RGB Lighting ที่สามารถปรับแต่งโหมดการแสดงผลแบบต่างๆ และสามารถ Sync ระบบการทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ ที่รองรับได้อีกด้วย

 

Driver ขนาดใหญ่ 50mm. มาพร้อมกับห้องสุญญากาศขนาดเล็กภายในหูฟังหรือบริเวณ airtight chamber ที่ออกมามาพิเศษเฉพาะทางเพื่อให้คุณภาพเสียงนัั้นเป็นธรรมาชาติมากที่สุด รวมทั้งการออกแบบให้หูฟังตอบสนองในย่านความถี่ 20-40KHz และตัว Essence Driver ที่ออกแบบพิเศาจากทาง ASUS เองช่วยให้ได้เสียงเบสที่ลึกและนุ่มเป็นพิเศษ

เลือกใช้อุปกรณ์คุณภาพสูงสำหรับตัวแปลงสัญญาณเสียงและตัวขับหูฟังอย่าง ESS Hi-Fi 9018 DAC และ 9601 Amp ที่ให้รายละเอียดเสียงในระดับ 24-bit/96kHz Lossless playback หรือได้มาตราฐาน High Resolution Audio (HRA) ที่มีรายละเอียดที่เหนือกว่า Audio CD ทั่วไปอย่างแน่นอน

 

เพิ่มความสะดวกสบายด้วยระบบ Touch Control หรือการควบคุมด้วยระบบสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นการ +/- Volume เสียง, Pause & Play, Previous/Next และคำสั่งการ Sync ระบบ RGB Sync กันได้ด้วยหูฟังต่อหูฟังด้วยกันด้วยการกดบริเวณตรงกลางค้างไว้ 3 วินาที และ Pairing Mode กับหูฟังหลายๆ ตัว ด้วยการกดค้างไว้ 5 วินาที เพื่อรอการจับคู่กับหูฟังหลายๆ ตัวที่ต้องการ (หูฟังรุ่นเดียวกันเท่านั้น) การจับคู่เรื่องแสงสีนี้ก็จะทำให้หูฟังในแต่ละตัวที่จับคู่กัน แสดงผลเป็นสีสันแบบเดียวกันนั่นเองครับ…

 

แกะกล่องดูกันเลยดีกว่าครับ โดยตัว Package ของสินค้านั้นจะเปิดออกด้วยการสไลด์กล่องชั้นนอกออกเป็น 2 ส่วนทางด้านซ้ายและด้านขวาดังนั้นเปิดกล่องออกมาแล้วระวังหูฟังร่วงออกมานะครับ ฮ่าๆ…

 

ตัวหูฟังนั้นออกมาในโทนสีเทาดำ เข้มๆ และมีความเงางามบริเวณตัวหูฟังทั้ง 2 ข้าง

 

 

พลิกดูอีกด้ารบริเวณด้าน Ear cup ที่ออกแบบมาให้สามารถถอดเปลี่ยนได้ 2 แบบด้วยกันครับ

 

 

 

บริเวณตำแหน่งของหูฟังด้านซ้ายนั้นจะมีการติดตั้ง Touch Control ไว้สำหรับควบคุมฟังชั่นการทำงานต่างๆ ของหูฟังครับ

 

 

และบริเวณด้านล่างของหูฟั่งฝั่งซ้ายก็จะมีปุ่มกดสำหรับเปิด/ปิดสลับการทำงานระหว่างแบบ Stereo กับ Virtual 7.1 surround sound และจุดเสียบสาย USB 2.0 Cable ก็จะอยู่ด้านล่างถัดลงมาครับ

 

ก้านหูฟังสามารถปรับระบบได้เพื่อให้เข้ากับศีรษะของแต่ละคน

 

ROG Hybrid Ear Cushions หรือตัวหมอนรองหูฟัง หรือจะเรียกว่า Ear cup ก็ตามแน่นั้นทางเขาบอกว่าได้ออกแบบมาพิเศษ ที่เรียกว่า ROG Hybrid ที่ประกอบไปด้วยแบบหนัง + ผ้าตาข่าย ที่ช่วยให้สวมใส่สบายและให้คุณภาพเสียงที่ดีอีกด้วย

 

บริเวณด้านใต้ของ Ear cup นั้นเราก็จะเห็นได้ถึงตัว Driver ขนาด 50mm. ที่ติดตั้งไว้อยู่ และเป็นแม่แหล็กแบบ Neodymium magnet ส่วนค่า Impedance ของหูฟังตัวนี้อยู่ที่ 32 Ohm ครับ

 

ส่วนทางด้านไมค์โครโฟนนั้นเป็นแบบ Digital boom mic / Uni-directional มีการตอบสนองได้ในย่านความถี่ 50 ~ 10000 Hz และค่า Sensitivity อยู่ในช่วง -39dB ± 3dB

 

กล่องเก็บอุปกรณ์จะมีให้ 1 กล่อง โดยจะอยู่ด้านใต้กล่องของหูฟังอีกชนั้นหนึ่งครับ โดยด้านในกล่องจะมี USB2.0 Cable ความยาว 2 เมตร มาให้หนึ่งเส้นและคู่มือ + VIP Member อีกอย่างละชุด

 

ตัวอย่างการต่อใช้งานสาย USB เข้าตัวหูฟังครับ โดยจะเป็นหัวเสียบแบบ Micro USB to USB 2.0