ROG STRIX FUSION 500 RGB 7.1 Gaming Headset Review

     เอาล่ะครับก็มาถึงช่วงทดสอลต่อใช้งานจริงกับเจ้า ROG STRIX FUSION 500 RGB 7.1 CH ตัวนี้กันแล้วนะครับ เรื่องของระบบเสียงนั้น หากเอาไปเล่นเกม + การเปิดใช้งานระบบ Virtual 7.1 surround sound นั้นมีการจำลองมิติเสียงที่ดูค่อนข้างสมจริงและทิศทางที่มาของเสียงจากในเกมก็ถือว่าทำได้ดี มีความแม่นยำมากระดับหนึ่งเลยทีเดียว ดังนั้นคนที่ชอบเล่นเกมผมมองว่าต้องชอบแน่นอน  ส่วนการฟังเพลง Audio Lossless ทั่วไปนั้นก็ถือว่าทำได้ดีระดับหนึ่ง อาจจะติดแห้งๆ ไปสักนิดแต่ก็ไม่ถึงกับว่าเลวร้ายครับ ยังพอเป็นธรรมชาติอยู่บ้าง ก็ขึ้นอยู่กับความพอใจของหลายๆ ท่านด้วย เพราะยังไงแล้วก็ต้องอย่าลืมว่ามันคือหูฟังสำหรับ Gaming

 

รองรับการทำงานแบบ AURA Sync กับอุปกรณ์อื่นๆ ด้วยแสงสีแบบ RGB Color ดังนั้นหากมีอุปกรณ์ที่รองรับก็สามารถสั่ง Sync ระบบกันได้ทันทีครับ ส่วนตัวอย่างการทำงานของระบบ ASUS AURA Sync นั้นสามารถชมได้จาก Clip Video ด้านล่างนี้เลยกับสายย่อ AURA Sync ฮ่าๆ…

 

ASUS AURA Sync

Conclusion.

      เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับหูฟังสำหรับเกมมิ่งจากค่าย ROG ในรุ่น STRIX Fusion 500 RGB 7.1 Gaming Headset ตัวนี้ นอกจากลูกเล่นแสงสี RGB Color จากเทคโนโลยี ASUS AURA Sync แล้วนั้นยังเต็มเปี่ยมไปด้วยการเลือกใช้อุปกรณ์ในการขับเคลื่อนระบบเสียงในระดับ Hi-Fi Grade อย่างเช่นชิป ESS 9018 สำหรับแปลงสัญญาณดิจิตอลเป็นอนาล็อก หรือที่เรียกติกปากกันว่า DAC (Digital-to-Analog Converter) นั่นล่ะครับ และนอกจากนี้ยังมีตัวขับลำโพงอย่างชิป ESS 9601 ที่ทำหน้าที่เป็น amp ขับเคลื่อนให้กับตัวหูฟังขนาด 50mm. ที่ออกแบบพิเศษอย่าง ASUS Essence Driver ให้คุณภาพเสียงที่เป็นธรรมาชาติและเบสที่นุ่มลึก

ยังไม่หมดแค่นั้นครับเพื่อความเป็น Gaming Headset แบบเต็มตัวหูฟังรุ่นนี้ยังได้รับการออกแบบระบบจำลองเสียงรอบทิศทางเสมือนจริงด้วยระบบ Virtual 7.1 surround sound ที่พัฒนาขึ้นโดย Bongiovi Acoustics ซึ่งบริษัทนี้จัดว่าเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีด้านเสียงระดับโลกของ Digital Power Station หรือ DPS กันเลยทีเดียวนะครับ ดังนั้นการเปลี่ยนโหมดระหว่าง Stereo เป็น Virtual 7.1 surround sound  นั้นจึงทำได้โดยการเปิดปุ่ม Swtich เพียงปุ่มเดียวเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องใช้ Software ช่วยแต่อย่างใด หรือเป็นการจำลองระบบเสียงผ่าน Hardware ที่มีการออกแบบมาโดยเฉพาะนั่นเอง…  สรุปโดยรวมแล้วการเล่นเกมผ่านระบบเสียง Virtual 7.1 surround sound ผมว่า Ok ให้ผ่านครับเพราะมิติเสียงที่ได้ดูมีอรรถรส และแม่นยำจริงๆ ไม่เหมือนการจำลองผ่าน Software แบบหลอกๆ อย่างแน่นอน ส่วนการฟังเพลงทั่วไป ผมมองว่าทำได้ดีระดับหนึ่ง ไม่น่าเกลียด แต่อาจจะดูแห้งๆ ไปบ้างก็แค่นั้น เพราะยังอย่างไรแล้ว มันก็เป็นหูฟังสำหรับ Gaming ครับ… (ก็ต้องหาโอกาสลองฟังกันเองครับ หูใครหูมัน อิอิ)

ส่วนจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งเลยก็คือระบบ Touch Control หรือระบบสัมผัสในการควบคุม Function ต่างๆ ของตัว Headset อย่างเช่นการปรับ +/- Volume ระดับเสียง, Pause & Play, Previous/Next และการกดเพื่อ Snyc ระบบ RGB Color ให้สามารถ Sync สีได้กับ Headset ตัวอื่นๆ ได้อีกด้วยครับ  แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นระบบสัมผัสนี้ก็ไม่ได้ smooth อะไรมากนักเช่นการปรับ +/- Volume บางทีก็ต้องสัมผัสแรงๆ และแตะเพื่อเลื่อนขึ้น/ลงหลายๆ ครั้งกว่าจะปรับระดับเสียงได้ ผมก็แปลกใจดี – -”  ไม่แน่ใจว่าเขาต้องการหน่วงค่า response ในการตอบสนองนี้ไว้เพื่อกันนิ้วมือไปโดนแล้วมัน เพิ่ม/ลดระดับเสียงที่เร็วไปหรือป่าว อันนี้ก็ไม่แน่ใจ เผื่อบางทีเราอาจจะเอามือไปโดนแบบไม่ตั้งใจตอนจับหูฟัง แล้วมันเร่งระดับเสียงขึ้นเอง จนอาจทำให้ตกใจหรืออาจจะเกิดอันตรายต่อหูของเราก็เป็นได้ครับ แต่โดยรวมแล้วมันก็จะต้องถูๆ กันมันมือหน่อย ฮ่าๆ…

สุดท้ายนี้ก็น่าจะเป็นในส่วนของ Ear cup ที่แถมมาให้ถึง 2 แบบสามารถถอดสลับเปลี่ยนกันได้ทั้งแบบหังธรรมดาและแบบพิเศษที่ของออกแบบมาให้อย่าง ROG Hybrid Ear Cushions ที่เป็นแบบผสมระหว่างแบบหนัง + ผ้าตาข่าย ที่เขาเคลมว่ามันสวมใส่สบายและให้คุณภาพเสียงที่ดีเหมือนเดิมอีกด้วยครับ โดยรวมแล้วผมมองว่าการสวมใส่หูฟังตัวนี้ด้วยชุด ROG Hybrid Ear Cushions แบบหนัง + ผ้าตาข่ายนั้นมีความสบายศีรษะและหูกว่าแบบหนังล้วนอยู่พอสมควร อย่างไรแล้วก็ลองพิจารณาดูกันได้สำหรัับ ROG STRIX Fusion 500 RGB 7.1 Gaming Headset ตัวนี้พร้อมการรับประกัน 1 ปีเต็ม พร้อมกับราคาที่เปิดตัวจากเมืองนอกที่ 179.99 USD ครับ…

 

Special Thanks

Power By Clock’Em UP Team