ทดสอบจริง CPU Intel Core i9-7940X 14Core 28Thread

     สวัสดีครับ วันนี้เรามี CPU รุ่นใหญ่จากค่าย Intel อีกรุ่นหนึ่งในตระกูล X-Series มาแนะนำให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกันอีกหนึ่งรุ่น นั่นคือ Intel Core i9-7940X Processor ที่จำนวนของคอร์ประมวลผลมาให้ถึง 14Core/28Thread กันเลยทีเดียว และจัดว่าเป็น CPU ในระดับ HEDT Platform (high-end desktop) ของทาง Intel อีกด้วยครับ.. ดังนั้นใครที่ทำงานสายตัดต่อ เรนเดอร์ต่างๆ น่าจะได้ประโยชน์จากเจ้า Intel Core i9-7940X ตัวนี้อยู่มิใช่น้อย…..  เอาล่ะครับ ก่อนที่จะไปดูรายละเอียดทางด้านเทคนิคต่างๆ ของเจ้า CPU รุ่นนี้ เรามาดูถึงราคากันก่อนเลยดีกว่ามีต้องกำเงินไปเท่าไร ถึงจะได้ครอบครอง….. สำหรับค่าตัวที่ทาง Intel ได้ประกาศเป็นราคากลาง ณ วันนี้… แจ้งไว้อยู่ที่ตัวละประมาณ  $1,199.99USD หรือตีเป็นเงินไทยก็ราวๆ 4x,xxx.- บาท โดยประมาณครับ

     แล้วใครเหมาะกับ CPU รุ่นนี้ ?  คำตอบนั้น… ถ้าเอาแบบถามตัวผมเองที่เน้นการ Overclock เพื่อการปั่นคะแนนแข่งขัน Benchmark ต่างๆ และเล่นเกม…. ตอบได้เลยว่า ถ้าในเรื่องของการ Overclock นั้น CPU รุ่นนี้จัดว่าเป็นพี่ใหญ่ในตระกูล X-Series รุ่นหนึ่ง ที่มีแกนประมวลผลถึง 14 Core และมีเทคโนโลยีจำลองคอร์เสมือนด้วย Intel Hyper Threading Technology หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า HT  จึงทำให้ CPU Intel Core i9-7940X ตัวนี้ทำงานได้แบบ 14Core/28Thread กันเลยทีเดียว ดังนั้นหากเอา CPU รุ่นนี้ไป Benchmark วัดประสิทธิภาพด้านในที่เน้น Multi-Thread หรือโปรแกรมต่างๆ ที่เอื้อต่อการประมวลแบบหลายคอร์ CPU รุ่นนี้จะได้เปรียบอย่างแน่นอน เพราะสามารถปั่นคะแนนได้เยอะกว่า และถ้าทางด้านการทำงาน ถ้าใครเอาไป Rendering/Encoding/Streaming หรืองานด้านตัดต่อก็จะได้ทำงานที่รวดเร็วขึ้น เพราะตัว CPU นั้นมีคอร์ในการประมวลผลที่มากกว่า CPU ทั่วๆ ไปที่มักจะอยู่ที่ 4-6 คอร์เท่านั้น….

     ส่วนด้านการเล่นเกมนั้นผมมองว่ามันทำได้อยู่แล้ว…. แต่อาจจะเกินความจำเป็นไปสักนิด หากว่าตัวผู้ใช้มุ่งที่จะเล่นเกมเป็นหลักอย่างเดียว อาจจะดูไม่คุ้มกับเงินที่เสียไปเท่าไรนัก….  นอกจากเสียว่าคุณจะเป็นสาย Streamer ที่เน้นเล่นเกมและ Stream Game เป็นหลัก อันนี้เห็นด้วยอย่างชัดเจนเลยเพราะถ้าต้องการคุณภาพของภาพที่ส่งผลออกไปให้ผู้ชมได้ชมแบบคมชัด การเลือก CPU Encoding จะให้ภาพที่คมชัดกว่าการใช้ GPU Encoding แบบชัดเจน…  แต่การใช้ CPU เป็นตัว Encoding นั้นก็ต้องพึ่งจำนวนคอร์ในการประมวลผลที่เป็นหลัก เพราะมีเท่าไรก็ยิ่งดีครับ ใช้ครบทุกคอร์อย่างแน่นอน และถ้ายิ่งเราตั้งการประมวลผลภาพที่คมชัดด้วยแล้ว CPU ก็จะทำงานหนักมากขึ้น  ดังนั้น Intel Core i9-7940X ที่มีจำนวนคอร์ในการประมวลผลแบบ 14Core/28Thread นั้นน่าจะเข้าทางสาย Streamer อยู่นะผมว่า…. ยิ่งคนที่ปล่อยหลายๆ ช่องด้วย น่าจะเห็นผลชัดเจน  แต่ถ้าเอาไปเล่นเกมเฉยๆ ผมบอกเลยว่า เกินความจำเป็น…. (แต่ถ้าเล่นเกมไปด้วยและทำงานไปพร้อมๆ กันด้วย ก็อาจจะดูคุ้มค่าขึ้นมาอีกนิด ฮ่าๆ…)  และยังมีอีกหลายเกมที่ไม่ได้เรียกใช้คอร์ในการประมวลผลถึงขนาด 28 Threads นะครับ ดังนั้นก่อนซื้ออะไรก็ตาม ให้พิจารณาถึงความต้องการของเราเป็นหลักก่อน และก็เรื่องของงบประมาณที่ต้องการลงทุนไปกับตัว Processor และ Hardware ส่วนอื่นๆ…… สรุปแล้ว งานตรงๆ ของ CPU รุ่นนี้ ก็เน้นปั่นคะแนน Benchmark ที่เน้นแบบ Multi-Threads ได้ดีระดับหนึ่งเลยทีเดียว และงานที่ตรงกับความต้องการก็คืองานด้าน Rendering/Encoding และ Streaming เป็นหลัก…. ส่วนเรื่องเกมก็ทำหน้าที่ได้ดีอยู่แล้ว….

     CPU รุ่นนี้คือรุ่น Intel Core i9-7940X 14Core/28Thread โดยมีขนาดของ L3 Cache อยู่ที่ 19.25MB ความเร็วในการทำงานนั้น Clock Base จริงๆ อยู่ที่ 3.1Ghz ทุกคอร์ และมีเทคโนโลยี Intel Turbo Boost2.0 ที่ทำการ Overclock เร่งความเร็วขึ้นให้เองแบบอัตโนมัติสูงสุดที่ 4.3Ghz และยังบูสได้สูงสุด ด้วย Intel Turbo Boost Max 3.0 สูงสุดได้ที่ 4.4Ghz กันเลยที่เดียวครับ และที่สำคัญมันสามารถปลดล็อคตัวคูณของ CPU Ratio, Cache Ratio, AVX offset, BCLK และ Memory Ratio ได้อย่างอิสระด้วยเช่นเดียวกับ CPU ในตระกูล K-Series จึงทำให้มันสามารถ Overclock ได้ถึงขีดสุดกันเลยทีเดียว

     ส่วนชื่อ Code name ของ CPU รุ่นนี้คือ Skylake-X ผลิตขึ้นโดยเทคโนโลยี 14nm. อัตราการใช้พลังงานอยู่ที่ระดับ TDP 165Watt และต้องต่อใช้งานร่วมกับ Socket LGA-2066 ที่มาพร้อมกับชิปเซ็ตรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Intel X299 Chipset  ส่วนเรื่องของระบบ Memory นั้นก็จะต้องต่อใช้งานร่วมกับแรม DDR4 แบบ Quad-Channel 256-bit จำวนวน 4 แถว โดยความเร็วในการทำงานที่รองรับแบบ Native เลยก็คือ DDR4-2666 (1333Mhz) และความจุที่ติดติดได้สูงสุดอยู่ที่ 128GB

 

     ส่วนรายละเอียดทางด้านเทคนิคเทียบกับ CPU ในตระกูล X-Series รุ่นต่างๆ นั้นก็ตามตารางด้านบนนี้เลยครับ ซึ่งทั้งหมดได้ประกาศเปิดตัวไปในช่วงงาน Computex 2017 ปีที่ผ่านมานั่นเอง… โดยเจ้า Intel Core i9-7940X นั้นจัดว่าเป็น Core i9 ในระดับกลางๆ Series พอดีเลยครับ โดยจะมีรุ่นพี่อีก 2 รุ่นคือ Core i9-7960X 16C/32T และ Intel Core i9-7980XE 18C/36T กันเลยทีเดียว…  และในส่วนของน้องเล็กในตระกูล Kabylake-X นั้นก็จะโผล่มาบน X299 Platform ด้วยกันอีก 2 รุ่น ได้แก่ Intel Core i5-7640X 4C/4T และ Intel Core i7-7740X 4C/8T โดยทั้ง 2 รุ่นนี้จะรองรับการทำงานกับแรมแบบ Dual Channel ได้เท่านั้น….

 

Intel 18-Core Skylake-X die

ภาพที่เห็นด้านบนนี้คือภาพของ die CPU หรือแกนประมวลของ CPU ที่อยู่ด้านในกระดองนั่นเองครับ โดยตรงนี้จะแสดงให้เห็นถึงภาพของแกนประมวลผลของ CPU รุ่นใหญ่สุดในตระกูล Skylake-X 14nm. ในรุ่น Core i9-7980XE ที่มีจำนวนคอร์มากถึง 18 Core บน die เดียวกัน

 

ระบบการทำงานของ L2 Cache และ L3 Cache ทำการปรับปรุงใหม่ทั้งหมด ถึงแม้จะดูเหมือนว่าขนาดของ Cache L3 ของ CPU Skylake-X นั้นดูมีขนาดเล็กลง เมื่อเทียบกับ CPU รุ่นก่อนหน้านี้ แต่ทาง Intel ได้ออกแบบใหม่ให้มีประสิทธิภาพในการทำงานดีขึ้น โดยให้ L2 Cache หรือ MLC (mid-level cache) แบบ Private ส่วนตัวให้แต่ละคอร์ คอร์ละ 1MB จึงทำให้ CPU แต่ละคอร์นั้นมีข้อมูลใน L2 มากกว่า CPU รุ่นก่อนหน้านี้ที่มีเพียงคอร์ละ 256KB. เท่านั้น และในส่วนของ L3 Cache นั้นก็แชร์ให้แต่ละคอร์ที่ 1.375MB  และนี่ก็คือเหตุผลว่าทำไม Cache L3 ของ CPU Skylake-X ถึงมีน้อยกว่า Broadwell-E

 

และนี่ก็คือตารางการเปรียบเทียบ Spec ของ CPU Skylake-X เทียบกับกับ CPU รุ่นก่อนหน้านี้อย่าง Broadwell-E และ Hasswell-E ซึ่งนอกจากการปรับปรุงเรื่องของการทำงานของระบบ Cache L2 และ L3 ใหม่แล้วยังเพิ่ม PCIe Lanes เข้าไปในตัว CPU สูงสุดถึง 44 Lane (ยกเว้นในรุ่น 7800X, 7820X จะมีเพียง 28 เท่านั้น) เมื่อเทียบกับ Broadwell-E จะมีเพียง 40 Lanes เท่านั้น

 

ในระบบ Intel Turbo Boost Max Technology 3.0 นั้นจะเป็นการต่อยอดการ Overclock แบบอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มความเร็วในการทำงานของคอร์ที่ดีที่สุด 1-2 Core ให้เร็วขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง ตัวอย่างเช่น Intel Core i9-7940X ตัวนี้มีระบบ Turbo Boost 2.0 ติดตัวมาอยู่แล้ว ซึ่งมันจะเร่งความเร็วของ CPU ได้สูงสุด 4.3Ghz และสำหรับ Turbo Boost Max Technology 3.0 นั้นจะค้นหา CPU 1-2 คอร์ที่ดีที่สุด มาเร่งการทำงานของคอร์นั้นๆ ให้ทำงานได้สูงสุดได้อีกที่ 4.4Ghz เป็นต้นครับ และหากว่ามี Work Load หนักๆ ขึ้นมาก็จะกลับไปทำงานด้วยระบบ Turbo Boost 2.0 เป็นพื้นฐานเหมือนเดิม

สรุปแล้ว เพื่อไม่ให้เกิดการสับสนบน Intel X-Series Processors เราจะขอแบ่งระดับของ CPU ในแต่ละรุ่นดังนี้

Skylake-X 14nm. Processor (Memory DDR4 Quad-Channel)  :

  • Intel Core i9-7980XE EXTREME EDITION | 18C/36T | L3 24.75MB
  • Intel Core i9-7960X | 16C/32T | L3 22 MB
  • Intel Core i9-7940X | 14C/28T | L3 19.25MB
  • Intel Core i9-7920X | 12C/24T | L3 16.5MB
  • Intel Core i9-7900X | 10C/20T | L3 13.75MB
  • Intel Core i7-7820X | 8C/16T | L3 11MB
  • Intel Core i7-7800X | 6C/12T | L3 8.25MB

 


Kabylake-X 14nm. Processor (Memory DDR4 Dual-Channel)

  • Intel Core i7-7740X | 4C/8T | L3 8MB
  • Intel Core i5-7640X | 4C/4T | L3 6MB