ASUS ROG MAXIMUS X HERO Motherboard

Unboxing

สวัสดีครับวันนี้เรามีเมนบอร์ดหล่อๆ จากค่าย ROG มาแนะนำให้เพื่อนๆ ได้พิจารณากันอีกหนึ่งรุ่นคือ ROG MAXIMUS X HERO ที่รองรับการต่อใช้งานร่วมกับ CPU Intel Gen.8 Coffee Lake 14nm. Socket LGA-1151 ส่วนชิปเซ็ตนั้นคงเป็นอะไรไปไม่ได้เลยนอกจาก Intel Z370 Chipset ที่รองรับความสามารถในการ Overclock CPU และ Memory DDR4 Module แบบจัดเต็มเมื่อต่อใช้งานร่วมกับ CPU ในตระกูล K Series Unlocked Processor จากทางค่าย Intel ซึ่งใน Gen.8 นั้นก็จะมีให้เลือกใช้กันอยู่ 3 รุ่นด้วยกันคือ Intel Core i3-8350K 4C/4T, i5-8600K 6C/6T และ i7-8700K 6C/12T นั่นเองครับ  ส่วนหากนำ CPU ตัว Non-K Series มาติดตั้งก็จะคงใช้งานได้อยู่เพียงแต่ว่าจะ Overclock CPU Multiple, BLCK และ Memory Ratio นั้นจะถูกจัดกัดให้ทำงานได้ตามค่า Native ของ CPU เท่านั้น

ส่วนจุดเด่นอของเมนบอร์ดรุ่นนี้เลยก็คือมันเกิดมาเพื่อเหล่า Gamer โดยเฉพาะอยู่สำหรับตระกูล ROG และยังเพิ่มความสามารถในการ Overclock CPU และ Memory ได้เป็นดีกว่าใน Series อื่นๆ ของตนเอง จึงทำให้เมนบอร์ด ROG MAXIMUS X Series นั้นเป็นที่นิยมกันสำหรับสาวก ROG ตัวจริง…. นอกจากนี้แล้วเมนบอร์ด ROG ใน MAXIMUS X Series นั้นก็จะแบ่งออกไปอีกหลายรุ่นย่อยเลยได้แก่…

• MAXIMUS X HERO
• MAXIMUS X HERO (WI-FI AC)
• MAXIMUS X CODE
• MAXIMUS X FORMULA
• MAXIMUS X APEX

โดยเจ้า HERO นั้นจัดว่าเป็นรุ่นเล็กสุดในตระกูล ROG MAXIMUS X Series แล้วก็ว่าได้ โดยจะมีแบ่งย่อยออกเป็นอีก 2 รุ่นคือ MAXIMUS X HERO ธรรมดา และ MAXIMUS X HERO (WI-FI AC) ต่างกันแค่ Wifi ล่ะครับ และราคาของรุ่นที่มี WiFi นั้นอยู่ที่ประมาณ 11,xxx.- ปลายๆ เท่านั้น  ส่วนลูกเล่นแสงสี RGB Color นั้นก็จัดเต็มด้วยเทคโนโลยี ASUS AURA Sync 16.8 ล้านสีพร้อมการรองรับการ Sync เชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ ที่รองรับ AURA Sync ได้อีกด้วยครับ  และด้านล่างนี้จะเป็น Re-Live ย้อนหลังสำหรับการสอน Overclock เมนบอร์ด ROG MAXIMUS X HERO พร้อมกับ CPU Intel Core i7-8700K @ 5.2Ghz/Cache 4.8Ghz + DDR4-4133CL17-17-17-39 2T จากทาง Clock’EM UP ครับผม….

Clock’EM UP Live

เอาล่ะครับเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเรามาชมรีวิวเมนบอร์ด ASUS ROG MAXIMUS X HERO ตัวนี้กันเลยดีกว่าครับ โดยจุดเด่นจริงๆ ของเมนบอร์ดรุ่นนี้เลยก็คือน่าจะเป็นเรื่องของราคาที่ถูกที่สุดแล้วสำหรับผู้ที่ต้องการใช้เมนบอร์ดชิปเซ็ต Intel Z370 ในตระกูล MAXIMUS จากทาง ASUS ครับ

 

ตัวเมนบอร์ดนั้นเป็นขนาดมาตราฐาน ATX เต็มใบเลือกใช้ PCB สีดำด้านทั้งตัว และมาลวดลายบน PCB ในบางจุดให้ดูสวยงามกลมกลืนกับทางตัว Heatsink ระบายความร้อนและตัว Cover เมนบอร์ดครับ ซึ่งก็ต้องบอกก่อนเลยว่าเจ้า MAXIMUS X HERO นั้นก็ยังคงดูหล่อเข้มเหมือนเดิม และยังมาพร้อมกับ M.2 Heatsink ให้อีกด้วยครับ

 

รองรับการต่อใช้งานร่วมกับ CPU Intel Socket LGA-1151 หรือ Coffee Lake 14nm. Gen.8 ได้เท่านั้นนะครับ ไม่สามารถเอา Gen.6 (Skylake) และ Gen.7 (Kabylake) มาติดตั้งได้ถึงแม้จะยังใช้ Socket LGA-1151 เหมือนกันก็ตาม !!!  ต้องเป็น CPU Gen.8 เท่านั้น  ส่วนภาคจ่ายไฟนั้นควบคุมด้วยระบบ Digi+ Power Control ที่มีความแม่นยำและความเสถียรภาพสูง โดยมีทั้งหมด 10 Phase และเลือกใช้ Mosfet คุณภาพสูงจากค่าย NexFET ที่เป็นแบบ Single Package ทนกระแสได้ราว 60A ต่อตัวกันเลยทีเดียว ส่วนช่องเสียบไฟเลี้ยง CPU นั้น

 

รองรับการต่อใช้งานร่วมกับ Memory DDR4 แบบ Dual Channel จำนวน 4xDIMM ตั้งแต่ความเร็วพื้นฐาน DDR4-2133Mhz ไปจนถึง DDR4-4133Mhz (OC. Module) ส่วนความจุสูงสุดนั้นอยู่ที่ 64GB Max พร้อมรับรองระบบ XMP Profile

 

มีช่องเสียบ SATA3.0 6Gb/s ทั้งหมด จำนวน 6 ช่อง ควบคุมตรงจากชิปเซ็ต Intel Z370 ดังนั้นจึงรองรับการต่อใช้งานแบบ RAID 0, 1, 5 และ 10 ส่วนช่องเสียบ USB3.1 Gen2 Front Panel นั้นมีให้อีก 1 ช่องอยู่ใกล้ๆ กับช่องเสียบ ATX-24 Pin ของเมนบอร์ดครับ

 

ช่องเสียบ M.2 Socket บนบอร์ดรุ่นนี้มีทั้งหมด 2 ช่องด้วยกัน โดยช่องแรกที่อยู่ใกล้กับ Socket CPU นั้นอยู่จะมี Heatsink ระบายความร้อนของ M.2 มาให้เป็นที่เรียกร้อย และสำหรับช่องนี้จะรองรับ M.2 Socket PCIe3.0 X4 ที่เป็น Controller Host ได้ทั้งแบบ SATA SSD และ PCIE SSD M.2 ครับ

 

ส่วน M.2 อีกช่องนั้นจะอยู่บริเวณด้านล่างใต้ชิป Z370 Chipset ก็จะรองรับได้เพียงแบบ M.2 Socket 32Gb/s PCIe3.0 x4 ที่เป็นแบบ PCIE SSD เท่านั้น   และขนาดความยาวของ M.2 ที่ติดตั้งได้บนเมนบอร์ดทั้ง 2 ช่องนั้นจะรองรับความยาวสุดที่ 2280 หรือ 80mm. นั่นเองครับ

 

บริเวณช่องเสียบ Expansion Slot ต่างๆ นั้นประกอบไปด้วย PCIe3.0 x1 ทั้งหมด จำนวน 3 ช่องด้วยกันและช่องเสียบ PCIE 3.0 x16 ทั้งหมด 3 ช่อง โดยประกอบไปด้วยช่อง PCIe3.0 x16 จำนวน 2 ช่องแรกที่ทำงานแบบ x16 เมื่อต่อใช้งานแบบ Single Card และแบบ Dual Slot ได้ในแบบ x8+x8 ส่วนช่องเสียบ PCIe3.0 x16 ช่องสุดท้ายจะทำงานได้แบบ x4 เท่านั้นครับ  ดังนั้นการรองรับระบบ Multi-GPU นั้นถ้าเป็นค่าย NVIDIA จะเป็นแบบ 2-Way SLI (x8+x8) และ AMD CrossfireX 3-Way (x8+x8+x4) ครับ

 

ระบบเสียงยังคงเป็น SupermeFX รุ่นล่าสุดที่เลือกใช้ชิป Audio Codec รุ่นพิเศษที่ทางเลือกมาใช้กับเมนบอร์ดของตัวเอง นั่นคือ Codex S1220 ที่รองรับคุณภาพเสียงในระดับ 120 dB SNR Stereo Playback และคุณภาพในการอัดเสียงที่ 113 dB SNR Recording

Audio Feature :

• ROG SupremeFX 8-Channel High Definition Audio CODEC S1220
• Impedance sense for front and rear headphone outputs
• Supports : Jack-detection, Multi-streaming, Front Panel Jack-retasking
• High quality 120 dB SNR stereo playback output and 113 dB SNR recording input
• SupremeFX Shielding Technology
• ESS® ES9023P
• Supports up to 32-Bit/192kHz playback
• Gold-plated jacks
• Optical S/PDIF out port(s) at back panel
• Sonic Radar III
• Sonic Studio III

 

     บริเวณช่องเสียบ Back I/O ด้านหลังของเมนบอร์ดครับ ก็จะประกอบไปด้วยช่องเสียบ USB3.1 Gen.2 Type-A + Type-C อย่างละ 1 ช่อง, USB3.0 ทั้งหมด 4 ช่อง, USB2.0 อีก 2 ช่อง, ช่องเสียบ DisplayPort + HDMI สำหรับ IGP, มีปุ่มกด Clear CMOS และ Bios Flashback ด้านหลังเมนบอร์ด, ช่องเสียบ Gigabit LAN จากค่าย Intel I219-V รุ่นใหญ่เหมาะกับการเล่นเกมเป็นอย่างมาก ลดอาการ Lag ในเกมได้เป็นอย่างดี และนิยมใช้กันบนเมนบอร์ด Hi-End แทบนั้นนั้น และสุดท้ายกับช่องเสียบ Audio Jack ต่างๆ ที่ด้านในเคลือบทองคำมาให้เรียบเรียบร้อยเพื่อการนำสัญญาณที่ดีเยี่ยม  นอกจากนี้ยังออกแบบฝาปิดหด้านหลังเมนบอร์ดประกอบติดมากับ Back I/O ให้พร้อมเสียบใช้ในตัว Case  โดยทาง ASUS เรียกว่า Pre-mounted I/O shield โดยยังมีความพิเศษในส่วนของการป้องกัน Electrostatic discharge ได้ในระดับ 12K Volt กันเลยทีเดียว โอว์แม้จ้าว…

Back I/O Panel :

• 1 x DisplayPort
• 1 x HDMI
• 1 x LAN (RJ45) port(s)
• 2 x USB 3.1 Gen 2 Type-A + USB Type-C^TM
• 4 x USB 3.1 Gen 1 (blue)
• 2 x USB 2.0
• 1 x Optical S/PDIF out
• 1 x Clear CMOS button(s)
• 1 x USB BIOS Flashback Button(s)
• 5 x Gold-plated audio jacks