รีวิวเม้าส์ไร้สาย RAZER Viper Ultimate Wireless Gaming With Charging Dock

     สวัสดีครับ วันนี้นาย Audigy จะมานำเสนอเกมมิ่งเมาส์ไร้สายจากค่าย Razer น้ำหนักเบาหวิวเพียง 74 กรัมเท่านั้นเอง และประเด็นสำคัญเลยก็คือรุ่นนี้แก้เรื่องอาการ lag (Zero Lag) ของระบบไร้สายด้วย Ultra-Fast Razer Hyperspeed Wireless Technology ที่บอกได้เลยว่าเร็วยังกับเราใช้เม้าส์แบบมีสายเลยก็ว่าได้  ส่วนชาร์จแบตเตอรี่ก็อยู่ได้ 70 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (Non-Stop Gaming) เลยนะครับหุหุ….

     และนี่ก็คือเจ้า RAZER VIPER ULTIMATE Wireless Gaming Mouse With Charging Dock ที่มาพร้อมกับ FOCUS+ 20K DPI Optical Sensor ให้ความแม่นยำสูงมาก และยังมาพร้อมกับปุ่มกด RAZER Optical Mouse Switch ตอบสนองรวดเร็วขึ้นและกดยังไงก็ไม่มี click เบิ้ลอีกต่อไป… เพราะพี่แกใช้แสง Infrared ในการตรวจจับการคลิก โดยมีการตอบสนองรวมเร็วสูงสุด 0.2ms นั่นเอง… จะเทพไปไหน ^O^

 

อุปกรณ์ด้านในกล่องก็จะประกอบไปด้วยตัวเมาส์ + สาย USB ยาว 1.8 เมตร + ชุดรับสัญญาณ USB Wireless/Dock ให้หนึ่งชุด (HyperSpeed Wireless)


RAZER™ OPTICAL MOUSE SWITCH

     ความแม่นยำระดับความเร็วแสง “Speed of light” ที่ใช้แสง Infrared ในการตรวจจับการคลิกโดยมีการตอบสนองรวมเร็วสูงสุด 0.2 มิลลิวินาที หรือเร็วกว่าปุ่มกด Switch ทั่วไปมากถึง 3 เท่านั่นเอง ไม่เร็วกว่าก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว ^O^

 

ปุ่มกดนอกจากมีอัตราการตอบสนองที่รวดเร็วแล้วยังทนทานต่อการกดได้มากถึง 70 ล้าน Click กันเลยทีเดียว

Tech Specs

At a glance

  • Razer Hyperspeed Wireless technology
  • Razer Focus+ Optical Sensor
  • Razer™ Optical Mouse Switches
  • 74g lightweight design
  • 70 hours of battery life

Tech Specs

  • True 20,000 DPI Focus+ optical sensor with 99.6% resolution accuracy
  • Up to 650 inches per second (IPS) / 50 G acceleration
  • Advanced Lift-off/Landing distance customization
  • HyperSpeed wireless technology
  • Eight independently programmable buttons
  • Razer™ Optical Mouse Switches rated for 70M clicks
  • True Ambidextrous shape
  • Gaming-grade tactile scroll wheel
  • On-The-Fly Sensitivity Adjustment (Default stages : 400/800/1600/2400/3200)
  • Hybrid On-board and Cloud Storage (4+1 profiles)
  • Razer Synapse 3 enabled
  • Razer Chroma™ lighting with true 16.8 million customizable color options
  • Inter-device color synchronization
  • Wired and Wireless usage modes
  • 2.4 GHz dongle
  • 1.8 m / 6 ft Speedflex cable for charging and wired use
  • Razer Mouse charging dock compatible
  • Battery life: Approximately 70 hours (without lighting) (Battery life depends on usage settings)
  • Approximate size: 126.7 mm / 4.99 in (Length) X 66.2 mm / 2.61 in (Width) X 37.8 mm / 1.49 in (Height)
  • Approximate weight: 74 g / 2.61 oz (Excluding cable)
  • Compatible with Xbox One for basic input

RAZER 5G OPTICAL SENSOR ความแม่นยำสูงสุด 99.4% และมี DPI ถึง 16,000 ด้วย 5G Optical Sensor | 650 IPS Tracking speed | ปรับความเร็วของ DPI ด้วยปุ่มกดใต้เม้าส์แบบ On-The-Fly (ค่าเดิมตั้งไว้ที่ : 400/800/1600/2400/3200dpi)

 

ตัวเมาส์สามารถใช้ได้ทั้งแบบมีสายและไร้สาย โดยจะแถมสาย USB มาให้เราความยาว 1.8 เมตรไว้ต่อใช้งานกับตัวเมาส์หรือต่อ Dock แล้วแต่ความต้องการของเรา

 

ตัวอย่างการใช้งานแบบต่อสาย USB ครับ

 

หากต้องการต่อใช้งานแบบไร้สาย ก็เพียงนำตัว USB Wireless มาเสียบไว้ที่ตัว Dock ตามภาพเลยครับ

 

 

ตัวอย่างการชาร์จแบตเตอรี่ก็เพียงเอาตัวเม้ามาวางบนตัว Dock แล้วเสียบสาย USB เข้ากับเมนบอร์ดให้เรียบร้อย

 

แท่นวางเล็กๆ ดูหรู เรียบหล่อมากเลยนะเออ…. พกพาก็สะดวก น้ำหนักเบามาก…

 

ตัว Body ของเม้าส์และตัว Dock  นั้นจะเป็นโทนสีดำด้านทั้งตัว

 

บริเวณด้านในของตัว Dock ครับทำหน้าที่เป็นตัวกระจายสัญญาณ Wireless 2.4Ghz และเป็นตัวแท่นชาร์จไปในตัว แถบด้านล่างของ Dock มีไฟ RGB รองรับ Razer Chroma RGB เช่นเดียวกับตัวเม้าส์

 

เม้าส์รุ่นนี้ออกแบบมาให้จับได้ทั้ง 2 มือ คือซ้ายและขวา แล้วแต่เราถนัดครับ  ส่วน Grip ยางด้านข้างก็พอติดมือ ไม่หนืด/เหนียวเกินไป…

 

บริเวณปุ่ม Scroll Wheel ครับ

 

ผมลองจับด้วยมือซ้ายดูก็จะโอบเม้าส์ไว้ประมาฯนี้ คนมือเล็กๆ ก็น่าจะจับได้ดีเช่นกัน เพราะตัวเมาส์ไม่ได้ใหญ่โตอะไรมาก จับง่าย น้ำหนักเบา 74g เท่านั้นเอง

 

บริเวณด้านล่างเม้าส์ ก็จะพบกับตัว Sensor Razer FOCUS+ 20K Optical และชุดยางรองด้านล่างเม้าส์ (Mouse Feet) ที่ใช้วัสดุ PTFE มีความทนทานและความลื่นสูง   ส่วนปุ่มปรับ DPI นั้นจะอยู่ด้านล่างเม้าส์นะครับ ใกล้ๆ กับ Switch ปิด/เปิด เม้าส์ (ค่าเดิมตั้งไว้ที่ : 400/800/1600/2400/3200dpi)  ส่วน Profile บนตัวเม้าส์มีอยู่ 5 On-Board Memory ครับ

 

ชุด USB Wireless นั้นจะเก็บไว้ด้านล่างของตัวเม้าส์นะครับ เผื่อใครหาไม่เจอ ฮ่าๆ… ซึ่งในกรณีที่ใช้แบบสายก็เอามันมาเก็บที่ใต้เม้าส์ได้

 

แถม Sticker ของ Razer ให้ด้วยเหมือนเดิม ^^”

 

Razer Synape

นี่คือ Software ของทาง Razer Synapse ที่เราคุ้นหน้าตากันดีสำหรับการปรับแต่งการใช้งานต่างๆ ของตัวเม้าส์และอุปกรณ์ Gaming gears ต่างๆ ที่รองรับ ไม่ว่าจะเป็นทางด้าน Performance หรือแสงสีของ CHROMA RGB

 

หน้าแถบการปรับแต่งของ Mouse | Customize ว่าจะให้ปั่มไหนทำอะไร และเลือกตั้งค่าการจับเม้าส์ว่าเราถนัดมือซ้ายหรือขวา

 

ในหน้าของ Performance นั้นเราสามารถปรับระดับทั้งหมดคือ 2/3/4/5 ระดับสูงสุดของ DPI โดยแต่ละระดับเลือกปรับได้ตามความต้องการความจะใช้ DPI เท่าไร สูงสุดอยู่ที่ 20,000 DPI ครับ  ส่วนค่า Polling Rate อยู่ที่ 1000Hz สูงสุดครับ

 

ในแถบของ Lighting นั้นเอาไว้ปรับการทำงานของแสงบนตัวเม้าส์ว่าจะให้สว่างมากน้อย หรือปิดแสง LED ไปเลยก็ได้

 

ตัวเม้าส์สามารถสั่ง Calibration กับพื้นผิวแผ่นรองเม้าส์แบบต่างๆ ได้ตามความต้องการ โดยถ้าเป็น Product ของทาง Razer เองจะมีให้เลือกเป็นรุ่นเลย ส่วนถ้าไม่มีของ Razer ก็สั่ง Calibration แบบ Custom เองได้ครับ

 

ในส่วนของ Power นั้นก็จะมีแถบ Sleep Mode ให้เม้าส์หยุดทำงานได้เมื่อไม่มีการเคลื่อนไหว เพื่อการประหยัดพลังงานของแบตเตอร์ พร้อมกับแถบแสดง % ระดับของการชาร์จ

 

ในส่วนของตัว Dock นั้นจะมีให้เลือกปรับความสว่างของ LED แยกออกมาจากตัวเม้าส์ครับ

 

เรื่องของลูกเล่นแสงสีให้มาหน้านี้เลยครับ CHROMA VISUALIZER เพื่อสั่งให้เม้าประพริบไฟ RGB เป็นรูปแบบต่างๆ ตามความต้องการ

 

และถ้าต้องการแสดงผล RGB แบบขั้นเทพหลายหลายรูปแบบการกระพริบให้เข้ามาออกแบบได้ใน CHROMA STUDIO ได้เลยครับ บอกเลยว่าละเอียดมากๆ

 

ในส่วนของการบันทึก MARCO ก็ยังสามารถบันทึกรูปแบบการกดของเม้าส์ได้ตามความต้องการ แล้วเลือก Save เก็บไว้เป็น Profile

 

Performance Test

     มาถึงช่วงลองของกันเลยดีกว่ากับ Razer Viper Ultimate เม้าส์สำหรับเกมมิ่งแบบไร้สาย โดยวันนี้ผมจะลองเล่นเกม Call of Duty Modern Warfare : Multi Player Mode ดูกันว่าเป็นอย่างไรบ้าง…. ซึ่งเม้าส์ไร้สายที่บอกว่าใช้งานจริงจะไม่รู้สึกหน่วง (Zero Lag) เหมือนดั่งการใช้เม้าส์แบบมีสายนั้นทาง Razer จะทำได้จริงไหมกับเทคโนโลยี HyperSpeed Wireless  โดยจากที่ได้ลองเล่นเกมแบบจริงๆ จังๆ ก็พบว่าแทบไม่รู้สึกเลยว่ามันเป็นเม้าส์แบบไร้สาย… คือมันตอบสนองไวมากจนแบบลืมไปเลยว่ามันคือ Wireless Mouse  ตอบสนองได้ดีทั้งในส่วนของการเคลื่อนไหวและการ Click เบิ้ลยังไม่เจอเลยจริงๆ

 

     ผมปรับความเร็วที่ผมถนัดคือ 2400 DPI สำหรับเม้าส์ตัวนี้ โดยตัว Sensor ผมมองว่าละเอียดและนิ่งใช้ได้ตัวหนึ่งเลยนะ  ซึ่งเกม COD MW เป็นหนึ่งเกมที่ยิงยากมาก ต้องไวมากจริงๆ ผมลองเล่นดูพบว่าสามารถ Kill ได้เยอะกว่าเดิมมาก ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ผมเล่นได้ค่อนข้างแย่มากๆ  และที่ชอบอีกอย่างหนึ่งเลยก็คือความเบาของเม้าส์ที่ช่วยให้เล่นเกมแนว FPS ได้ไวขึ้นจริงๆ ซึ่งในตอนแรกผมชินกับเม้าส์ที่ค่อนข้างมีน้ำหนัก และไม่คาดคิดว่าเม้าที่มีน้ำหนักเบา 74g จะให้ความแตกต่างในการเล่นเกมจริง  นี่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ใหม่อย่างหนึ่งเลยสำหรับตัวผม ^^”

 

การต่อใช้งานจะมีไฟ LED สีเขียวขึ้นเวาลาชาร์จทั้งตัวเม้าและ Dock

 

ตัวอย่างการแสดงแสงสี RGB Color แบบต่างๆ ของเม้าส์และ Dock ครับ

 

NOT ALL WIRELESS MICE ARE MADE EQUAL

 

Conclusion.

     ก็เรียบร้อยไปแล้วนะครับสำหรับการรีวิวแนะนำ Razer Viper Ultimate Wireless Gaming Mouse With Charging Dock ที่ออกแบบมาเน้นความไวเป็นพิเศา Hyperspeed Wireless Technology ที่ให้ความไวในการตอบสนองที่ใกล้เคียงกับการต่อใช้งานเม้าแบบมีสายเลยจริงๆ ซึ่งจากการที่ผมได้ทดลองเล่นเกมแบบจริงจังแล้ว มันให้ความรู้สึกที่ไวมากแบบเห็นได้ชัดเจน ซึ่งแทบจะแยกแยะไม่ออกเลยว่าเล่นเม้าส์ไร้สายอยู่  ส่วนน้ำหนักของมันที่เบาหวิวเพียง 74g นั้นช่วยให้เราเคลื่นไว้ได้ง่าย ไม่ต้องออกแรงยกมาก ทำให้ไม่เมื่อมือหรือเกิดอาการล้า เมื่อเล่นเกมนานๆ จัดว่าเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว

     และเนื่องจากเม้าส์รุ่นนี้ออกแบบมาให้เบาเป็นพิเศษสำหรับสายเกม FPS จึงไม่มีตุ้มถ่วงปรับระดับน้ำหนักมาให้ และข้อเสียคือปุ่มปรับ DPI นั้นจะอยู่ใต้เม้าส์ครับอาจจะทำให้ปรับลำบาก  จำเป็นต้องตั้งค่าปุ่มกดด้านข้างเป็นตัวปรับความเร็ว DPI +/- เองใน Software Synapse ครับ   และอีกอย่างหนึ่งที่ผมมองว่ามันควรปรับปรุงคือการเอาตัวเม้าส์ไปชาร์จกับ Dock นั้นถ้าไม่เล็งดีๆ วางเม้าส์ได้ยากมาก  ส่วนเรื่องของอัตราการใช้พลังงานนั้นทำได้ค่อนข้างดีมากเลยทีครับ ไม่เปลืองแบตเลยจริงๆ เล่นเกม 3-5 ชั่วโมงติดๆ นี่ลงยังเหลือราวๆ 80%++ เลยนะครับ ^O^

     เอาล่ะครับใครที่เป็นสาวก Razer เราขอฝากพิจารณาสำหรับผู้กำลังสนใจเม้าไร้สายที่มีการตอบสนองที่รวดเร็ว ว่องไวเช่นเดิมเม้าส์แบบมีสาย ในรุ่น Viper Ultimate ตัวนี้ที่มีปุ่มกดแบบ Optical Mouse Switch ช่วยให้อัตราการตอบสนองที่ไวกว่าปุ่ม Swtich ทั่วไปถึง x3 เท่า (0.2ms.) และป้องกันอาการ Click เบิ้ล/มั่ว  และตัวเม้าส์ยังมีน้ำหนักเบาเพียง 74g เท่านั้นเอง ทำให้สะดวกในการพกพาอย่างมาก  สวัสดีครับ ^^”

 

Special Thank

Authorized Distributor:

 

 

 

 

Ascenti Resources Co., Ltd | ARC