รีวิว Water Block สายเถื่อน Intel Direct Core Mark 3 สัมผัสตรงถึงแกน CPU

     สวัสดีครับ วันนี้นาย Audigy ภูมิใจนำเสนอสุดยอดผลงานคนไทยอีกหนึ่งชิ้น กับชุดระบายความร้อนด้วยน้ำแบบ Direct Core/Direct Die หรือการให้ Block ทองแดงสัมผัสกับแกนของ CPU โดยตรงนั่นเอง ดังนั้นจุดที่น่าสนใจเลยก็คือประสิทธิภาพในการระบายความร้อนนั้นเป็นอย่างไร จะเย็นสุดขั่วหรือไม่? เมื่อกระดอง CPU กลายเป็น Block น้ำแทน ^O^

     แต่ประเป็นมันไม่ใช่แค่ว่าคุณจะเปลี่ยนกระดอง CPU ให้เป็น Block ทอแดงที่มีน้ำผ่านด้านบนแล้วจะเย็นนะครับ…..  การออกแบบไอ่เจ้า Block แบบ Direct Core สัมผัสตรงถึงแกน CPU แบบนี้ก็ต้องมีการออกแบบที่ดี ไม่ได้ต่างไปจากการออกแบบ Water Block CPU เลย ซึ่งต้องมีการคำนึงถึงการทำครีบดึงความร้อนออกจากตัวกระดองทองแดง และการออกแบบทิศทางน้ำเข้าและออกด้วย  ซึ่งที่ผ่านมานั้นเราได้มีการทดสอบหลังบ้านมาทั้งหมด 1-3 รุ่นแล้ว โดยรุ่นแรกสุดที่เคยทดสอบนั้นมีผลการทดสอบที่ไม่ OK เท่าไรนัก คือร้อนกว่า Block เทพที่ผมใช้อยู่ประจำอย่าง Kyros HF อยู่ราวๆ 5-6c ซึ่งผมก็ไม่ OK เท่าไรนัก ณ เวลานั้น… และประจวบกับการที่ผมก็หาดูข้อมูลของการ Block แบบ Direct Core แบบนี้จากทางเมืองนอกอยู่ด้วย ก็พบว่าประสิทธิภาพที่เขาทดสอบกัน เหมือนจะเย็นกว่า Block น้ำระดับกลางๆ ประมาณ 1c เอง ซึ่งดูแล้วแทบไม่น่าสนใจเลยสำหรับ Bclock แบบ Direct Core/Die และหลังจากนั้นเราจึงมามุ่งพัฒนาตัว CPU Water Block เป็นหลักร่วมกับทาง SuperCool Computer ดีกว่า จนสุดท้ายเราก็ทำสำเร็จ จบกันที่ Intel Block Mark 5 และของฝั่งทาง AMD ในรุ่น Block Rev.3 ที่มีผลการทดสอบที่น่าประทับใจคือเย็นกว่า Kyros HF ตัวที่ผมใช้ประจำอยู่

 

“Intel Direct Core Mark 1”

     และสิ่งที่ท้าทายที่สุดเลยก็คือการทำ Block แบบ Direct Core/Die ให้เย็นนี่เป็นเรื่องที่ยากกว่ามาก เพราะ Buffer ของทองแดงที่มีน้อยมาก ขนาดเท่ากับกระดองของ CPU Intel เดิม  เพื่อนๆ ลองคิดดูว่าเล็กแค่ไหน ซึ่งอย่างมากก็ขยายได้แค่ความหนาขึ้นไปด้านบนของกระดองเพื่อเพิ่ม Buffer และทำเป็นครีบ Fin ดึงความร้อนขึ้นได้เท่านั้น….  และในส่วนของตัว Block ด้านบนก็ต้องใช้การออกแบบอะคริลิคทำเป็นทางน้ำเข้า และออกให้ดีที่สุด โดยล่าสุดก็ได้พัฒนามาเป็นรุ่น Intel Direct Core Mark 3 ที่หลังจากได้ลองเล่นดูแล้วมีผลการทดสอบที่ค่อนข้างน่าประทับใจมาก คือเย็นกว่า Intel Block Mark 5 ได้ในระดับ 3-4c กันเลยทีเดียว…. จัดว่าไม่ธรรมดาอย่างแน่นอนครับ ^^”

 

     สำหรับรายละเอียดของรูป Product ในรุ่น Mark 3 นั้นผมคงยังไม่ขอเอามาให้ดูนะครับ   ดังนั้นดูวิธีการติดตั้งแบบคร่าวๆ กันไปก่อนเลย โดยให้เราถอดชุด Block ด้านบนออกก่อน แล้วเอาส่วนของ Block ทองแดงมาทำการติดตั้งแทนชุดกระดองเดิมของ CPU Intel Gen8/Gen9 ซึ่งวิธีการทำก็เหมือนกับการ Delided ผ่ากระดอง CPU ทั่วๆ ไป โดยด้านในใส่ Liquid Gallium แล้วเอาตัว Block ทองแดงชุดนี้มาเปลี่ยนใส่แทน จากนั้นก็ใส่กาวที่กระดอง วางให้ตรงตำแหน่ง รอกาวแห้ง จากนั้นก็เอาตัว CPU ไปใส่ลงใน Socket CPU ตามปกติครับ

 

ภาพตัว CPU intel Core i 7-8086K หลังจากที่ทำการเปลี่ยนกระดองมาเป็นแบบ Direct Core

 

เรื่องการจับยึด Mounting นั้นจะใช้ที่แรงกดจากฝากดของตัว Socket แทน ดังนั้นตอนประกอบจะง่ายมาก (แต่ตอนถอดนี่ซิจะยากหน่อย เพราะต้องถอดฝาบนออก นั่นหมายถึงว่าต้องไล่น้ำออกให้หมดก่อนที่จะถอด ดังนั้นมันจึงเหมาะกับการประกอบใช้งานแบบยาวๆ ไม่แกะบ่อยครับ ^^”)

 

ประกอบฝา Block ด้านในให้เรียบร้อยก็เป็นอันเสร็จพิธีครับ

 

สำหรับรุ่นนี้จะมีไฟ ARGB ติดมาให้ด้วยนะครับ สามารถต่อลงขั่วเสียบแบบ ADD_Header 5V 3-Pin ได้ทันที

 

เปิดเครื่องดูเรื่องของแสงสี ARGB Color กันก่อนเลยครับ เห็นตัวเล้กแบบนี้ ก็มีไฟ ARGB ติดมาให้ด้วยนะเออ….

 

ผมทดลองสั่ง AURA Sync ร่วมกับเมนบอร์ด ROG MAXIMUS XI APEX และแรม ZADAK SPARK DDR4-4133Mhz CL19 16GB-Kit ก็สามารถ Sync ร่วมกันได้อย่างไม่มีปัญหาใดๆ ให้สีสันที่หวานมากเลยทีเดียว ^^”

 

ARGB Color + AURA Sync Support

และทั้งหมดนี้ก็จะภาพตัวอย่างการ Sync ไฟ ARGB ร่วมกับอุปกรณ์ต่างๆ ผ่านทาง AURA Sync Software ครับ

 

ภาพบรรยากาศในการทดสอบครั้งนี้

Hardware Spec.

CPU
 Intel Core i7-8086K 6C/12T (Delidded)
CPU Cooler
  • Intel Block Mark 1
  • Intel Block Mark 2
  • Intel Block Mark 3
  • Intel Block Mark 4
  • Intel Block Mark 5
  • Kyros KF
  • Intel Direct Core Mark 3
Motherboard  ROG MAXIMUS XI APEX (Z390)
Memory
 T-Force XTREEM DDR4-4800CL18 16GB-Kit (8GBx2)
VGA  MSI GTX1080 Ti GAMING X 11GB
Hard Drive  WD_BLACK SN750 M.2 PCIe3.0 x4 NVMe 1TB (OS)
PSU  be quiet! DARK POWER PRO 1200Watt 80PLUS Platinum
Base Test
 “DEFAULT” Beta
OS  Windows 10 Pro 64 bit [Last Update] 1909

 

 

เอาล่ะครับมาชมถึงประสิทธิภาพที่แท้จริงของเจ้า Intel Direct Core Mark 3 กันเลยดีกว่าครับ ว่าจะเย็นสักแค่ไหนกันเชียว….  สำหรับห้องทดสอบในวันนี้ก็จะอยู่ที่อุณหภูมิ 25c ตลอดการทดสอบครับ

 

Performance Result

: Intel Core i7-8086K @ 5.3Ghz/Cache 5.0Ghz Vcore 1.385V

     ผลการทดสอบที่ได้ออกมานั้น ก็ต้องบอกเลยว่าค่อนข้างน่าประทับใจอย่างมากเลยทีเดียว โดยเจ้า Intel Direct Core Mark 3 นั้นสามารถระบายความร้อนออกจากตัว CPU ได้ดีอย่างเหลือเชื่อ โดยมันมีอุณหภูมิเฉลี่ยในการทดสอบทั้ง 3 รอบ (6 Core Average) อยู่ที่เพียง 75.33c องศาเท่านั้นเอง เท่ากับว่าเย็นกว่า Intel Block Mark 5 อยู่ 3.55c และเย็นกว่า Hyros HF ที่ 5.27c องศาเซลเซียสกันเลยทีเดียว จัดว่าไม่ธรรมดาจริงๆ ครับสำหรับเข้า Intel Direct Core Mark 3 เย็นเกินความคาดหมายจริงๆ  กราบงามๆ ^O^

 


HWMonitor Round #1

  • i7-8086K @ 5.3Ghz/Cache 5.0Ghz 1.385V
  • Min : 29
  • Max : 80

 

HWMonitor Round #2

  • i7-8086K @ 5.3Ghz/Cache 5.0Ghz 1.385V
  • Min : 29
  • Max : 79

 

HWMonitor Round #3

  • i7-8086K @ 5.3Ghz/Cache 5.0Ghz 1.385V
  • Min : 29
  • Max : 80

 

Max Overclocking

     ลองลากเล่นขำๆ ดูครับ ผมก็พบว่าเจ้า Block แบบ Direct Core/Die แบบนี้ก็มีทีเด็ดอยู่นะเออ ซึ่งปกติแล้ว CPU Intel Core i7-8086K ของผมตัวนี้ผ่ากระดองใช้กับ Block น้ำทั่วไปแบบสุดๆ แล้วก็จะสามารถ Bench + Burn หนักๆ ได้เพียงประมาณ 5.30Ghz เท่านั้น แต่สำหรับการเปลี่ยนมาใช้แบบ Direct Core นั้นสามารถช่วยให้มัน Bench ได้ไกลขึ้นอีกนิดด้วยไฟเลี้ยงเดิมที่ 1.385V @5.35Ghz/Cache 5.04Ghz ที่สามารถทดสอบ PowerMAX 10 นาที ผ่านได้แบบชิวๆ ซึ่งผมทดสอบไว้อยู่ 9 รอบ ก็ไม่พบอะไรผิดปกติ แสเงว่าค่อนข้างนิ่งจริงๆ ครับ

HWMonitor

  • i7-8086K @ 5.35Ghz/Cache 5.04Ghz 1.385V
  • Min : 29
  • Max : 80

 

Geekbench 5

ลองปิด HT แล้วลากต่อแบบ 6C/6T พบว่าสามารถทดสอบ GB5 ผ่านได้ไกลสุดที่ความเร็ว 5.45Ghz/Cache 5.25Ghz ด้วยไฟเลี้ยง 1.45V

 

3DMARK Night Raid

และที่ความเร็ว 5.4Ghz/ Cache 5.2Ghz Vcore 1.415V 6C/6T นั้นดูเหมือนว่าพอใช้งานทั่วไปได้ชิวๆ เลยนะครับ ซึ่งปกติแล้ว ถ้าใช้ Block น้ำธรรมดาไม่สามารถที่จะทำอะไรได้แบบนี้อย่างแน่นอน สำหรับ CPU ตัวนี้

 

Ghost Recon Break Point

ผมลองนั่งเล่น Ghost Recon Break Point + Benchmark ก็ดูเสถียรดีไม่มีจอฟ้าให้เห็นเลย และอุณหภูมิช่วงเล่นเกมก็อยู่แถว 46-55c องศาเซลเซียสสูงสุดครับ จัดว่า แจ่มจริงไรจริง กับความเร็ว CPU 5.4Ghz+

 

Conclusion.

     มาสรุปกันเลยดีกว่าครับว่าเจ้า Block น้ำประเภทนี้มีข้อดีและข้อเสียอย่างไรบ้าง  เริ่มจากข้อดีกันก่อนเลยละกัน อย่างแรกเลยก็คือตัว Block นั้นทำตัวเป็นกระดอง CPU ที่มีครีบระบายความร้อนอยู่บนกระดอง ดังนั้นเท่ากับว่าแกนของ CPU หรือตัว Die ที่ป้าย Liquid Gallium เอาไว้สามารถระบายความร้อนได้โดยตรงผ่ายครีบระบายความร้อนด้านของกระดองทองแดง โดยไม่ต้องมาผ่านกระดองแบบปกติที่ต้องมีการทาซิลิโคนนำความร้อนอีกหนึ่งชั้น ทำให้การนำความร้อนไม่ดีเท่ากับการดึงความร้อนแบบ Direct Core นั่นเอง  แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น การออกแบบตัว Block แนวนี้ก็ต้องทำออกมาอย่างมีหลักการ มีการรีดน้ำที่บริเวณ Fin และทางน้ำเข้า และออกอย่างถูกต้อง ไม่ใช่ทำแค่ให้ตัว Block ทองแดงแล้วเอาน้ำผ่านเลยก็ใช่ว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ออกมาเย็นทันที…. ผมบอกเลยว่าถ้าออกแบบมั่วๆ ร้อนกว่าการใช้ Block น้ำทั่วไปอย่างแน่นอนฮ่าๆ….  สรุปแล้วข้อดีคือเย็นกว่า Block น้ำเทพทั่วไปได้ราวๆ 3-5c องศาเซลเศียสได้แบบไม่ยากเย็น เพราะกระดอง CPU นั้นผ่านน้ำโดยตรง….

     ส่วนข้อเสียนั้นคือ มันเหมาะกับการติดตั้งแบบครั้งเดียวและต้องใช้งานแบบยาวๆ ไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการถอดรื้อประกอบบ่อยๆ เพราะมันต้องแกะฝาด้านบนออกก่อน ถึงจะถอดตัว CPU ออกมาได้ ดังนั้นเท่ากับว่าเราต้องไล่น้ำออกจากระบบทุกครั้งที่มีการถอด CPU ดังนั้นจุดนี้ถือว่าเป็นข้อด้อนของมันอย่างชัดเจนในเรื่องของการ Service ถอดประกอบ ดังนั้นถ้าหากใครคิดจะเลือกใช้อุปกรณ์ประเภทนี้ในการระบายความร้อน CPU ต้องมั่นในได้ว่า เราจะใช้งานในรูปแบบนี้ไปในระยะเวลาที่ยาวนาน ไม่ถอดประกอบบ่อย  แต่ถ้าคุณขยันถอดประกอบก็ไม่ว่ากันครับ ^^”   สรุปแล้ว ถ้าต้องการความเย็นแบบถึงขีดสุด ก็คงต้องมาลงกับระบบ Direct Core/Die นี่ล่ะครับถึงจะเย็นแบบสุดขั่วของจริง ^O^

     สุดท้ายนี้ก็ต้องขอขอบคุณทาง SuperCool Computer ด้วยที่ทำการพัฒนาเจ้า Direct Core รุ่นนี้จนประสบความสำเร็จได้อย่างเหลือเชื่อ… ซึ่งตัวผมเองแทบไม่ได้มีส่วนร่วมการออกแบบเลยก็ว่าได้…   โดยที่ผ่านมาผมช่วยแค่การออกแบบตัว Block AMD และ Intel รุ่นปกติเท่านั้น…  และสำหรับเรื่องราคาขายของเจ้าตัว Direct Core และตัว Water Block นั้นผมสอบถามทาง SuperCool Computer แล้ว คาดว่าน่าจะจำหน่ายในราคาใกล้เคียงกันที่ราคา 1,xxx.- บาทเท่านั้นเอง โดยมีให้เลือกทั้งแบบที่มีไฟ ARGB และแบบ Non-ARGB ซึ่งราคาจะต่างกันเพียงเล็กน้อย  ส่วนผู้ที่สนใจก็ติดต่อผ่านทาง FB Fanpage ของทาง SuperCool Computer ได้ทันทีครับ (คาดว่าของน่าจะพร้อมจำหน่ายได้ในไม่ช้านี้อย่างแน่นอน)  สำหรับวันนี้ผมเองก็ต้องขอตัวลาไปก่อน พบกันใหม่รีวิวฉบับหน้า สวัสดีครับ ^^”

 

Special Thank