เลือกหูฟังเกมมิ่ง เพิ่มความเร้าใจให้กับคอเกม Survival ปี 2023
เกมแนวเอาชีวิตรอดหรือ Survival นั้น จัดเป็นแนวเกมที่ได้รับความนิยม และไม่เคยจากหายไปจากตลาดเกม ล่าสุดในปี 2023 ก็จะมีตัวอย่างเกมเช่น Stalker 2: Heart of Chornobyl และ Ark 2 เป็นต้น สิ่งที่เป็นจุดดึงดูดผู้เล่นในเกมเหล่านี้คือ มีปริศนาให้แก้ไข และการเอาตัวรอดจากสถานการณ์ต่าง ๆ นอกจากไหวพริบและการวิเคราะห์แล้ว การเลือกหูฟังที่ให้เสียงคมชัด บอกทิศทางเสียงได้แม่นยำ จะช่วยให้สนุกกับการเล่นเกมและโอกาสชนะก็มีมากขึ้น แต่จะเลือกหูฟังสำหรับแนวเกมนี้อย่างไร
ดีไซน์: การออกแบบที่กระชับ สวมใส่ได้สบาย น้ำหนักเบา รองรับการปรับเลื่อนได้ง่าย ครอบหูฟัง อย่างเช่น ครอบหูฟังที่ใช้เมมโมรีโฟม หุ้มด้วยวัสดุแบบหนัง มีความกระชับนุ่มนวล นอกจากจะช่วยให้เล่นเกมได้นานขึ้นแล้ว ยังช่วยลดเสียงรบกวนภายนอกได้ ช่วยให้คุณมีสมาธิอยู่กับเกมได้ดียิ่งขึ้น
เสียงสดใส มีมิติ: คือหัวใจสำคัญในการเล่นเกมแนวนี้ เพราะคุณจะตื่นเต้นไปกับบรรยากาศรอบตัว และสามารถจับสังเกตสิ่งต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น เพราะในหลายเกม มันคือสิ่งที่ช่วยบอกไบ้ให้คุณทำภารกิจได้สำเร็จ ตัวอย่างเช่น หูฟัง HyperX Cloud III มาพร้อมไดรเวอร์ขนาดใหญ่ 53mm และสนับสนุนระบบเสียงรอบทิศทาง DTS X v.2.0 เกมเมอร์จึงสนุกไปกับเสียงที่เร้าใจ และสังเกตสิ่งต่าง ๆ รอบตัวได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ยังมาพร้อมไมโครโฟนแบบ Cardioid มีตัวกรอง พร้อมการตัดเสียงรบกวนแบบพิเศษ เพื่อให้การสนทนากับเพื่อนภายในเกมได้อย่างคมชัด เสียงใส ไม่พลาดในการสื่อสาร เพื่อมุ่งสู่ชัยชนะไปพร้อมกัน
ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน: เพื่อให้เกมเมอร์มีสมาธิอยู่กับเกม หูฟังที่ดีก็ควรจะใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน และติดตั้งง่าย หรือบางครั้งการใช้หูฟังแบบมีสาย ก็มีข้อดีคือไม่ต้องอาศัยการเชื่อมต่อ (Pairing) ให้วุ่นวาย รวมถึงการปรับเลื่อน Head band ได้ง่าย ไมโครโฟนปรับงอให้เข้าใกล้กับปาก เพื่อเสียงที่ชัดเจน คุณสมบัติต่าง ๆ เหล่านี้มีอยู่ใน HyperX Cloud III ที่ผู้ใช้แทบไม่ต้องวุ่นวาย แค่สวมหูฟัง ต่อสายไปยังเครื่องเล่นเกม ก็พร้อมลุยได้เลย
เล่นได้ทุกแพลตฟอร์ม: เกมเมอร์หลายคน ชื่นชอบการเล่นเกมเป็นชีวิตจิตใจ และไม่ได้หยุดแค่เกมพีซี เวลาเบื่อก็อาจจะเปลี่ยนไปเล่น PlayStation อย่างเช่น PS4/ PS5 และบางโอกาสที่เดินทางไปข้างนอก ก็พก Nintendo Switch หรือเล่นเกมบนมือถือในยามว่าง การเลือกหูฟังที่ใช้ได้ครอบคลุมก็จะสะดวกมากกว่า เช่นเดียวกับ HyperX Cloud III สามารถใช้งานได้กับทุกแพลตฟอร์มที่ว่ามา จึงไม่จำเป็นต้องหาหูฟังมาสลับใช้งานกับเครื่องเล่นเกมแต่ละแบบให้วุ่นวายอีกด้วย
HyperX Cloud III หูฟังเกมมิ่งดีไซน์สวย กระชับ ปรับเลื่อน head band ได้ง่าย สวมใส่สบาย ให้ความแข็งแรง ให้พลังเสียงสะใจจากไดรเวอร์ขนาด 53mm มาพร้อมไมโครโฟนที่มีระบบตัดเสียงรบกวน รองรับระบบเสียง DTS Headphone:X Spatial Audio ทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อเครื่องเล่นเกมได้หลายรูปแบบ ตอบโจทย์เกมเมอร์ ที่ชื่นชอบการเล่นเกมกับเครื่องเล่นเกมแบบต่าง ๆ ในปัจจุบัน พร้อมให้เป็นเจ้าของได้ในราคา 3,090 บาท