รีวิว ASUS Geforce RTX 2080 Ti Turbo 11GB GDDR6

Gaming Performance

เอาล่ะครับมาถึงช่วงที่ทุกคนรอคอยกันแล้วกับผลการทดสอบทางด้านเกมมิ่งที่ความละเอียดหน้าจอ 1080p โดยเรามาดูกันเลยครับว่า RTX2080 Ti กับ GTX1080 Ti นั้นจะแรงต่างกันมากน้อยแค่ไหน อย่างไรบ้างนั้น ไปชมกันเลยครับ….

 

Battlefield 1

เริ่มจากเกมแรกกันเลยครับกับ BF1 ซึ่งชัดเจนเลยว่าตัว ASUS RTX2080 Ti Turbo นั้นแรงกว่ากาณืดรุ่นเก่าอย่าง MSI GTX1080 Ti GAMING X อยู่ราวๆ 13.628fps. เฉลี่ยครับ

 

Battlefield V

ละสำหรับเกม BF5 DX11 นั้นเฟรมที่เราจับได้นั้น RTX 2080 Ti ตัวนี้ก็ยังแรกว่า GTX1080 Ti อยู่ถึง 19.65fps เฉลี่ยนกันเลยทีเดียวครับ หุหุ… จัดว่าทรงพลังมากๆ บน BF5 สำหนับ RTX 2080 Ti…..

 

Crysis 3

ทดสอบกับ Legacy Game กันบ้างอย่างเกมตัวโหดในยุคของ DirectX 9.0C อย่าง Crysis 3 (CryEngine) พบว่าการ์ดทั้ง 2 รุ่นทำเฟรมเฉลี่ยไม่ได้ต่างกันอะไรมากนักเพียงระดับ 7.26fps. เฉลี่ยเท่านั้น แสดงว่าที่ DX9.0c นั้นสถาปัตยกรรม Turing ทำได้ดีกว่า Pascal อยู่ระดับหนึ่งครับ ^^”

 

DEUS EX Benchmark

มาดูกันต่อที่ DEUS EX นั้นพบว่า RTX 2080 Ti ทำได้ดีกว่าราวๆ 10.6fps เฉลี่ยครับ

 

The Division Benchmark

ส่วนเกมนี้ก็ต่างกันในที่ระดับ Performance Scale เท่าๆ กับเกมอื่นๆ ที่ประมาณ 10.1fps เฉลี่ยครับ

 

Ghost Recon Wildlands Benchnmark

เกมนี้มีผลต่างกัน 9.88 fps เฉลี่ย…

 

Far Cry Primal Benchmark

ต่อกันที่ Far Cry Primal Benchmark (DX11) พบว่าการ์ดทั้ง 2 รุ่นทำเฟรมเฉลี่ยได้เท่ากันพอดีเลยที่ 105fps สรุปแล้วเกมนี้แทบไม่มีอะไรต่างกันเลยสำหรับ Turing และ Pascal ฮ่าๆ…

 

Far Cry 5 Benchmark

Far Cry 5 กันต่อเลยครับ โดยเกมใหม่นี้ก็ทำให้เห็นผลการทดสอบที่ต่างกันแบบชัดเจนอีกครั้ง โดยที่ RTX 2080 Ti แรงกว่าประมาณ 12fps. เฉลี่ยกันเลยทีเดียวครับ

 

Rise of Tomb Raider Benchmark

มาดูกันต่อเลยที่ Rise of Tomb Raider Benchmark นั้นเจ้ RTX 2080 Ti แรงกว่า 7.84fps เฉลี่ยครับ…. ต่างกันไม่เยอะเท่าไรนะ ผมว่า…

 

Shadow of Tomb Raider Benchmark

     และเกมทดสอบสุดท้ายของรีวิวฉบับนี้กับ Shadow Of Tomb Raider ตัวล่าสุดครับปรับรายละเอียดสุดๆ ด้วยเช่นกัน พบว่า RTX 2080 Ti ตัวนี้แรกงกว่า GTX 1080 Ti อยู่ถึง 18fps เฉลี่ยกันเลยทีเดียวครับ ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่า ยิ่งเป็นเกมใหม่ๆ เจ้า RTX ยิ่งแผลงฤทธิ์ให้เราเห็นได้แบบชัดเจน ดังนั้นในอนาคตอันใกล้นี้ ถ้าทาง NVIDIA และค่ายเกมร่วมกันพัฒนาให้การ์ดกับ Engine เกมคุยได้แบบรู้เรื่องพอ… รับรองได้ว่า Turing นั้นอนาคตคงไปได้อีกไกลแน่นอนครับ ^^”  ปล. ผมนี้รอ Ray Tracing เปิดบนเกมนี้อยู่นะครัช…. ^O^