รีวิวจอเล่นเกม 2K สุดพรีเมี่ยม AGON 4 PRO 27″ AG274QXM Mini LED Premium Gaming Monitor
สวัสดีครับ วันนี้เรามีจอเล่นเกมสุดเทพจากค่าย AOC มาแนะนำกันอีกหนึ่งรุ่นครับ โดยจะเป็นในกลุ่มตลาดจอ Monitor ที่มี Series ว่า AGON 4 PRO ขนาดหน้าจอ 27″ นิ้ว รหัสรุ่น “AG274QXM” Mini LED Premium Gaming Monitor โดยทาง AOC จัดให้จอรุ่นนี้เป็นตัวเทพสำหรับการเล่นเกมบนจอภาพที่มีความละเอียด 2K (2560×1440) โดยมีจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งเลยก็คือการใช้ Panel IPS + Backlighting Mini-LED มีค่า Refresh Rate 170Hz | Response Time 1ms (GtG) และรองรับเทคโนโลยี Adaptive Sync Anti-Tearing / G-sync Compatible กันภาพฉีก และแถมยังผ่านมาตรฐาน VESA DisplayHDR 1000 อีกด้วยนะเออ…
และสำหรับรายละเอียดของการรีวิวในวันนี้ผมคงจะเน้นไปที่เรื่องของความรู้สึกของความไหลลื่นในการเล่นเกม FPS เป็นหลักเลยนะครับ คงไม่ลงลึกเรื่องแสงสีอะไรมากนัก แต่โดยคราวๆ สีสวยและไล่ระดับ contrast ratio ขาว ไป ดำ ได้ดีระดับหนึ่งเลยทีเดียว สีดำนี่ดำแทบสนิทเลยครับ ส่วนรายละเอียดทางเทคนิค และ Feature ต่างๆ ที่น่าสนใจของจอ 2K รุ่นนี้ชมได้จากตารางด้านล่างนี้เลยครับ ปล. มีไฟโปรเจคเตอร์โลโก้ส่องลงมาจากฐานจอได้ด้วยนะ…
Feature :
Specification รายละเอียดทางเทคนิค
| Model name | AG274QXM |
| Panel | 27″ (IPS) |
| Pixel Pitch (mm) | 0.2331 (H) x 0.2331 (V) |
| Effective Viewing Area (mm) | 596.74 (H) x 335.66 (V) |
| Brightness (typical) | 550 cd/m² |
| Contrast Ratio | 1000 : 1 (Typical) 80 Million : 1 (DCR) |
| Response Time | 1ms (GtG) |
| Viewing Angle | 178° (H) / 178° (V) (CR > 10) |
| Color Gamut | NTSC 127% (CIE1976) / sRGB 155% (CIE1931) / DCI-P3 116% (CIE1976) |
| Color Accuracy | Delta E < 2 |
| Optimum Resolution | 2560 x 1440 @ 170Hz(OC) – DisplayPort1.4, 2560 x 1440 @ 165Hz – DisplayPort1.4, 2560 x 1440 @ 144Hz – HDMI2.0. USB-C |
| Display Colors | 1.07 Billion |
| Signal Input | HDMI 2.0 x 2 (HDR), DisplayPort 1.4 x 1 (HDR) USB-C (DP Alt, 65W) x 1 |
| HDCP Version | HDMI: 2.2, DisplayPort: 2.2 |
| USB Hub | USB 3.2 Gen1 x 4 / mini USB (for key pad) x 1 |
| Power Supply | 19.5VDC, 16.9A (External Adatper) |
| Power Consumption (typical) | 65W |
| Speakers | 5W x 2 |
| Line in & Earphone | Earphone (combine with microphone) × 1, Microphone In & out × 1 |
| Wall-Mount | 100mm x 100mm |
| Adjustable Stand | Height: 120mm, Swivel: -20° ~ 20°, Pivot: 90°, Tilt: -5° ~ 23° |
| Product without Stand (mm) | 368.2 (H) x 612.9 (W) x 73 (D) |
| Product with Stand (mm) | 427.3~547.3(H) x 612.9 (W) x 352.1 (D) |
| Product without Stand (kg) | 5.85 |
| Product with Stand (kg) | 8.15 |
| Cabinet Color | Black & Red |
| Regulatory Approvals | CE / FCC / BSMI / KCC / Estandby |
ครั้งแรกของผมสำหรับการดูจอ Monitor ที่ใช้เทคโนโลยี Mini LED Backlight ค่าให้ค่า Contrast ที่ค่อนข้างดูดีเลยล่ะครับ ขาวจริง ดำจริง
ส่วนมุมมองด้านข้างหรือ View Angle นั้นมองได้ถึงระดับ 178 องศา จัดว่าค่อนข้างกว้างอยู่นะครับ
ผ่านการรองรับมาตรฐาน VESA DisplayHDR 1000 ช่วยให้กันไล่ระดับสีที่ลึกขึ้นสวยงามและดูมีมิติมากขึ้น
แกะกล่องดูกันเลยดีกว่าครับสำหรับ AGON PRO 27″ AG274QXM ตัวนี้ และก่อนอื่นเลยขอแนะนำการประกอบจอที่ถูกต้องตามคู่มือสักเล็กน้อย เพื่อป้องกันความเสียหายเช่นหน้าจอภาพแตกไรงี้… กล่าวคือ ควรจะประกอบขายึดจอและฐานให้เรียบร้อยในกล่องโฟมของมันเองตามคู่มือก่อน แล้วค่อยยกจอออกมาครับ
วางจอภาพคว่ำหน้าลงไปแล้วติดตั้งขายึดจอจากด้านหลัง และติดตั้งฐานตั้งจอเป็นอัดับสุดท้าย
ขันน๊อตให้แน่น เช็คความพร้อมแล้วจับตั้งได้เลยครับ…
นี่หคือหน้าตาของจอ AGON PRO 27″ AG274QXM ภาพที่เป็นอยู่นี้คือปรับระดับจอขึ้นสูงสุดแล้วนะครับ โดยสีของตัวจอและตัวฐานจะเน้นไปที่สีดำ และตัดกับสีแดงของขายึดจอภาพด้านหลังครับ ส่วนขอบจอนั้นเน้นบาง (Minimal Bezel) เหมาะกับการต่อหลายจอในรูปแบบ Multi Monitor
Adjusting the monitor
รายละเอียดของการปรับแต่งหน้าจจอครับ ตามภาพเลยว่าจะปรับหน้าจอให้สูง/ต่ำ หันด้านซ้าย/ขวา และความสามารถในการพลิกจอตั้งได้แบบ 90 องศา
กดจอภาพลงมาในระดับต่ำสุดครับ
มุมมองในการหันได้ขวา และด้านซ้าย ได้ประมาณ 20 องศา
ภาพมุมมองบริเวณด้านหลังของจอภาพ โดยตัวขายุดและฐานตั้งจอนั้นออกแบบมาค่อนข้างแข็งแรงมากเลยทีเดียว และก็มีฐานที่ค่อนข้างกว้างมากอีกด้วย โต๊ะใครแคบก็ระวังกันนิดหนึ่งนะครับ ส่วนด้านหหลังยังมีระบบไฟ Light FX ที่สวยงามอีกด้วยนะครับ
ตัวอย่างภาพการตั้งจอขึ้นแบบ 90 องศาครับ
AGON Logo บริเวณขอบด้านหลังของจอภาพ (ด้านหลังจอ)
ปุ่มกดเลือกเมนูการทำงานต่างๆ ของจอภาพครับ จะอยู่บริเวณด้านหลังขวามือของจอภาพ
ส่วนขอบจอด้านซ้ายหลังออกแบบมาให้มีที่แขวนหูฟังได้ โดยให้ Slide ออกไปด้านข้าง
ตัวอย่างภาพการแขวนหูฟังครับ หรือจะแขวนอุปกรณ์อื่นๆ ก็ได้ ที่ไม่มีนำหนักมากเกินไป….
Back I/O Panel
- HDMI 2.0 x 2 (HDR)
- DisplayPort 1.4 x 1 (HDR)
- USB-C (DP Alt, 65W) x 1
บริเวณจุดเสียบ Port ต่างๆ ด้านหลังของจอภาพรุ่นนี้ครับ
1. Microphone in
2. Earphone (Combined with Microphone)
3. USB3.2 Gen1 downstream + fast charging
4. USB3.2 Gen1 downstream
5. USB3.2 Gen1 upstream
6. Power
7. HDMI1
8. HDMI2
9. DP
10. USB C
11. Microphone out (Connect to PC)
12. Quick Switch port
อุปกรณ์ต่างๆ ที่แถมมาในกล่องครับ
Quick Switch Keypad เอาไว่ต่อด้านหลังจอภาพ เพื่อกดแทนเมนูด้านหลังจอได้สะดวกขึ้นครับ และยังมี Profile สำหรับการเล่นเกมอีก 3 Profile ให้กดใช้งานแบบง่ายๆ ไม่ต้องเอื้อมมือไปกดด้านหลังจอให้เสียเวลา ผมว่าช่วยให้เราเปลี่ยนโหมดภาพได้สะดวกขึ้นเยอะเลย
Adapter แปลงไฟบอกได้เลยว่าหม้อใหญ่มากครับ ฮ่าๆ…. (19.5VDC, 16.9A)
จริงๆ แล้วจอรุ่นนี้มี Shading Hood หรือ Screen Shield ช่วยลดแสดงสะท้อนมาให้ด้วยนะครับ แต่สินค้า Demo ตัวนี้ดันไม่มีให้มาในกล่อง เลยอดเอามาใส่ดูเลย ฮ่าๆ….
System Pic & Setup
ภาพบรรยากาศในการทดสอบในครั้งนี้
Hardware Spec.
| CPU |
Intel Core i9-12900K 8P+8E 24Threads OC to P-Core 5.3Ghz / E-Core 4.1Ghz
|
| CPU Cooler |
Water Cooler Custom Set |
| Motherboard | ASRock Z690 AQUA OC |
| Memory |
T-FORCE DELTA RGB DDR5-6000 CL40 32GB-Kit OC to DDR5-6600 CL28 |
| VGA | MSI RX 6900 XT GAMING X TRIO 16GB |
| Hard Drive | T-FORCE CARDEA Z44L PCIe4.0 x4 NVMe1.4 SSD 1TB (OS) |
| PSU | TT ToughPower PF1 ARGB 1050Watt 80 Plus Platinum |
| Base Test |
“DEFAULT” |
| Monitor |
AGON PRO 27″ AG274QXM Mini LED Premium Gaming Monitor |
| OS | Windows 11 Pro 64 bit [Last Update] |
ส่วนรายละเอียดทางด้าน Spec ของ Hardware ในการทดสอบหลักในวันนี้เลยก็คือ CPU Intel Core i9-12900K Overclock ไปที่ความเร็ว P-Core Core 5.3Ghz | E-Core 4.1Ghz | Cache 4.5Ghz เมนบอร์ดเป็นของ ASRock Z690 AQUA OC และแรมของ T-Force DELTA RGB DDR5-6000 CL40 32GB-Kit ทำการ Overclock เพิ่มความเร็วไปที่ DDR5-6600 CL28-37-37-28 1T + Tight Sub Timing และกราฟิกการ์ดจากทาง MSI RX 6900 XT GAMING X TRIO 16GB
Light FX
ระบบไฟ Light FX จะอยู่ด้านหลังของจอภาพทั้งด้านซ้ายและด้านขวา รวมถึงขอบด้านล่างของจอภาพอีกด้วยครับ มีลูกเล่นให้ผู้ใช้เลือกปรับแต่งแสงสีและรูปแบบการแสดงผลได้หลายลายแบบเลยทีเดียว
ภาพแสดงของ Light FX บริเวณด้านล่างขอบจอภาพครับ
มีไฟโปรเจคเตอร์โลโก้ส่องลงมาจากฐานจอได้ด้วยนะครับ สามารถสลับเลือกการแสดงผลได้ 2 แบบคือ AGON Logo หรือเป็นตัวอักษรคำว่า AGON และนอกจากนนี้ผู้ใช้ยังสามารถปรับแต่งสีสันของไฟโปรเจคเตอร์ในเมนูของจอภาพแบบ RGB ได้อีกด้วย
ตัวอย่างการแสดงสีสันของไฟโปรเจคเตอร์ครับ กดเลือกผสมสี R G B ได้ตามใจชอบ หรือจะสั่งปิดแสงไฟโปรเจคเตอร์ก็สามารถทำได้เช่นกัน
Monitor Menu & Gaming Test
sdasdsad
จอภาพรุ่นนี้รองรับการแสดงผลภาพ Bit depth 10-bit ด้วยนะครับ และอัตราค่า Screen Refresh Rate สูงสุดอยู่ที่ 170Hz โดยต้องต่อผ่านสาย Display Port 1.4 เท่านั้น หากเราต่อผ่านสาย HDMI2.0 หรือ USB Type-C จะรองรับ Refresh Rate ได้เพียง 144Hz เท่านั้น ส่วนความละเอียดของหน้าจอสูงสุดก็คือ 2560×1440 หรือ 2K นั่นเอง (QHD)
Quick Switch Keypad
มาดูใส่วนของเมนูต่างๆ ที่สำคัญของจอภาพรุ่นนี้และตัว Quick Switch Keypad ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งค่าเมนูและโหมดต่างๆ ของจอภาพได้ง่ายขึ้น โดยส่วนตัวแล้วผมมองว่าทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว ตอบโจทย์เกมเมอร์และผู้ผู้ใช้งานได้ดีมากๆ เช่นถ้าหากผมทำงานหรืออยู่ในหน้า Desktop ก็สามารถกดปุ่มจาก Quick Switch แทนการเอื้อมมือไปกดเมนูด้านหลังจอภาพได้สะดวกขึ้น ถ้าจะเล่นเกมก็กดปุ่ม 1/2/3 ที่ตั้งค่าเป็น Game Mode ได้ถึง 3 แบบ สะดวกรวดเร็วจริงๆ
Crosshair แสดงเป้าเป็น OSD ขึ้นมาซ้อนได้ด้วยนะครับ
ใครชอบดูตัวเลขของ FPS ก็สามารถสั่งแสดงผลออกมาทาง OSD ได้ และสามารถเลือกตำแหน่งแสดงผลได้หลายมุม
โหมดของ HDR มีทั้งหมด 3 Mode | HDR Picture | HDR Movie | HDR Game
Shadow Control เร่งแสงของเงาในเกมให้สว่างขึ้นได้หลายระดับครับ ช่วยให้เรามองเห็นในที่มืดได้ดีมากขึ้น
ในหมวดของ Luminance ก็เอาไว้ปรับเรื่องของภาพการแสดงผล Contrast / Brightness / Gamma และ Eco Mode ที่เป็น Profile ให้เลือกตามความต้องการของผู้ใช้
DCR (Dynamic Contrast Ratio) มีให้ปรับความคมชัดได้อีกด้วย ใครที่คิดว่ายังไม่ชัดพอก็ลองเปิดโหมดนี้ดูครับ ภาพจากสว่างและค่อนข้างคมมาก เพราะสำหรับดูหนัง หรือเล่นเกม หรือถ้าไม่ชอบโหมดนี้ก็ไปเลือก Eco Mode ก็ได้ครับ มันค่อนข้างหลากหลายเมนู ในส่วนของการแสดงผล ลองปรับแต่งตามความต้องการของเราได้ ชอบโหมดไหนก็เปลี่ยนตามความต้องการ
LowBlue Mode ลดแสงสีน้ำเงินถนอมสายตาก็มีให้เลือกปรับเป็นโหมดต่างๆ ได้เช่นกัน
ในหน้าของ OSD Setup นั้นยังมีให้ปรับแต่งการทำงานของ USB ที่เสียบกับจอภาพได้อีกด้วยว่าจะใช้แบบไหน
ในส่วนนี้จะเป็นของหน้าจอ Logo Projector ที่ส่องสว่างออกมาใต้ฐานจอว่าจะให้มีความเข้มของแสงสว่างระดับไหน และผู้ใช้ยังสามารถปรับแต่งสีสันแบบ RGB ได้เองอีกด้วย กล่าวคือสามารถผสมแม่สีทั้ง 3 สีได้เองตามความต้องการ
Light FX Mode เอาไว้ปรับการแสดงผลของไฟ LED ด้านหลังจอครับ
ค่าเริ่มต้นของจอรุ่นนี้เหมือนจะเปิดการทำงานของ Adative-Sync มาให้แบบ On อยู่แล้ว ช่วยลดภาพฉีกขาดเวลาเล่นเกมที่มี fps สูงๆ
Game Test : Call Of Duty Modern Warfare | Multi Player Mode
ต่อไปจะเป็นความรู้สึกจากการที่ได้ลองเล่นเกม COD MW ในโหมด Multi-Player ด้วย AGON PRO 27″ AG274QXM ร่วมกับกราฟิกการ์ด RX 6900 XT โดยความละเอียดหน้าจอปรับไว้สูงสุดที่ 2560×1440/170Hz และจากการทดสอบของผมก็พบว่า AG274QXM ตัวนี้มีการตอบสนองความไวภาพได้ค่อนข้างดีมากเลยทีเดียว นอกจากภาพจะดูสวยแล้ว ภาพยังไวมากอีกด้วย จัดว่าเป็นจอเล่นเกมรุ่นหนึ่งที่ไม่ธรรมดารุ่นหนึ่งเลยทีเดียว เรื่องของการตอบสนองของภาพ บอกเลยว่า ไว้จริงๆ (ทั้งนี้และทั้งนั้นขึ้นอยู่กับความแรงของ Hardware และกาารปรับแต่ง Software / Driver ด้วยว่าเหมาะสมแค่ไหน)
Graphics card Driver Setup
การปรับแต่งในส่วนของระบบภาพใน Driver นั้นก็ค่อนข้างสำคัญอยู่นะครับ โดยเฉพาะผู้ที่มีกราฟิกการ์ดระดับ Hi-END และจอภาพที่มีความไวในการตอบสนองเป็นพิเศษแบบนี้ หากเราพลาดอะไรบางอย่างไปแล้ว บอกเลยว่า อาจจะไม่ได้เห็นประสิทธิภาพสูงสุดของจอและ System ของเราที่แท้จริง ต่อไปนี้ผมจะแนะนำการปรับแต่งค่าที่ผมปรับแล้ว รู้สึกและสัมผัสได้จริงว่า ตอนเล่นเกมจริงๆ มันลื่น และตอบสนองได้ไวจริงๆ จากความรู้สึกขณะเล่นเกม โดยเกม COD MW กับการ์ด RX 6900 XT ตัวนี้ เท่าที่ผมเริ่มปรับแต่งระบบ Graphics Setting ในเกมจากที่ ยังไม่ยุ่งกับ Driver การ์ด ปรับแต่ง V-Sync ในเกมอย่างเดียว ให้จอและการ์ดแสดงผลที่ FPS / Hz เท่ากันที่ 170Hz ก็พบว่ามันก็ดูเหมือนจะไหลลื่นดีนะ…. แต่เอาจริงๆ เหมือนกับมันยังตอบสนองได้ไม่ดีครับ V-Sync ก็คงช่วยแค่เรื่องภาพไม่ฉีกเท่านั้นเอง แต่ดันไปจำกัดศักยภาพของตัวการ์ดที่อาจจไปเฟรมได้เกิน 200fps+
จริงๆ โหมดแก้เรื่องภาพฉีกมันมีหลากหลาย และอาจจะงง และสับสนครับ ผมเลยเน้นไปเลยว่า ปรับอะไรแล้วภาพดูดีสุด และแก้เรื่อง Input Lag ได้ดีสุด กว่าวคือ ให้ลองปรับแต่ Radeon Enhanced Sync และ Radeon Anti-Lag แค่ 2 อย่างนี้ในส่วนของ Driver นี้ก่อน…. (Adaptive Sync Campatible เปิดมาให้อยู่แล้วใน Driver) ส่วนในเกมลองไปปรับ V-Sync On/Off ดูได้ว่ามีอะไรต่างไหม เท่าที่ลองถ้าเราปรับ Enhanced Sync ไปแล้วภาพก็ไม่ได้ฉีกที่ FPS สูงๆ แล้วนะครับ แถวเฟรมยังทะลุจอไปอีกด้วย เออ….. งงเข้าไปอีก แต่ภาพไม่ฉีก และตอบสนองไวมาก แถมยังลด Input Lag ได้ดีมากๆ อีกด้วย ลองตามนี้ดูละกันครับ….
Game Display and Quality Setting (2560×1440)
รายละเอียดในการปรับภาพของเกมนี้ก็จะเน้นไปที่ความละเอียดหน้าจอ 2560×1440 pix / 170Hz ส่วนในเรื่องของSync Every Frame (V-Sync) จะลองปิดก่อนก็ได้ ถ้าภาพไม่ฉีกก็ไม่ต้องสนใจครับ ใช้ตาดูอย่างเดียวในตอนเล่นเกม ง่ายสุด….
ส่วนรายละเอียดของ Graphics Quality ผมจะเน้นไปที่ Low เกือบทั้งหมดนะครับ เพราะเกมนี้ผมเน้นที่ FPS เป็นหลัก เน้นความไวในการเล่น เพราะตัว Game Play ในโหมดของ Multi Player นั้นเป็นเกมที่ค่อนข้างไวมาก เผลอคือตายครับ มันจะไม่เหมือนกับ Story Mode ที่เน้นเสพกราฟิก ยิงนก ชมไม้…. แต่กับโหมดผู้เล่นแบบ Multi Player ใครไวกว่า…. คือได้เปรียบจริงๆ ครับ ขอให้ดีทั้ง Hardware และ Internet ด้วยนะครับ เครื่องแรงแต่เนทเน่าๆ ก็ไม่ไหวจ้า….
จากการที่ลองเล่นเกมนี้กับ Config การปรับแต่งที่ผมกล่าวไปคือมีแค่ Radeon Enhanced Sync + Radeon Anti-Lag + ปรับแต่งหน้าจอ 1440p + Low Setting เพียงแค่นี้ก็บอกได้เลยว่า ไหลลื่นและตอบสนองไวแบบที่ไม่เคยสัมผัสได้มาก่อน แทบไม่เจอ Input Lag ในเกมนี้เลย และภาพไวตามมือจริงๆ ดีสุดเท่าที่เคยสัมผัสมาจริงๆ ครับ จอรุ่นนี้ผมว่าเป็นอีกรุ่นหนึ่งที่ไม่ธรรมดาสำหรับเล่นเกม 2K และสีสันของภาพก็ทำได้ดีมากด้วยคมชัดมาก แสงสีก็ดีเลยล่ะ แต่ที่ชอบคือ ความไวของภาพและการตอบสนองในการเล่นเกมนี่ล่ะครับ ให้ผ่านเลย เทพจริงๆ ยอม…. จัดไป 45 Kills ^O^
Conclusion.
เอาล่ะครับ สรุปกันสั้นๆ เลยสำหรับ จอเล่นเกม 2K สุดพรีเมี่ยม AGON PRO 27″ AG274QXM Mini LED Premium Gaming Monitor ตัวนี้… โดยตอนแรกผมก็เฉยๆ นะครับไม่ได้คาดหวังอะไรมาก ก็คิดว่ามันก็คือจอเกมมิ่งทั่วไป IPS / 170Hz ในความละเอียด 2K แต่พอลองเล่นดูจริงๆ ก็เริ่มรู้สึกว่าการเลือกใช้ Panel IPS + Backlighting Mini-LED มีค่า Refresh Rate 170Hz | Response Time 1ms (GtG) มันให้ภาพที่แตกต่างไปจากจอรุ่นอื่นๆ จริง สีดำก็ดำจริงๆ ขาวก็ขาวจริง ไม่เหลือง… แถมอัตราการตอบสนองของความไวภาพในต่อเล่นเกมร่วมกับการเปิด Driver ในส่วนของ Radeon Enhanced Sync และ Radeon Anti-Lag ตอนเล่นเกม COD MW ในโหมด Multi Player แล้วมันสัมผสได้จริงๆ ครับว่าไหลลื่นมากๆ เรื่องภาพฉีก ตัดออกไปได้เลยครับ ถ้าไม่ได้ต่างค่าอะไรผิดไปเรื่องของภาพฉีกในยุคนี้ แทบไม่เจอกันแล้วกับเทคโลโนยียุคปปัจบัน (ค่าเริ่มต้นบางทีทั้ง Hardware และ Software ก็ตั้งค่ามาให้ดีอยู่แล้ว หากดูว่าผิดปกติ ค่อยไปปรับแต่งในส่วนของโหมดภาพและ Driver Setting ดูภาพหลังยังได้เลยนะผมว่า) ปล. จอรุ่นนี้มีลำโพงในตัวด้วยนะครับ ลืมบอก…. ฮ่าๆ
เรื่องของสีภาพผมคงไม่ฟันธงอะไรมาก ผมไม่ใช่สายทำงานขนาดนั้น… มันคือจอเกมมิ่ง ก็ต้องเอาไปเล่นเกมเป็นหลัก… แต่ภาพก็ไม่ได้ด้อยอย่างแน่นอน ดีกว่าจอหลายๆ รุ่นที่ผมเคยลองมาด้วยซ้ำ โดยเฉพาะเเรื่องของ Contrast ที่มี Mini-LED เข้ามาช่วยนี่ดีขึ้นมากเลยครับ ส่วนทีเด็ดของจอเกมมิ่งรุ่นนี้อีกอย่างที่ผมชอบมากก็คือ Quick Switch Keypad ตัวนี้… คือสะดวกมากๆ เวลาเล่นเกมกดปุ่ม Game Mode ได้ทันที โดยไม่ต้องเอื้อมมือไปกด Switch ด้านหลังจอ เพราะเสียเวลามาก
ส่วนข้อด้อยก็มีในบางส่วนสำหรับผมเลยก็คือ เมนูของ OSD / UI นั้นแคบ ดูค่อนข้างยาก น่าจะทำให้เมนู OSD ใหญ่กว่านี้อีกนิด คือถ้าไม่ได้ตัว Quick Switch Keypad มาช่วยปรับแต่งด้วยนี่คือแย่นะผมว่า ส่วนไฟ Light FX นั้นสวยก็จริงครับ แต่อยู่ด้านหลังจอ ผู้เล่นมองไม่เห็นเลย และโหมดในการปรับเเลือกการแสดงผลต่างๆ ก็มีเยอะเกินดูซับซ้อนเกินไป
เอาล่ะครับสำหรับใครที่กำลังมองหาจอมอนิเตอร์เล่นเกมแบบ Premium ขนาดความละเอียดหน้าจอ QHD หรือ 2K (2560×1440) + Refresh Rate 170Hz | Response Time 1ms (GtG) แบบรุ่นนี้อยู่… ก็ลองพิจารณาดูกันได้เลยครับ เรื่องของแสงสีและความไวภาพนั้นไม่เป็นรองค่ายอื่นอย่างแน่นอน ส่วนราคาขายนั้นเเท่าที่แอบส่องๆ ดูก็อยู่ในช่วง 3x,xxx.- บาท กลางๆ ครับ การรับประกันอยู่ที่ 3 ปีเต็ม และสำหรับวันนี้ผมเองก็ต้องขอตัวลาไปก่อน พบกันใหม่รีวิวฉบับหน้า สวัสดีครับ
Special Thanks
Authorized Distributor:
Ascenti Resources Co., Ltd | ARC
- Website: www.ascenti.co.th
- Head office: 0-2961-7297