ASUS ROG STRIX X470-F GAMING Motherboard Review

Max Overclocking on AIO Cooling

มาถึงคิวการ Overclock แบบ Max max สุดๆ กันบนชุดระบายความร้อนด้วยน้ำแบบ AIO 3 ตอน ของ CPU AMD RYZEN 7 2700X 8C/16T ร่วมกับเมนบอร์ด ROG STRIX X470-F GAMING ตัวนี้ พบว่าสามารถลากยาวได้ถึงระดับ 4.5Ghz ด้วยไฟเลี้ยง 1.59V บูทตรงจาก BIOS เข้าสูง OS ได้สบายๆ เลยล่ะครับ จัดว่าไม่ธรรมดาจริงๆ ไปชมความแรงส่งท้ายกันเลยครัช…

 

Super Pi 32MB Single Thread @ 4.5Ghz

โอว์แม่จ้าว Super Pi 32MB หัวเดียวบน AMD RYZEN ที่ความเร็วระดับ 4.5Ghz นั้นคำนวณได้เวลาเพียง 8 นาที 34.394 วินาทีเท่านั้น จัดว่าแรงมากแล้วสำหรับทาง AMD ในยุคนี้ครับ ส่วน Pi 1MB นั้นทำเวลาได้ 9.376 วินาทีครับ (ยังจำตอนสมัยที่เราเล่น AMD Athlon64 3000+ กันได้ไหมครับ ช่วงนั้น OC ไปที่ความเร็ว 2.7Ghz + แรม DDR1 บัส 600 CL2.5-3-3-7 ทดสอบ Super Pi 32MB หัวเดียวต้องรอเวลาถึง 27 นาทีโดยเฉลี่ยกันเลยทีเดียว ฮ่าๆ…)

 

AIDA64 Memory Bandwidth @ DDR4-3666CL14-14-14-34

จัดเต็มกันต่อเรื่องการ OC แรมกับความเร็ว DDR4-3666Mhz CL14-14-14-14-34 1T + Tight-Sub Timing ชุดเดิม บอกได้เลยว่าแรงจนตัวโก่งกันเลยทีเดียวกับค่า Read ในระดับ 56K กันเลยทีเดียว หุหุ…  ส่วนค่า Latency นั้นลดลงเหลือเพียง 58.7ns. เท่านั้น…

 

Conclusion.

ก็เรียบร้อยไปแล้วนะครับสำหรับการรีวิวแนะนำเมนบอร์ด ROG STRIX X470-F GAMING ซึ่งเหมาะอย่างมากสำหรับชาว Gamer ที่กำลังมองหาเมนบอร์ดเล่นเกมในงบประมาณ 7,xxx.- บาทและได้ Feature ที่พร้อมใช้งานครบครัน สำหรับใช้งานร่วมกับ CPU AMD Socket AM4 ที่สามารถติดตั้ง CPU ได้ทั้ง RYZEN Gen 1 และ Gen2 สามารถติดตั้งได้ทุกรุ่นกันเลยทีเดียว ส่วนใครที่มีโครงการหาบ้านให้กับ CPU AMD RYZEN 7 2700, 2700X หรือ RYZEN 5 2600 อยู่นั้นลองพิจารณาเมนบอร์ดตัวนี้ได้เลยครับ ผมมองว่าลูกเล่นเด็ดๆ ใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นช่องเสียบ RGB Header ที่มีให้ใช้ทั้งแบบ 5V-ADD Header และ 12V RGB Header บนเมนบอร์ด พร้อมรับรับการต่อใช้งานแบบ AURA Sync ร่วมกับอุปกรณ์ต่างๆ ที่รองรับได้เป็นที่เรียบร้อย

ส่วนช่องเสียบอุปกรณ์ต่างๆ บนเมรยอร์ดก็มีมาให้พร้อมใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นช่องเสียบ USB3.1 Gen 2 ทั้งแบบ Type-A และ Type-C บริเวณด้านหลัง Back I/O Panel, ช่องเสียบ Front USB3.1 Gen2 ด้านหน้า Case อีก 1 ช่อง เป็นต้นครับ ส่วนช่องเสียบ PCIe3.0 x16 นั้นมีทั้งหมด 3 ช่อง รองรับการทำงานแบบ Multi-GPU ได้ทั้งแบบ AMD CrossfireX 3-Way และ NVIDIA SLI 2-Way, ช่องเสียบ M.2 PCIe3.0 x4 จำนวน 1 ช่องและแบบ M.2 PCIe 3.0×2 อีก 1 ช่อง โดยทั้งสองช่องรองรับขนาดยาวสุดได้แบบ 2280 และยังติดตั้งได้ทั้งแบบ M.2 SATA/PCIe Controller ได้ทั้งคู่เลยล่ะครับ และที่ขาดไม่ได้เลยอีกอย่างเลยก็คือ ช่องเสียบ M.2 ด้านบนสุดมี Heatsink ระบายความร้อนสำหรับ M.2 มาให้เรียบร้อย และช่องเสียบ SATA3.0 6Gb/s มีให้อีก 6 ช่องด้วยกัน พร้อมรองรับ RAID 0, 1 และ 10

จุดเด่นในเรื่องของการ Overclock นั้นทำได้เด่นดีทั้งในเรื่องการ Oveclock CPU AMD RYZEN 7 2700X ให้เสีถียรภาพได้ในความเร็วระดับ 4.3Ghz + 8C/16 แบบไม่มีตัวคูณ Drop ส่วนการ OC แรมนั้นก็จัดว่าไม่ธรรมดาอีกเช่นกันในระดับ DDR4-3533 ถึง 3666Mhz+ นั้นทำได้แบบไม่ยากเย็น พร้อมยังสามารถเข้าไปขยี้กด Sub-Timing ได้แบบสุดๆ กันอีกด้วย จึงช่วยให้ประสิทธิภาพโดยรวมของ CPU ได้อีกมากมายเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการทดสอบในด้านใช้งานต่างๆ และด้านการเล่นเกมก็ทำให้เห็นได้ชัดเจนว่าการ Overclock แรมบัสสูงๆ และกด Sub-Timing แบบแน่นๆ นั้นช่วยให้ CPU AMD RYZEN 7 2700X ตั้วนี้ปั่นเฟรมเรทเกมได้ดีขึ้นอีกเยอะเลย ลองติดตามผลการทดสอบได้ใน ROG STRIX X470-F GAMING Overclocking Guide ของเมนบอร์ดรุ่นนี้จะเห็นได้ชัดเจนครับ  และสุดท้ายนี้เราก็ขอฝากเมนบอร์ด ROG STRIX X470-F GAMING ตัวนี้ไว้พิจารณาดูกันด้วยสำหรับสาวก AMD ที่กำลังมองหาบ้านใหม่ให้กับ CPU AMD ZEN+ 12nm Pinnacle Ridge อยู่รับรองได้ว่าไม่ผิดหวังแน่นอน  สวัสดีครับ ^^”

 

Special Thanks

Power By Clock’Em UP Team