รีวิวปลั๊กราง Power Bar 6 ช่อง + USB 2.1A คุณภาพสูงจากค่าย Power Connex มาตราฐาน มอก.

      สวัสดีครับ วันนี้เรามาพูดคุยกันถึงเรื่องของปลั๊กรางคุณภาพดีๆ กันบ้างดีกว่ากับสินค้าจากทาง Power Connex ซึ่งจะเป็นลักษณะเป็นแบบ Power Bar รางยาวที่มาพร้อมกับช่องเสียบเต้าแบบ 3 รูทั้งหมด 6 ช่อง และช่องเสียบ USB ที่จ่ายกระแสไฟได้ 2.1A อีก 2 ช่อง (ทั้งสองช่องแชร์กระแสร่วมกัน)  และนาย Audigy ทำไมอยู่ๆ ถึงไปหาปลั๊กรางมารีวิกันนะ…. ????   เอาเป็นว่าผมขอเล่าเรื่องผ่านรีวิวและการแนะนำแบบง่ายๆ สำหรับผู้ที่กำลังมองหาปลั๊กรางคุณภาพสูง ที่มีทั้งระบบป้องกันกระแสเกิน/ไฟกระฉาก เพื่อป้่องกันไม่ให้เกิดไฟไหม้หรือลัดวงจรนั่นเอง… และที่สำคัญปลั๊กรางรุ่นนี้ ผ่านมาตราฐานของ มอก. เป็นที่เรียบร้อยด้วยเช่นกัน ดังนั้นมั่นใจในคุณภาพได้เลยครับ

     และสำหรับก่อนหน้านี้ผมเองก็กำลังพยายามมองหา ปลั๊กรางคุณภาพดีๆ ที่เสียบได้แน่นๆ สายไฟทองแดงเส้นใหญ่ๆ รับโหลดหนักๆ ได้ในบางครั้ง  เพราะว่าผมเองใช้เครื่อง Computer ที่มีการ Overclock จึงกินกระแสไฟและกำลัง Watt ค่อนข้างสูง บางครั้งก็โหลดเกินระดับ 1000Watt+ เสียด้วยซ้ำ หากว่าเพื่อนๆ เคยเห็นผมรีวิว PSU มาบ้างแล้วจะเห็นได้ว่า PC ที่มีการ Overclock สูงๆ และเลือกใช้ CPU หลายๆ คอร์ + กราฟิกการ์ดระดับ Hi-END มาทำการ Overclock นั้นสามารถสูบไฟได้เกิน 1200Watt+ ด้วย PC เพียงเครื่องเดียวในช่วง Take Load และยิ่งการ Overclock แบบ Extreme Sub-ZERO กับกราฟิกการ์ดแบบ Multi-GPU ด้วยแล้วนั้นบอกได้เลยว่า เท่าที่เคยผ่านๆ ตามากินไฟในระดับ 1600-1700Watt+++ เป็นเรื่องธรรมดาเลยในช่วง Benchmark  ดังนั้นการที่คุณมี PSU คุณภาพสูงแล้ว การที่มีปลั๊กรางคุณภาพดีๆ ไว้ใช้คู่เพื่อเกิดความอุ่นใจน่าจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับเราได้อีกเยอะเลย เมื่อมีการใช้งานในระยาวอย่างมั่นใจ…

     จริงแล้วผมก็ไม่ได้ซีเรียสมากนะครับหรับการเลือกปลั๊กรางใช้งาน  เมื่อก่อนผมเลือกแบบบ้านๆ เลย คือส่องๆ ดูว่าทองแดงมันดูแน่นๆ ไหม? วัสดุแข็งแรงรึป่าว?  แล้วถอดเสียบบ่อยๆ จะหลวม หรือเกิดการอาร์ค หรือเกิดประกายไฟได้ง่ายไหม ผมจะซีเรียสแค่เรื่องพื้นฐานพวกนี้ก่อน แล้วค่อยๆ มาเลือกแบบที่ชอบ  แต่….เมื่อสุ่มซื้อมาใช้งานจริงๆ ก็พบว่าการต่อหรือเสียบปลั๊กไฟในช่วงแรกๆ มันก็จะดูแน่นดีๆ นะ…. แต่สายงานที่ผมทำอยู่ มักจะต้องรีวิว และถอดๆ เสียบๆ สายไฟหรือพวกปลั๊ก PSU อยู่เป็นประจำ… จริงเกิดเหตุการณ์ที่ว่า ปลั๊กเริ่มหลวม หรือไม่ได้แน่นแบบที่ซื้อมาตอนแรก  และถัดมาคือเจ้า Swtich เปิด/ปิด แต่ละช่องก็ไม่ค่อยทนครับ ยิ่งผมเปิด/ปิดบ่อยๆ  Swtich มันก็จะเริ่มค้าง ปิดไม่ได้ ซึ่งเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ระยะปีแรกที่ใช้เลยล่ะครับ ฮ่าๆ   และจึงคิดมาตลอดว่า ถ้าซื้อปลั๊กที่แพงและงานดีกว่านี้ มันจะต้องดูลึกเข้าไปอย่างไรบ้าง เพราะบางที บางรุ่นที่เราดูไว้ ก็ยังไม่มีรีวิว  และก็โชคดีมากที่ได้มี Contact กับทาง Power Connex ที่ได้มาแนะนำสินค้า Power Bar หลากหลายรุ่นของ Power Connex ที่ LAB ของเราพร้อมตัวอย่าง Power Bar หลากหลายรุ่น จึงทำให้ผมค่อนข้างมั่นใจที่อยากจะลองปลั๊กรางรุ่นนี้ เพราะเห็นใส้ในแล้วบอกได้เลยว่า…. ต้องแบบนี้สิวะ…. ^O^

     เอาล่ะครับก่อนที่จะมาดูถึงโครงสร้างด้านในและตัว Package ต่างๆ ของตัวปลั๊กรางรุ่นนี้ ผมขอกล่าวถึงความเป็นมาของ Power Connex กันสักนิดดีกว่าครับ โดยบริษัทแม่จริงๆ แล้วคือ FibreConnex ผู้ผลิตรายใหญ่ระดับโลกในเรื่องของ Fibre optic ที่มีฐานการผลิตอยู่ใน 3 ทวีปครอบคลุมความร้อนการของลูกค้าได้ทั่วโลกเลยล่ะครับ โดยหลักๆ เข้าจะจำหน่ายสายสัญญาณสำหรับ Data Communication และ FTTX, Fibre Optic, Pre terminated, Pigtails และ Patch Cord  ดังนั้นเมื่อเขามาทำแค่ปลั๊กรางคุณภาพสูงๆ ก็คงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาอย่างแน่นอน และที่สำคัญเขามีความใส่ใจเรื่องความปลอดภัยและมาตราฐานคุณภาพของสินค้าเป็นหลักเลยล่ะครับ (จริงๆ แล้วมันคือปลั๊กรางระดับ Hi-END นั่นล่ะครับ ถ้าให้ผมพูดแบบเข้าใจง่ายๆ ^^”)  และเดี๋ยวเรามาดูรายละเอียดของปลั๊กรางรุ่นนี้กันว่า มันต่างกับปลั๊กรางบ้านๆ อย่างไรบ้าง…

 

     และสำหรับปลั๊กรางรุ่นที่ผมได้นำมารีวิวก็คือรุ่น Power Bar ขนาด 6 ช่อง ตัวสีฟ้าหรือในตระกูลของ PX Basic PDU Series สำหรับเอาไว้ใช้งานพื้นฐานตามบ้านเรือน หรือ DATA Center เป็นต้น โดยขนาดของมันจะเท่ากับตู้ Rack 1U พอดีเลย โดยสามารถติดตั้งมันเข้าไปในช่อง Rack 1U ได้เลย…. โดยรุ่นนี้จะมีรหัสว่า PXC5PHTNS-TS06US02 มาตราฐานผลิตจากประเทศอังกฤษ โดยจะมาพร้อมกับ Swtich เปิด-ปิด สีแดงขนาดใหญ่, มีระบบป้องกันกระแสเกิน, มีช่องเสียบ USB 2.1A จำนวน 2 ช่องพร้อมไฟ LED แสดงสถาณะการทำงานให้อีกด้วยครับ ส่วนการรับประกันนั้นมีให้ถึง 5 ปีเต็มเลยนะครับ สุดจริงๆ…   และสำหรับปลั๊กรางรุ่นนี้จะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 1,xxx.- บาทต้นๆ สำหรับรุ่น 6 ช่อง…

  • Rating Voltage : 250VAC 50/60Hz
  • Rating Current : 16A
  • Max. Power : 3,680Watt
  • Power Cord : 1.5mm x3m
  • Protection : IP20

 

และนี่ก็คือหน้าตาของ Power Bar ขนาด 6 ช่อง ที่มาพร้อมกับชุด Overload Protection + USB 2 ช่อง ซึ่งรุ่นนี้จะสังเกตุได้ง่าๆย เลยก็คือจะมีตัวถังสีน้ำเงิน โดยจะมีให้เลือก 2 ขนาดคือปบบ 6 ช่อง กับ 4 ช่องสำหรับปลั๊กไฟ  ส่วน USB 2.1A นั้นจะมี 2 ช่องเท่ากัน

 

     ดูอย่างไรว่าเป็นมาตราฐาน มอก. จริงๆ โดยพี่ๆ เขาแนะนำมาว่าจุดแรกก็ดูที่รูปแบบของเต้าเสียบเลยครับ คือต้องเป็นแบบในภาพนี้เท่านั้น คือแบบรูกลมๆ ทั้งหมด พร้อมช่องเสียบกราวด์  และแต่ละช่องต้องมี Logo ของ Brand ของตัวเองติดไว้ทุกช่อง  อย่างในภาพก็จะมี Logo ของทาง Power Connex ติดไว้ทุกช่องเลยครับ….. ถ้าหากว่าค่ายไหนไม่มีทุกช่อง….  สันนิษฐานเลยครับว่า มอก. แบบ ปลอมๆ แน่นอน ^^”  และสำหรับชิ้นงานนั้นบอกได้เลยครับว่า แข็งแรงมากไม่ธรรมดาจริงๆ

 

บริเวณช่องเสียบ USB 5V 2.1A เอาไว้สำหรับชาร์จมือถือหรืออุปกรณ์ที่ต้องการไฟเลี้ยงผ่าน USB โดยทั้ง 2 ช่องจะแชร์ไฟร่วมกัน 2.1A นะครับ ไม่ใช่การจ่ายช่องละ 2.1A !!!

 

ส่วนด้านนี้ก็จะเป็นการติดตั้งของอุปกรณ์ Overload Protection ที่มีไฟ LED แสดงผลการทำงานและปุ่มกด Reset เมื่อเกิดไฟเกิน ไฟกระชากจริงๆ ปุ่มมันจะเด้งขึ้นมานั่นเอง….

 

อันนี้ผมชอบมากเลยกับ Swtich สีแดงอันใหญ่ที่มาพร้อมกับ Cover พลาสติกใสกันเราไปปิดโดยไม่ต้องใจ เขาบอกว่าใช้พลาสติกคุณภาพสูงมาก (PC-ABS) มีความใสตลอดอายุการใช้งาน โดยที่มันจะไม่ขุ่นหมอง หรือเหลือง…. และยังทนรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

 

ความพิเศษของหน้า Contact ทองแดงด้านในนั้นเขาได้ทำการเคลือบ Nickel Coated ที่ขั่วทองแดงทั้งหมด เพื่อป้องกันทองแดงคืนรูปนั่นเอง…. สิ่งนี้แหละ ที่ผมต้องการ… คราวนี้ไม่หลวมง่ายๆ อย่างแน่นอน หุหุ…

 

ด้านข้างมีการสกรีน Logo ของ Power Connex และมาตราฐานต่างๆ รวมถึง มอก. ของไทยด้วย

 

360 องศา Hanging Rotation ขายึดทั้ง 2 ด้าน สามารถปรับยึดได้ 4 ทิศทาง หรือถอดออกได้ในกรณีที่ไม่ได้ใช้งาน

 

ภายในกล่องยังแถมน๊อตมาให้อีก 2 ชุดครับ ซึ่งทำมาอย่างดีเลยล่ะ…

 

     และในช่วงต่อไปนี้ผมก็จะขอแกะรื้อดูด้านในกันสักนิดครับว่ามีโครงสร้างที่แข็งแรง ปลอดภัยอย่างที่เขาบอกหรือไม่…. ซึ่งตัวถังหลัก จะทำจาก Aluminum Alloy เบาแต่แข็งแรงมากจริงๆ บีบไม่งอเลย… และน้ำหนักเบามาก  ซึ่งตอนแรกที่ผมเห็นสินค้าโหมเดลแนวๆ นี้ อารมณ์มันเหมือนปลั๊กรางสนาม รางใหญ่ๆ หนักๆ แบบที่เราคุ้นกัน  แต่นี่ไม่ใช่เลยครับ มันมีน้ำหนักเบาและแข็งแรงมากจริงๆ….

 

ทุกจุดสามารถแกะได้นะครับ  แต่สำหรับผู้ใช้งานจริง ผมแนะนำว่า อย่าไปแกะให้เสียประกันเลยนะครับ ถ้าเกิดอะไรพังตามอายุการรับประกัน ผมมองว่าส่งร้านเคลมเลยจะดีกว่า…

 

และนี่ก็คือใส่ในที่ผมถอดออกมาทั้งยวง ซึ่งมันจะเป็นแบบรางสไลด์ออกมาได้ทุกชิ้น โดยจริงๆ แล้วเขาบอกว่าลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ที่ต้องการสั่งทำแบบ Custom รางแบบต่างๆ ว่าจะเอาหัวปลั๊กแบบไหน เบรคเกอร์ขนาดใด สามารถสั่งผลิตได้ตามความต้องการครับ…

 

     บริเวณด้านหลังของ Copper Bar นั้นจะมีแผ่นกันช๊อตทำเป็น Cover และยังทำหน้าที่เป็นฉนวนกันการเกิดสนามแม่เหล็ก หรือกระแสไฟฟ้ารั่วไหลไปสู่วัสดุภายนอก  โดยเขาจะเรียกมันว่า “PVC Insulation”   ซึ่งเท่าที่ผมทราบมามีบริษัทที่นำเข้าเครื่องเสียงสำหรับสายหูทองชื่อดัง…. สั่งเข้ามาขายที่ร้านแล้วด้วยนะครับ โดยเขาจะเอาไฟเข้าที่ปลั๊กของ Power Connex ก่อนแล้วค่อยต่อไปยังตัว Stabilizer ก่อนเข้าชุดเครื่องเสียงอีกที เพื่อความปลอดภัย…

     และนี่ก็คือด้านหน้า และด้านหลังของตัวปลั๊กหรือ Socket เสียบปลั๊กไฟนั่นเอง ซึ่งจุดเด่นของค่ายนี้เลยก็คือ ปลั๊กทุกช่องจะเดินสายด้วยลวดทองแดงที่เรียกว่าแบบ Copper Bar เป็นลักษณะของทองแดงเส้นใหญ่ๆ เป็นเป็นชุดๆ แยกกันทั้ง 3 จุดเลยครับ ทนกระแสได้สูงมากอย่างแน่นอน หุหุ…  (ใครเคยแกะของปลั๊กรางบ้านๆ ดูบ้าง สายไฟเส้นนิดเดียวเอง… เรายังใช้กันได้  ^^”  แต่นี่ทองแดงเป็นเส้นเลยนะเออ….)

ตัว Copper Bar นั้นใช้เครื่องจักรบัดกรีนะครับ

 

และสุดปลายสายก็จะกลับมาเชื่อมต่อกันระหว่างสายไฟ + เส้นทองแดงตามภาพเลยครับ

 

สายไฟเป็นแบบ 105c 600V 14AWG เหลือๆ แน่นอน…. ทั้ง 3 เส้นหลัก

 

ปลั๊กรางระดับ Hi-END  ทนกำลังไฟได้ถึง 3,680Watt มันต้องแบบนี้ซิครับ…. ^O^

 

ชุดแปลงไฟ AC to DC สำหรับ USB 2 ช่องที่จ่ายกระแสร่วมกัน 2.1A ครับ

 

วงจร Overload Protection พร้อมไฟ LED บอกสถาณะการใช้งาน ถ้าขึ้นเป็นไฟสีเขียว ก็สามารถใช้งานได้ตามปกติครับ

 

และสุดท้ายก็ต่อมาที่ Master LED Switch ชุดใหญ่สำหรับเปิด-ปิด ไฟทั้งราง

 

สำหรับการทดลองต่อใช้งานผมขอแบบพื้นๆ ง่ายๆ ไม่ถึงกับต้อง Load ระดับ 3680Watt กันหรอกนะครับ คงหาไม่ได้  หลักๆ ผมขอของชาร์จไฟผ่าน USB ว่าทำงานเป็นอย่างไร และตัวรูปเสียบ Socket (ปลั๊ก) มันมีความแน่นจริงหรือไม่…..

 

ก่อนอื่นก็เปิด Swtich สีแดงอันใหญ่ให้ติดไฟสีแดงก่อนเลยครับ และดูที่ไฟ Power Protection จะขึ้นไฟสีเขียว นั่นคือสถาณะ ปกติ  ส่วนด้านในช่องเสียบ USB นั้นมีไฟ LED สีน้ำเงินสว่างออกมาด้วย น่าจะช่วยให้เราเสียบ USB ได้ง่ายขึ้นในที่มืดครับ

 

      สิ่งที่ชอบที่สุดเลยก็คือ การเสียบ Plug ลงรู้เต้าเสียบแน่นมากๆ เลยครับ ชอบๆๆๆๆ ^O^  และยังมีความปลอดภัยของ Eye Shutter ป้องกันเด็กเอานิ้วแหย่เข้าไป ซึ่งม่านพลาสติกจะเปิดได้ก็คือเมื่อมีการจิ้มเข้าไปพร้อมกันทั้ง 2 รูครับ   ส่วนช่องเสียบ USB ก็ดูแน่นๆ ใช้ได้ดีระดับหนึ่ง  แต่ที่ชอบที่สุดก็รูปเสียบปลั๊กทุกช่องเนี่ยล่ะครับที่ทำออกมาได้แน่นจริงๆ ไม่มีขยับได้เลย แข็งแรงและปลอดภัยสมกับเป็นปลั๊กรางระดับ Hi-END จริงๆ  ดังนั้นผูใช้งานทั่วไปหรือสำนักงานที่กำลังมองหาปลั๊กรางแบบ Power Bar คุณภาพสูงไว้ใช้งานพร้อมด้วยความปลอดภัยระดับสุดขั่ว… ผมแนะนำว่าลองพิจารณาปลั๊กรางจาก Power Connex ดูได้เลยครับกับการรับประกันยาวนาน 5 ปีเต็ม… พร้อมตราฐาน มอก. ใจในคุณภาพได้เลย…   และสำหรับปลั๊กรางรุ่นนี้ราคาในป้ายตั้งไว้ที่ 1,590.- บาท สำหรับรุ่น 6 ช่อง + USB x2  ถามว่าแพงไหม? กับราคา 1,590.- กับการรับประกัน 5 ปี  ลองคิดคิดเป็นราคาต่อเดือน  ตกอยู่เดือนละ 26.5 บาทเองนะเออ… ^^”

     เอาล่ะครับ คราวนี้ผมก็จะได้มีปลั๊กรางคุณภาพสูงไว้ใช้ประจำ LAB สักที เดี๋ยวจะทยอยไล่เปลี่ยนให้หมดทั้งบ้านและห้องทำงานเลยล่ะครับ เพราะของเขาดีจริงๆ เมื่อเทียบกับของทั่วไปที่ผมใช้งานอยู่….  สุดท้ายนี้ก็ขอเพื่อนๆ พิจารณาปลั๊กราง Power Bar คุณภาพระดับ Hi-END จากทาง Power Connex รุ่นนี้กันด้วยนะครับ… พบกันใหม่ รีวิวฉบับหน้า สวัสดีครับ

 

 

Special Thank

  • Power Connex